ไม่ว่าจะช็อปเมืองไทย หรือไปเมืองนอก หญิงไทยได้ชื่อว่าต่อราคาเก่งเสมอ "เท่าไหร่คะพี่ ลดหน่อยได้มั้ยคะ" ประโยคนี้ใครเป็นขาช็อป ย่อมคุ้นเคย เป็นอย่างดีจะลดมากหรือลดน้อยไม่ว่าขอให้ฉันได้ชื่อว่า ซื้อของถูกสักหน่อย เถอะนี่คือปรัชญาและความสุขอย่างหนึ่งของคนซื้อ แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เพราะฉะนั้นอยากได้ของถูก ก็ต้องใช้เทคนิคกันหน่อย ว่ามั้ย!!
เช็คราคาหลายๆ ร้านเพื่อความชัวร์
เมื่อเกิดอาการถูกใจของเข้าชิ้นหนึ่ง อย่าเพิ่งใจร้อนเอ่ยปากต่อราคาทันที เราต้องไปสำรวจร้านอื่นๆในละแวกเดียวกันก่อน เพื่อเปรียบเทียบราคา ให้แน่ใจว่าของชิ้นนี้ราคาประมาณนี้จริงหรือเปล่า และอีกกรณีหนึ่งคือ ถ้าร้านไหนติดป้ายราคา ไว้ชัดเจน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เขาอาจตั้งโอเวอร์ไว้เผื่อต่อแน่นอน
ตั้งราคาที่พอซื้อได้ไว้ในใจ แล้วค่อยลงมือต่อราคา
เมื่อเจอร้านที่คิดว่าราคาเข้าท่าที่สุดแล้ว ต้องดูด้วยว่า คนขายท่าทางใจดีและเป็นมิตร หรือเปล่า ถ้า โอเคก็เข้าไปดูอีกรอบ งัดประโยคคลาสสิค ออกมาถามนำคนขาย ก่อนเลยว่า "ลดได้เท่าไหร่คะ" แน่นอนตามสูตร คนขายมักลดให้ไม่เกิน 10 % ระหว่าง นั้นอย่าแสดงอาการว่าอยากได้จน ออกนอกหน้าเดี๋ยวคนขายรู้ไต๋ พยายามผูกมิตร ทำทีเป็นยิ้มแย้ม แล้วลองหยั่งเชิงขอลดประมาณ 40 % ไปเลย ถ้ายังไม่ได้ก็ ต้องลองต่ออีกสักยก (ยกเว้นที่บาหลีควรต่อเกินครึ่งเข้าไว้ แล้วสุดท้าย คุณจะได้ องในราคาลด 40-50%)
ครั้งแรกยังไม่ได้ ก็ทนใช้ลูกตื้ออีกหน่อย
ลองต่อลงมาอีกสัก 10 % อย่าพยายามต่อราคาแบบถ้วนๆ ต้องมีเศษบ้าง เช่น 20-60 บาท จะได้ดูเหมือนว่าไม่เยอะเกินไป เท่านั้นยังไม่พอ ควรพูดจาออดอ้อน หวานๆกับคนขาย เข้าไว้ (โดยเฉพาะ ถ้าคนขายเป็นผู้ชาย) ถ้าเขาหรือเธอยังมีท่าทางใจแข็ง อาจจะบอกว่ามีเงินอยู่แค่นี้ เผื่อคนขายจะเกิดอาการสงสาร หรือไม่ก็พบกันครึ่งทางในราคาที่เราพอใจจะซื้อเป็นครั้งสุดท้าย
ถ้ายังไม่สำเร็จอีก คงต้องงัดไม้ตายสุดท้ายออกมา
ไม้ตายสุดท้ายที่ว่า อันนี้หลายคนใช้บ่อย คือไม่ซื้อก็ได้แล้วเดินออกจากร้านไป ซึ่งจากประสบการณ์ 80 % มักได้ผล(เพราะล่าสุดเพิ่งใช้วิธีนี้เหมือนกันค่ะ) แต่ถ้ายังไงๆคนขายก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอม ลองไตร่ตรองดูว่าจำเป็นหรืออยาก ได้มากแค่ไหนถ้ามากเราคงต้องเป็นฝ่ายใจอ่อนเสียเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ก็เก็บเงินไว้ยังมีอีกตั้งหลายร้าน ที่อาจมีสินค้าคุณภาพที่ดีกว่าและถูกกว่าก็ได้หรืออดใจรออีกสักพัก สุดท้ายถ้าไม่มีใครซื้อเขาก็ต้องเอาออกมาเซลล์วันยังค่ำ การซื้อของบางครั้งต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง อยากให้เขาลดราคาก็ต้องรู้จักกติกาและมารยาท มาดูว่าพฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
อาจจะมีคนขายบางประเภทที่เป็นแค่ลูกจ้าง ไม่สามารถลด ให้เราได้จริงๆเราก็อย่าไปโกรธ ต่อว่าต่อขาน หรือทำท่าเชิดใส่เขา กิริยาแบบนี้จะยิ่งทำให้เขา ลำบากใจ สู้เดินออกมาเฉยๆ แล้วไปหาร้านอื่น จะดูดีกว่าเยอะเลย
เวลาเดินเลือกของ ไม่ซื้อไม่ว่าแต่อย่าแสดงกิริยาเหมือนกับว่า ของก็งั้นๆไม่เห็นจะอยากได้เลย แทนที่คนขายจะเข้ามา โอภาปราศัยหรือ ลดราคาให้กลับกลายเป็นอยากจะไล่ออกจากร้านเสียมากว่า
อย่าทำทีอวดรู้และเถียงกับคนขายว่า คุณรู้นะว่าของชิ้นนี้ราคาต้นทุนมาเท่าไหร่ ถ้าลดให้คุณในราคาที่คุณเสนอไป คนขายก็ยังได้กำไรอยู่ดีแบบนี้คงไม่ไหวเพราะวันๆ หนึ่งเขาคงต้องเจอกับลูกค้าที่ต่อแล้วต่ออีกแบบคุณนับไม่ถ้วน แล้วจะเอากำไรที่ไหนมาเหลือ
เมื่อเริ่มเอ่ยปากต่อราคา อย่าให้ต่ำมาจนน่าเกลียด เช่น ต่อเกินครึ่งแบบนี้ก็โหดไปหน่อย ควรหยั่งเชิงต่อให้ใกล้กับราคาที่เรา พอใจ จะซื้อได้ก่อนแล้วค่อยๆ ตะล่อมคนขาย ให้ใจอ่อน ยอมลดให้ ถึงที่สุดดีกว่า และถ้าไม่ได้จริงๆก็อย่าพยายามตื้อมาก ให้พบกัน ครึ่งทางจะได้สบายใจ ทั้งคนซื้อและคนขาย
อย่าทำเหมือนกับว่าการต่อราคาเป็นเรื่องสนุก ต้องเอาชนะคนขายให้ได้ยิ่งได้ของถูกเท่าไหร่ ยิ่งภูมิใจ ในขณะเดียวกันคนขายคงไม่สนุกด้วย
อย่าขี้เหนียวเกินเหตุ เพราะบางคนอาจจะมีฐานะทางเศรษฐกิจ ที่ค่อนข้างดีใช้จ่ายไม่ขัดสน ถ้าไปเจอของซึ่งราคาจริงก็ถูกมากอยู่แล้ว เช่นว่าอาจจะ ไม่ถึง 50 หรือ 100 บาท ถ้าของชิ้นนั้นคุณภาพสมราคา ซื้อได้ก็ซื้อไปเถอะอย่าไปต่อให้เหนื่อยเลย