ขมิบใส่ซิลิโคนพยุง ผ่าตัดให้กระชับ
นอกจากความเหี่ยว ย่น หย่อน ยาน ของผิวพรรณ ที่สาวน้อยสาวใหญ่ไม่อยากให้มากล้ำกรายแล้ว ความหย่อนยานบริเวณจุดซ่อนเร้น ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่หลายคนไม่พึงปรารถนา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.นพ.อภิชาติ จิตต์เจริญ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า การหย่อน หรือการเคลื่อนต่ำลงมา จากตำแหน่งปกติของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน ได้แก่ ช่องคลอด มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นผลจากการสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และบริเวณช่องคลอด เป็นผลทำให้มีอาการผิดปกติตามมา เช่น ถ่วงท้องน้อย รู้สึกเหมือนมีก้อนตุงที่ช่องคลอด ถ่ายปัสสาวะ อุจจาระลำบาก และมีปัญหาในการร่วมเพศ
ปัญหาการหย่อนของช่องคลอด หรือ อวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน มักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป ในผู้หญิงที่อายุน้อยก็พบได้ โดยเฉพาะคนที่ผ่านการคลอดบุตรทางช่องคลอดมาหลายครั้ง หรือคลอดโดยไม่ถูกวิธี เช่น คลอดเองโดยหมอตำแย ยังไม่พร้อมในการคลอด แต่มีการใช้เครื่องมือในการทำคลอด เช่น คีม หรือเครื่องดูดทารกออกมา ทำให้คลอดไวกว่าปกติ กล้ามเนื้อยืดได้ไม่ดี เกิดการฉีกขาด
นอกจากนี้ผู้หญิงที่ทำงานใช้แรงเบ่ง เช่น ยกของหนัก ๆ แบกหาม ไอจามเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง ก็มีความเสี่ยงได้เช่นกัน ส่วนการมีเพศสัมพันธ์บ่อยและถี่นั้นไม่เกี่ยวกันแต่อย่างใด
การรักษามี 2 วิธีด้วยกัน คือ
1.การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยการฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน หรือการฝึกขมิบช่องคลอดที่เข้าใจกันทั่ว ๆ ไป ร่วมกับการใส่อุปกรณ์พยุงช่องคลอด ซึ่งทำจากซิลิโคนอย่างดี มีหลายรูปแบบและหลายขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดและรูปร่างของช่องคลอดของแต่ละคน ทำให้กระบังลมที่หย่อนออกมา หรือมดลูกที่หย่อนออกมากลับเข้าไปอยู่ในช่องคลอดเหมือนเดิม
2.การรักษาโดยการผ่าตัดแก้ไข มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ผ่าตัดทางช่องคลอด จะไม่มีแผลหน้าท้อง แต่ในปัจจุบันมีการใช้อุปกรณ์ใยสัง เคราะห์เป็นแบบตาข่ายเพื่อช่วยพยุงไม่ให้เกิดการหย่อนซ้ำอีกหลังจากได้รับการผ่าตัดแล้ว ซึ่งอุปกรณ์แบบตาข่ายนี้จะเย็บติดไว้ในเนื้อเยื่อที่บริเวณช่องคลอดใต้ผิวเยื่อบุช่องคลอด จะไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผู้ป่วยเลย
ทั้งนี้การผ่าตัดจะต้องดูความรุนแรงของโรค และข้อบ่งชี้ในแต่ละรายไป เนื่องจากการผ่าตัดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และทำให้เกิด การบาดเจ็บได้ บางครั้งการฝึกขมิบช่องคลอดอย่างเหมาะสม ถูกวิธีจะช่วยให้ช่องคลอดดีขึ้นได้
ศ.นพ.อภิชาติ แนะนำวิธีการขมิบช่องคลอด ว่า ควรทำทุกวัน ๆ ละ 3 เวลา เช้า กลางวัน และเย็น สามารถทำได้ทันทีตั้งแต่วัยสาว ไม่ควรรอเวลาไปจนอายุมากแล้วค่อยทำ ส่วนจะนั่ง จะนอน จะยืน ขมิบก็ได้ทั้งนั้น ตามแต่จะสะดวก แม้แต่ระหว่างพูดคุยสนทนาอยู่จะขมิบไปก็ไม่ว่ากัน
วิธีการขมิบ คือ เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จากนั้นคลายออกอีก 10 วินาที ทำแบบนี้ติดต่อกันอย่างน้อย 10 นาที เช้า กลางวัน เย็น ส่วนการฝึกขมิบแล้วคลาย อย่างที่หลายคนบอกให้ทำวันละ 100 ครั้งนั้น วิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลนัก ที่ถูกต้องคือขมิบแล้วค้างไว้ 10 วินาที คลาย 10 วินาที จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานกระชับขึ้น นอกจากนี้ การขมิบยังจะช่วยการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ทำให้รักษาภาวะเล็ด ราด ได้ด้วย หรือกรณีที่ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ก็จะทำให้กลับมากลั้นปัสสาวะได้เช่นกัน