เขาใช้รักแลกเซ็กซ์ ฉันใช้เซ็กซ์แลกรัก


‘พันธกร’ ผู้เขียนคอลัมน์ soul of sex และหนังสือ ‘อยากให้เซ็กซ์กับรักรู้จักกัน’ พูดถึงคำกล่าวนี้ว่า เป็นการมองเพียงบางมุมของคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็มีพื้นฐานมาจากพฤติกรรมจริงๆของคน

“ถ้าผมจำไม่ผิด สมัยที่คุณสุกัญญา มิเกล ออกเทปในยุคก่อน ทีมประชาสัมพันธ์ใช้คำว่า ‘ผู้ชายใช้ความรักแลกเซ็กซ์ ผู้หญิงใช้เซ็กซ์แลกความรัก’ เป็นคำโปรโมท  ตอนนนั้นมีการหยิบยกเอามาพูดกันมาก ถึงจะเป็นคำที่แรงหน่อย แต่ก็สะท้อนความจริงบางอย่าง 

“ในคำพูดนี้มันสะท้อนมุมมองว่า ผู้ชายนึกถึงเรื่องเซ็กซ์ก่อน ขณะที่ผู้หญิงก็แอบอิงอยู่กับอารมณ์โรแมนติก คือ ความรัก  เพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก บางครั้งก็จำต้องยอมมีเซ็กซ์ หวังว่าเมื่อให้สิ่งที่มีค่าที่สุดแก่เขาแล้ว เขาก็จะรักตัวเองคนเดียว ไม่เหลือใจให้คนอื่น ซึ่งบ่อยครั้งก็ผิดหวังนะ ถ้าเจอผู้ชายเลวๆ ที่หลอกกินไข่แดงอย่างเดียว

“ถามว่ามีมูลความจริงไหม มีครับ ธรรมชาติของผู้ชายนั้น เซ็กซ์เป็นการแสดงออกซึ่งความรักอย่างหนึ่ง ต้องบอกว่าอย่างสุดซึ้งด้วยนะครับ  แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว  ดอกไม้ช่อหนึ่ง คำพูดหวานๆ ข้อความทางโทรศัพท์ และอื่นๆ อีกสารพัด ล้วนเป็นเครื่องหมายของความรัก หรือเป็นการบอกรักทั้งสิ้น

“นักเพศวิทยาบอกว่า ผู้ชายจะรู้สึกรักมากๆ หลังมีเพศสัมพันธ์ เวลานั้นผู้หญิงจะหว่านล้อมหรือขออะไรมักจะได้  ขณะเดียวกันเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เป้าหมายของผู้หญิง  การร่วมชีวิตต่างหากที่เป็นเป้าหมาย  เมื่อผู้หญิงรักใครสักคนหนึ่ง เธอปรารถนาจะได้อยู่เคียงข้างเขา ร่วมชีวิตกัน ยึดมั่นถือมัน รู้สึกหวงแหนเป็นเจ้าของ

“จุดอ่อนตรงนี้ทำให้ผู้ชายที่ไม่ดีใช้เป็นเครื่องต่อรองกับผู้หญิง  ออดอ้อนขอมีเพศสัมพันธ์ พอได้ยินคำว่ารักเข้าหน่อย เขาออดอ้อนสักหน่อย ก็อ่อนระทวยแล้วก็ยินยอม ถ้ามีอะไรๆ กันแล้ว ความสัมพันธ์ได้รับการสานต่อและปฏิบัติต่อกันอย่างรับผิดชอบก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นล่ะ จะทำอย่างไร นี่เป็นข้อที่ลูกผู้หญิงจะต้องฉุกคิดและใช้เป็นอนุสติเตือนตัวเองทุกๆ ครั้ง แล้วชั่งใจให้ดีๆ ว่าจะแลกหรือไม่แลก”

พันธกรบอกว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเซ็กซ์ ไม่ได้เริ่มต้นและจบลงที่ตรงนี้  

“ปัญหาระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง  โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับความรักและเพศสัมพันธ์ จะนุงนังกันไปทั้งชีวิตนั่นแหละ  ชั่วโมงหวานชื่นมันสั้น แต่ชั่วโมงที่ต้องกัดฟันมันยาว

“ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าตกลงรักกันแล้ว  ก็ยังต้องช่วยกันสร้างฐานะ สร้างครอบครัว  แต่งงานกันทีสมัยนี้แทบสิ้นเนื้อประดัวนะ  ถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องถ่ายรูปแต่งงานกันเป็นหมื่นๆ แสนๆ  เก็บไว้กินไว้ใช้ไม่ดีกว่าหรือ  แต่เราก็มักรู้สึกกันว่า มันเป็นหน้าเป็นตา แล้วชั่วโมงที่ยังหวานกันอยู่นั้น อะไรที่ให้กันได้ก็ให้กันหมดแหละ  

“ผมคิดว่าชีวิตหลังผ่านการแต่งงานนั้นสำคัญมาก  บางคู่เลือกที่จะไม่แต่งกันเลย คือ อยู่กันไปเรื่อยๆ เผื่อเอาไว้ว่าต้องไปกันคนละทาง ซึ่งบอกตามตรงว่าผมไม่ชอบ  ผมคิดว่าถ้าคุณศึกษากันมาระดับหนึ่งแล้ว ควรตัดสินใจแต่งงานกัน  จัดงานเล็กๆ ก็พอ เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อสุภาพสตรี  เวลาถูกติฉินนินทา ผู้หญิงจะถูกต่อว่ามากกว่าผู้ชาย และเธอจะรู้สึกอับอายมากกว่าหลายเท่า

“แต่งงานแล้วต้องช่วยกันสร้างฐานะ ถึงเวลานั้นปัญหาความต่างเรื่องเพศจะเกิดขึ้นอีก  ผู้หญิงก็อยากจะทำงานนอกบ้าน ผู้ชายก็อยากจะให้เธออยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน โดยเฉพาะเวลาที่มีลูก ก็เถียงกันเรื่องเพศและความเท่าเทียมกันทางเพศอีกยกหนึง

“ไหนจะเรื่องความเฉื่อยชาหรือความกระตือรือร้นทางเพศที่ไม่เท่ากันอีกล่ะ  งู่ผู้ชายต้องการมาก บางคู่ผู้หญิงต้องการมาก แล้วอีกฝ่ายไม่ตอบสนอง บางทีก็เผลอไผลไปมีอะไรๆ กับคนอื่น เพราะความต้องการตามธรรมชาติเรียกร้อง ตรงนี้จะทำยังไง

“ไหนจะเรื่องความรักความเอาใจใส่  ผู้หญิงต้องการความรักตลอดชีวิต คิดถึงฉากโรแมนติกอยู่ตลอดเวลา ผู้ชายจะให้ได้ไหม เห็นความสำคัญหรือเปล่า

“ยังไม่ต้องพูดเรื่องปลีกย่อยอย่างหลั่งช้าหลั่งเร็ว ผู้หญิงไม่เคยไปถึงจุดสุดยอด การคุมกำเนิด การซื่อตรงต่อกัน และอื่นๆ อีกสารพัด

“พูดง่ายๆ ว่าแม้ผู้ชายจะถูกสร้างมาคู่กับผู้หญิงในทางเพศ  แต่ด้วยภาวะความเป็นมนุษย์ ค่านิยมของสังคม และเหตุปัจัยอื่นๆ  แค่เรื่องเพศก็ไม่พอหรอก ที่จะดึงดูดผู้หญิงผู้ชายเข้าหากัน และเหนียวแน่นอยู่อย่างนั้นทั้งชีวิต

ผู้หญิงก็จะเฝ้าแต่สงสัยว่าผู้ชายรักเธอจริงแค่ไหน ยังรักอยุ่หรือเปล่า แอบไปมีใครบ้างมั้ย ทำไมวันนี้กลับบ้านดึก ช่วงนี้แต่งตัวจัด สังคมจัดนะ ก็จะคิดไปสารพัด  ถามว่าถึงชั่วโมงนั้น ใครเอารักแลกเซ็กซ์ ใครเอาเซ็กซ์แลกรัก สำคัญหรือเปล่า ไม่สำคัยแล้ว

“ฉะนั้น อะไรจะแลกกับอะไรโดยใคร  สำหรับผมถือเป็นแค่บันไดขั้นแรกทีห่ญิงชายจะไปด้วยกันหรือไม่ไปด้วยกันตลอดชีวิต  บางคู่อาจหกล้มเสียตั้งแต่บันไดขั้นแรกนี่แหละ เกิดไม่ชอบขนาดของอีกฝ่ายขึ้นมา หาใหม่ ก็ไปไม่รอด จริงมั้ย

“ทุกๆ จังหวะในชีวิตจึงสำคัญไปหมด ไม่สำคัญว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่สำคัญว่าเป็นมนุษย์แค่ไหน  เป็นมนุษย์ต้องมีความรับผิดชอบ มีศีลมีธรรม มีความหเนอกเห็นใจ  ผมคิดว่าถ้าเราข้ามเรื่องความเป็นเพศหญิงเพศชายไปได้  แต่อยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนมนุษย์  ปัญหาที่เกิดจากธรรมชาติที่แตกต่างกันก็จะไม่เป็นปัญหาเลย”





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement