สิ่งนั้นคือเสน่ห์จากของรักของหวงที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสตรีเพศ และนี่เป็นเรื่องของจุดเร้นลับที่สุดในร่างกาย ที่สมควรอย่างยิ่งกับการนำมาเปิดเผย!!!
ทำความรู้จักกับ 'คุณน้อง'
อวัยวะเพศของสตรีที่เราขอเรียกแบบลำลองว่า 'คุณน้อง' เริ่มจากภายนอกที่เป็นเนินไขมันปกคลุมลงมาตั้งแต่หัวเหน่า และมีขนอ่อนขึ้นปกคลุมมากน้อยแล้วแต่กรรมพันธุ์ของแต่ละคน จากนั้นก็มีกลีบเนื้อที่มีลักษณะเหมือนประตูปิดช่องทางที่จะเข้าไปเชื่อมต่อกับอวัยวะภายใน โดยที่ส่วนบนของกลีบเนื้อดังกล่าวจะมาบรรจบกันเป็นหนังหุ้มปุ่มปมประสาทสัมผัสที่รับรู้เกี่ยวกับการกระตุ้นทางเพศที่เรียกว่า "คลิตอริส" (Clitoris)
บริเวณปากทางที่กลีบเนื้อสองข้างมาปิดเอาไว้ คือปากช่องคลอด ซึ่งจะเป็นช่องทางลึกเข้าไปภายใน ช่องคลอดของผู้หญิงนั้นจะมีลักษณะเป็นลูกคลื่น เป็นลอนๆ เพื่อช่วยในการขับถ่ายเอา 'ตกขาว' ซึ่งเกิดจากการหลุดลอกตัวของผิวหนังที่ปกคลุมช่องคลอดอยู่ รวมกับน้ำเมือกต่างๆ ออกมา
ธรรมชาติของเธอ
ตกขาวของผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาถ้ามีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นและไม่มีอาการระคายเคือง และจะมีมากขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้จะมีรอบเดือน หลังจากรอบเดือนผ่านไป ตกขาวจะมีลักษณะใสๆ และมีน้อยลง จากนั้นจะมีเมือกใสๆ เพิ่มมากขึ้นในช่วงกลางของรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่
ส่วนที่ลึกที่สุดของช่องคลอดจะต่อเนื่องกับปากมดลูกที่จะเป็นทางเชื่อมต่อเข้าสู่โพรงมดลูก ท่อรังไข่ และช่องท้องส่วนอุ้งเชิงกรานปากมดลูกนี้จะเปิดขยายและมีน้ำมูกออกมามากในวันที่มีการตกไข่ช่วงกลางของรอบเดือน เพื่อให้ตัวอสุจิมาสามารถแหวกว่ายเข้าไปภายในโพรงมดลูกได้ง่ายขึ้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในวันดังกล่าว และเมื่อเวลามีประจำเดือนออกมาเนื่องจากการหลุดลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ปากมดลูกก็จะเปิดออกอีกครั้งเพื่อให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาจากโพรงมดลูกเข้าสู่ช่องคลอดและออกสู่ภายนอก
ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่สุขอนามัยของ 'คุณน้อง' จะอ่อนแอและถ้าไม่รักษาความสะอาดให้ดี อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียจากภายนอก รุกรานผ่านปากมดลูกที่เปิดขยาย เพราะมีเลือดประจำเดือนเป็นอาหารอันโอชะ จนแบคทีเรียเกิดการแพร่พันธุ์ ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อของมดลูกและปีกมดลูกได้
ช่วงเวลาที่มีประจำเดือน จึงต้องเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงจะต้องรู้จักการทำความสะอาดอวัยวะเพศอย่างถูกวิธีเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ภายในช่องคลอดนั้นจะมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรต่อมนุษย์อาศัยอยู่ มีชื่อว่า แลคโตแบซิลลัส (Lactobacillus) แบคทีเรียชนิดนี้จำทำหน้าที่เหมือนทหารยามคอยปกป้อง ไม่ให้เชื้อโรคภายนอกรุกรานเข้าไปทำอันตราย โดยการปรับสภาพแวดล้อมภายในช่องคลอดให้เป็นกรดอ่อนๆ มีค่าความเป็นกรดด่าง อยู่ที่ประมาณ 4-4.5 ซึ่งไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายอื่นๆ
การรับประทานยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมกว้างเป็นเวลานาน จะไปทำลายแบคทีเรียแลคโตแบซิลลัสที่เป็นมิตรให้หมดไปจนเชื้อโรคประเภทเชื้อราฉวยโอกาสเข้ามา ทำให้เกิดการอักเสบได้ เช่นเดียวกับการสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้วยังจะไปทำลายแบคทีเรียที่เป็นมิตรซึ่งทำหน้าที่ป้องกันโรคที่อาศัยอยู่ภายในช่องคลอดด้วย
เรียนรู้ เพื่อดูแล
ปกติช่องคลอดผู้หญิงจะรู้จักทำความสะอาดภายในเองอยู่แล้ว โดยขับออกมาเป็นตกขาวซึ่งบางครั้งอาจจะมาก บางเวลาก็อาจจะน้อย การชะล้างเพียงภายนอกให้ตกขาวที่ออกมาเปรอะเปื้อนหมดไป ก็เป็นการเพียงพอแล้ว
แต่การเรียนรู้ที่จะดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศสตรีนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งต่อไปนี้จึงเป็นหลักการและวิธีการที่แนะนำ...
- ขนอ่อนๆ ภายนอกนั้นธรรมชาติมีไว้ช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นต่างๆ ที่อับชื้นระเหยออกมา จึงไม่ควรที่จะถอนทึ้งหรือดึงเล่นแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ควรโกนหรือย้อมสีด้วย จะอนุญาตก็แค่เล็มๆ ตัดแต่งให้สวยงามเท่านั้น
- บริเวณซอกหลืบและรอยพับของกล้ามเนื้อ ถ้ามีคราบไคลมาหมักหมมก็ให้ชะล้างออกด้วยน้ำอุ่น ๆ ถ้ายังสะอาดไม่พอ การใช้โฟมอนามัยเฉพาะที่ที่มีความเป็นกรดด่างใกล้เคียงกับผิวหนังบริเวณดังกล่าวคือประมาณ 5.5 ก็จะช่วยให้รู้สึกว่าสะอาดขึ้นได้
- ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดไม่ว่าจะด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างเด็ดขาดเพราะจะไปทำให้สภาพแวดล้อมภายในช่องคลอดเปลี่ยนไป จนอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- ควรให้ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะนอกจากจะสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้แล้ว ยังทำให้ 'คุณน้อง' สะอาดไม่ต้องมีน้ำอสุจิตกค้างหมักหมมอยู่ภายในช่องคลอด รวมทั้งลดโอกาสการติดเชื้อรา ซึ่งอาจหลงอยู่ภายใต้ผิวหนังหุ้มปลายอวัยวะของฝ่ายชายที่ทำความสะอาดมาไม่ดี
- หลังมีเพศสัมพันธ์ การทำความสะอาดภายนอกก็เป็นการเพียงพอแล้ว และในกรณีที่ฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิไว้ภายนอก ควรรีบไปชะล้างด้วยน้ำอุ่นทันทีหลังจากเสร็จภารกิจ เพื่อทำให้น้ำอสุจิที่เปรอะเปื้อนบริเวณขนอ่อนๆ ได้รับการชำระล้างออกไปหมดจนไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง การใช้สบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาและโฟมทำความสะอาดก็สะดวกดี
- เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ระหว่างมีประจำเดือน อย่ารอจนผ้าอนามัยเปียกชุ่มแล้วจึงเปลี่ยน เพราะเลือดที่ตกค้างอยู่บนแผ่นอนามัยนั้นอาจทำให้ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดระคายเคืองและเป็นผื่นแพ้ได้ง่าย ควรทำความสะอาด 'คุณน้อง' อย่างน้อยวันละสองครั้ง ในตอนเช้าและเย็น ส่วนผ้าอนามัยชนิดสอดเพื่อความสะดวกบางประการนั้น ควรเลือกใช้ชนิดที่สะอาดปลอดภัยได้มาตรฐาน รวมทั้งไม่เก็บผ้าอนามัยไว้ในที่อับชื้น เช่น ตามซอกตู้ ใต้อ่างน้ำ หรือตามหลืบลิ้นชัก เพราะอาจขึ้นราได้ง่าย
- หลังจากอาบน้ำทำความสะอาด 'คุณน้อง' จนสะอาดแล้ว ควรซับด้วยผ้าเช็ดตัวแห้งๆ ที่เป็นผ้าฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ควรเช็ดถูอย่างรุนแรง และควรนำผ้าเช็ดตัวออกตากแดดให้แห้งทุกวัน ไม่ควรตากไว้หน้าห้องน้ำเพราะจะอับชื้นและขึ้นราได้
- กางเกงในหรือชุดชั้นใน ควรเป็นผ้าฝ้ายที่มีเนื้อผ้าบางเบาอากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยลดความอับชื้นของ 'คุณน้อง' และควรซัก ตากให้แห้งก่อนนำมาใช้
คราวนี้"คุณน้อง" ของสาว ๆ คงดีใจ เพราะจะได้สดชื่น สดใสตลอดไปแล้ว...เย้...ยย