การใช้ยาขับปัสสาวะ


ยาขับปัสสาวะใช้เพื่อขับน้ำส่วนเกินและเกลือแร่ออกจากร่างกาย เป็นประโยชน์ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โรคหัวใจบางชนิด ผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำ เป็นต้น

ยาขับปัสสาวะปกติให้รับประทานเพียงวันละครั้ง หรือสองครั้งเท่านั้น ถ้าแพทย์ให้รับประทานวันละครั้งควรรับประทานตอนเช้า ถ้าให้วันละสองครั้ง ควรรับประทานตอนเช้าและตอนบ่าย ไม่ควรรับประทานตอนเย็นหรือก่อนนอน เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะตอนกลางคืนทำให้รบกวนการนอนหลับได้ ยาขับปัสสาวะที่ใช้กันทั่วไปมักออกฤทธิ์นานตั้งแต่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป บางชนิดออกฤทธิ์นานเกิน 12 ชั่วโมงก็มี

ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาขับปัสสาวะ คือ

ควรไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ และควรเจาะเลือดตรวจเป็นครั้งคราว เพื่อตรวจสภาพของไตและตับว่าเป็นปกติหรือไม่ ผู้ป่วยไม่ควรหยุดรับประทานยาขับปัสสาวะเอง โดยมิได้ปรึกษาแพทย์ และต้องมียาเตรียมไว้เพียงพอแก่การใช้เสมอเวลาเดินทางหรือไปพักผ่อน

อาหารที่ผู้ป่วยรับประทานควรเป็นอาหารที่ไม่เค็ม

ไม่ควรรับประทานปลาเค็ม ไข่เค็ม น้ำปลา กะปิ หรือซอสปรุงรส ควรรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ ไม่ควรรับประทานอาหารที่ใส่ผงฟู แต่ควรรับประทานผักผลไม้สดมากขึ้น โดยเฉพาะผลไม้หรือน้ำผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ส้ม แตงโม เป็นต้น

อาการข้างเคียงของยาขับปัสสาวะ ได้แก่

ปวดปัสสาวะบ่อย ถ้าสูญเสียโพแทสเซียมไปในปัสสาวะมากจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตะคริว กระหายน้ำ ให้รับประทานที่ชดเชยโพแทสเซียมตามแพทย์สั่ง หรือรับประทานน้ำผลไม้ที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ควรเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ลุกนั่งหรือลุกยืนอย่างช้า ๆ เพื่อป้องกันอาการวิงเวียนหน้ามืด
ถ้าผู้ป่วยรับประทานยาขับปัสสาวะแล้วมีอาการเจ็บคอ ตาพร่า ปวดศีรษะ ผื่นขึ้น หรือเป็นจ้ำเลือดตามผิวหนัง ควรติดต่อแพทย์โดยเร็ว

ข้อควรระวังอื่นๆ ได้แก่

ผู้ที่เคยแพ้ยาพวกซัลฟา เช่น แบคทรีม แฟนซิดาร์ โคไตรม็อกซาโซล ควรบอกแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง เพราะมียาขับปัสสาวะหลายชนิดที่ท่านไม่ควรใช้
ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน ควรบอกแพทย์ทุกครั้ง ยาขับปัสสาวะมีปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ได้มากมายหลายชนิด ถ้าท่านรับประทานยาอื่นเป็นประจำอยู่ ควรบอกชื่อยาหรือนำตัวอย่างยาที่ใช้อยู่ไปให้เภสัชกรตรวจสอบด้วย เช่น ยาเบาหวาน ยาแก้ข้ออักเสบ ยาลิเทียม ยานอนหลับ ยาลดความดันอื่น ๆ รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

ก่อนการผ่าตัด หรือแม้แต่การถอนฟัน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนว่า ท่านใช้ยาขับปัสสาวะอยู่ เพราะมีผลต่อความดันโลหิตของท่าน ไม่ควรแบ่งยาขับปัสสาวะของท่านให้ผู้อื่นรับประทาน

การเก็บรักษายา

ถ้าเป็นยาเม็ดให้เก็บในภาชนะมิดชิด ที่อุณหภูมิห้องธรรมดา ถ้าเป็นชนิดน้ำควรเก็บในตู้เย็น แต่ห้ามแช่แข็ง ชนิดน้ำต้องเขย่าขวดก่อนรินยา และใช้ช้อนยาหรือหลอดหยดยาที่มีขีดมาตราฐานในการแบ่งยาด้วยค่ะ





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement