นับวันก็จะยิ่งมีผู้หญิงป่วยเป็นโรคนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่แท้จริงแล้วการลดความเสี่ยงจากโรคร้ายนี้เป็นเรื่องไม่ยาก
จนถึงทุกวันนี้สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งเต้านม ยังไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้มีแต่ผู้หญิงสาวๆ เท่านั้นหรอกที่จะป่วยเป็นโรคนี้ ถึงแม้จากการสำรวจจะพบว่า ความเสี่ยวงจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เมื่อผู้หญิงคนนั้นเริ่มมีรอบเดือน ตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เคยมีการตั้งครรภ์มาก่อน ตลอดจนมีภาวะโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีส่วนทำให้ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น
ในทางตรงกันข้าม หากเป็นหญิงที่เคยมีบุตรแล้ว และให้นมแก่บุตรด้วยตัวเองเป็นระยะเวลานานพอสมควร กลับพบว่าไม่ค่อยจะป่วยเป็นโรคนี้เท่าใดนัก โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีบุตรคนแรกก่อนอายุ 30 ปี
เราควรจะดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว
ทั้งนี้จากการค้นคว้าวิจัยแสดงให้เห็นว่า ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม และพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอัตราความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นมะเร็ง อย่างไรก็ดี เราสามารถจะทำให้ความเสี่ยงลดลงได้ด้วยการดูแลตัวเองดังต่อไปนี้
รับประทานอาหารที่ได้จากถั่วเหลืองเป็นประจำ ไม่ว่าจะในรูปของนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวย ถั่วงอก หรือน้ำมันจากถั่วเหลือง อาหารทุกมื้อจะต้องเน้นวิตามินมากๆ การหมั่นรับประทานผักสดผลไม้อยู่เสมอ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้ และนอกจากวิตามินแล้ว กากใยจากผักผลไม้ดก็ยังมีส่วนช่วยเก็บกวาดอนุมูลอิสระที่เป็นพิษออกจากร่างกายอีกด้วย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ ฉะนั้นอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที ที่คุณควรจะมีเวลาให้กับการออกกำลังกายในรูปแบบที่คุณชอบ งดเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท เนื่องจากแอลกอฮอล์จะเป็นตัวกระตุ้นและส่งผลโดยตรง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด ควบคุมอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์ เป็นตัวอันตรายที่จะเร่งให้เกิดมะเร็งได้อย่างน่ากลัวที่สุด แต่วิธีการแก้ไขง่ายๆ คือ หันมาใช้ไขมันไม่อิ่มตัวจากพืชแทน อย่าปล่อยให้อ้วนเกิน นอกจากรังไข่ที่กระตุ้นร่างกายของผู้หญิงแล้ว เซลล์ไขมันก็มีส่วนทำให้ร่างกายมีโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งเพิ่มสูงขึ้น หมั่นตรวจเช็กเต้านมด้วยตัวเอง โดยสังเกตและใช้นิ้วมือกดคลำให้ทั่วทุกจุด ควรทำจนเป็นกิจวัตร เพราะถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ก็จะทราบได้ทันที อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาก่อนที่รอบเดือนจะมา เต้านมมักเกิดไตแข็งๆ ขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกคัดหรือปวดเต้านม ดังนั้นจึงต้องรอให้ช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปก่อนถึงจะสามารถตรวจเช็กได้อย่างถูกต้อง จะเยียวยารักษาอย่างไร หากตรวจพบว่าความผิดปกติดังกล่าวเป็นมะเร็งจริงๆ
ถ้าหากเนื้อร้ายนั้นยังมีขนาดเล็กอยู่ และยังไม่ได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย กรณีอย่างนี้เพียงแค่ทำการผ่าตัดเนื้อร้ายนั้นออกไป ผู้ป่วยก็จะปลอดภัย และหายขาดจากโรคดังกล่าวได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท แพทย์จะทำการฉายแสงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่ให้หมดไปอย่างสิ้นเชิงด้วย ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน
อย่างไรก็ตามถ้าหากตรวจพบว่าเซลล์เนื้อร้ายนั้นได้แพร่กระจายตัวไปยังส่วนอื่นแล้ว การเยียวยารักษาก็จะยุ่งยากลำบากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องใช้ตัวยาเคมีต่างๆ มากมายเข้ามาช่วยบำบัด
