"ถ้าคุณมีน้ำหนักตัวสมส่วนกับร่างกาย แต่ยังรู้สึกไม่พอใจซะที สาเหตุสำคัญคือ ค่านิยมของสังคมปัจจุบันนั่นเอง และคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าชีวิตตัวเองจะดีขึ้นถ้าผอมกว่านี้ คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า ชีวิตจะดีขึ้นยังไง คนอื่นจะชอบฉันมากขึ้นมั้ย งานการจะดีขึ้นหรือเปล่า คำตอบที่ได้ทั้งหมดเมื่อประเมินตามความจริงแล้วก็คือไม่ใช่เลย"

"เราเคยได้ยินคำบอกต่อกันว่าตั้งใจให้มั่นแล้วคุณจะคุมน้ำหนักได้ และถ้าจะให้ดีควรใช้ผลิตภัณฑ์นั่นผลิตภัณฑ์นี่กำกับด้วย อยากมีหุ่นเหมือนซอนย่า คูลลิ่ง ก็ทำได้ถ้าไดเอทแบบนี้ๆ แต่อันที่จริงแล้วบางทีซอนย่าไม่ต้องคุมอะไรเลย เพราะเนื้อแท้อาจจะเป็นคนผอมตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าครอบครัวมีรูปร่างผอมเหมือนกันยิ่งยืนยันได้ดีถึงสาเหตุทางพันธุกรรม"

"จุดสตาร์ทที่สำคัญจึงน่าจะอยู่ที่การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ไร้ไขมันส่วนเกิน และออกกำลังเป็นประจำ เท่ากับว่าคุณกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วสำหรับการมีรูปร่างที่สวยงามและแข็งแรงที่สุด :)"

น้ำหนักเหมาะสม
          ถ้าคุณไม่ได้อ้วน หรือผอมเกินไป และยังกินอาหารมีประโยชน์และออกกำลังเป็นประจำ ก็หมายความว่าน้ำหนักของคุณน่าจะอยู่ในจุดที่สมส่วน แต่ถ้าจะให้แน่ใจก็มีวิธีทางการแพทย์สำหรับบอกว่าใครน้ำหนักเกินที่เรียกว่า Body Mass Index หรือ BMI วิธีคำนวณง่ายๆคือ เอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ที่ยกกำลังสอง เช่นคนที่สูง 1.65 เมตร หนัก 60 กิโลกรัม ก็จะเป็น 60/1.65x1.65 = 22.2
          ค่าที่ได้ 20 - 25 หมายถึงสมส่วน "แต่ผู้หญิงที่มี BMI ระหว่าง 24-25 ซึ่งถือว่ายังสมส่วนอยู่ ส่วนใหญ่จะบอกว่ารู้สึกตัวเองอ้วน ปัญหาอยู่ที่เรื่องค่านิยมต่างหาก "พวกผู้หญิงชอบคิดว่ายิ่งผอมเท่าไหร่ก็ยิ่งทันสมัยเท่านั้น"
          ค่า BMI มากกว่า 25 แสดงว่ามีความเสี่ยงเรื่องสุขภาพเล็กน้อย แม้ว่าระดับ BMI ที่ถือว่าสุขภาพดีสำหรับคนอเมริกันจะอยู่ระหว่าง 20-27.5 ก็ตาม งานวิจัยบางชิ้นยังแนะว่าผู้หญิงที่มีค่า BMI 25 หรือ26 น่าจะมีอายุยืนกว่า

แล้วสำหรับหนุ่มๆล่ะ
          ผู้ชายส่วนมากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเหมือนกัน แต่ผู้ชายที่มีน้ำหนักสมส่วนโดยมากจะพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ตรงกันข้าม อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินจะพบมากในหมู่ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

"ยีน" ผู้บงการรูปร่างของสาวๆ
          ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอธิบายว่า "เราเห็นเป็นประจำที่ผู้หญิงหลายคนดิ้นรนสุดชีวิตปราบน้ำหนักตัว แล้วก็ต้องยอมรับขนาดของร่างกายที่ตกทอดมาจากพ่อแม่ ขำไม่ค่อยออกตรงที่การเปลี่ยนโครงสร้างทางพันธุกรรมของเรามีขอบเขตจำกัด แน่นอนที่เราอาจกินให้น้อย ออกกำลังให้มากเพื่อลดไขมันหรือฝืนยกน้ำหนักเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ แต่ไม่ว่าคุณจะเฉือนไขมันได้มาก หรือรวดเร็วแค่ไหนหรือสร้างกล้ามเนื้อสวยๆทั่วตัวได้สักเท่าไหร่ ท้ายที่สุดกลับปรากฎว่าขึ้นอยู่กับโชคชะตาว่าเราได้ยีนแบบใดตกทอดมา"

รูปร่างคุณดีหรือยัง
          นักโภชนาการเชื่อว่ามีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างสำหรับการมีรูปร่างดี
1. ยอมรับลักษณะและขนาดของรูปร่างคุณอย่างที่เป็นจริง เพราะผู้หญิงบางคนจะหลอกตัวเอง ฝันไปถึงต้นขาและหน้าท้องที่อยู่ในจินตนาการเท่านั้น
2. มีความคิดและความรู้สึกแง่บวกกับร่างกายของคุณเอง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องขจัดความคิดดูถูกตัวเองออกไปให้สิ้นซาก แต่ก็น่าจะมองว่าร่างกายของคุณเป็นเหมือนเพื่อนซี้ที่อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ศัตรูต้องประหัดประหาร

          ดูแลร่างกาย เพราะรูปร่างที่ดีจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่ ไม่ใช่ทำร้ายมันด้วยการตั้งกฎไดเอทสุดโต่งเกินไป การยอมรับรูปร่างของเราในแบบที่มันเป็นใช่จะทำสำเร็จในคืนเดียว หนึ่งในขั้นตอนแรกๆที่พอเป็นไปได้บ้างคือ จงเริ่มต้นรู้จักพอใจ และดูแลร่างกายของคุณ พยายามชื่นชมมันทั้งด้านความสามารถในการใช้งานและรูปร่างที่ปรากฎ

          การออกกำลังเป็นวิธีที่ดีมากที่ทำให้เราคอยตรวจสอบดูว่าร่างกายเราทำงานเป็นอย่างไรบ้าง การยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ และเป็นมิตรกับร่างกายเราเอง หมายความว่าเราต้องมอบแต่สิ่งดีๆให้กับตัวเราในอีกแง่หนึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องเสียไป ถ้าไม่ยอมรับกับสิ่งที่เรามี และพยายามแลกกับอะไรก็ตามเพื่อให้ได้ จะเห็นว่าเราต้องต่อสู้กับร่างกายตัวเองตลอดชีวิตเพื่อทำให้มันเป็นในแบบที่ไม่มีวันเป็นได้ และเมื่อใดที่เราเริ่มรับความจริงได้ จะรู้สึกดีขึ้น รู้สึกเป็นอิสระ และดำรงชีวิตที่เหลือต่อไปด้วยดี สามารถเดินหน้า และทำสิ่งที่อยากทำ ไม่ต้องลังเลอะไรอีกต่อไป

Pooyingnaka ให้กำลังใจผู้หญิงทุกคนที่พยายามเพื่อสุขภาพของตนเองนะคะ และให้กำลังใจทุกคนที่พยายามในทุกๆสิ่งเพื่อตัวเองค่ะ

บทความดีๆและภาพสวยๆจาก CLEO ค่ะ