ฉันกับแจ็ครักกันมานานมาก เราไม่เคยสนใจใครอีกเลย ตอนที่เขายังหนุ่มแน่น เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและเป็นคนมีเหตุผล เราออกเดตกันบ่อยๆ ความสัมพันธ์ของเราก็แนบแน่นและลึกซึ้งเรื่อยมา เรามีความสุขกันมาก มันเหมือนเป็นคำมั่นสัญญาที่ผูกมัดกันระหว่างเรา ฉันกับแจ็คผูกพันกัน ฉันไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนอีกเลยเมื่อฉันเจอแจ็ค มันเหมือนสวรรค์สร้างให้เรามาเป็นเนื้อคู่กัน หลังจากนั้นเราก็รู้ว่าเราต้องการเวลาที่จะอยู่ด้วยกันและใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเพื่อสร้างอนาคต
เราแต่งงานกัน ทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น เรากลายเป็นครอบครัวเดียวกัน และครอบครัวของเขาก็ยอมรับและดีกับฉันมาก รวมทั้งพี่ชายของเขา "ทิม" เราใกล้ชิดกันมาก เรากลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความสุข
ฉันกับแจ็คมักจะวางแผนเพื่ออนาคตข้างหน้าของครอบครัวเสมอๆ แต่โชคไม่เข้าข้างเอาซะเลย แจ็คต้องออกจากงาน และเขารู้สึกว่ามันเลวร้ายเกินกว่าที่เขาจะรับได้ ในคืนหนึ่งฉันเฝ้ารอคอยแจ็คกลับบ้าน แต่เขาก็ไม่กลับมา ฉันโทร.ตามเขาที่มือถือแต่เขาก็ปิดเครื่อง และโทร.ไปตามเขาทุกที่ที่ฉันคิดได้และคิดว่าเขาจะไป แต่ก็ไม่พบเขา วันนั้นก่อนเข้านอนฉันอธิษฐานว่าเมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันจะได้พบเขานอนอยู่ข้างๆฉัน ฉันรู้สึกว้าเหว่มาก เมื่อเขาหายตัวไปอย่างลึกลับอย่างนี้
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ แจ็คก็ไม่กลับมา ฉันรู้สึกผิดหวังและเศร้าเสียใจมากและคิดเสมอว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้นกับเขาแน่ เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย ฉันใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเขามากขึ้น เพื่อรอว่าสักวันเขาจะกลับมาหาครอบครัวของเขา แต่แล้วจากอาทิตย์กลายเป็นเดือน ฉันก็ยังหวังว่าจะได้พบหน้าเขา พวกเราเฝ้ารอทั้งๆที่รู้ว่าความหวังนั้นเลือนลางเหลือเกิน
พี่ชายของแจ็คกับฉันสนิทกันมาก และมักใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ เพื่อเฝ้ารอว่าแจ็คจะกลับมา เราไปเก็บของใช้ของแจ็คที่ทิ้งไว้ที่บริษัท และเราก็แจกจ่ายของใช้ให้คนอื่นที่จำเป็นต้องใช้ มีหลายเรื่องที่ฉันได้เรียนรู้เรื่องของสามีตัวเองจากทิม และในคืนหนึ่งทิมก็มาพบฉันที่บ้าน เราคุยกันหลายเรื่องและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เราพูดถึงความรักระหว่างฉันกับแจ็ค ทิมกับฉันดื่มไวน์และสั่งอาหารอิตาเลี่ยนมากินกัน ฉันกับทิมเมามาก แล้วคืนนั้นเราก็มีเซ็กซ์กัน บรรยากาศในตอนนั้นมันทำให้เราคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่พอรุ่งเช้า เรากลับมีความรู้สึกว่าเราสองคนกำลังทำเรื่องที่ผิดพลาดและเราก็สัญญาว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก เขาบอกว่า "ขอให้ความมืดในคืนนั้นปกคลุมความลับระหว่างเราเอาไว้" เพราะไม่อย่างนั้นมันจะทำให้เกิดรอยแผลที่ฝังรากลึกระหว่างเราทั้งสองคน
หลังจากนั้นอีก 3 อาทิตย์ ฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น 2-3 ครั้ง และวางสายไป ตอนนั้นฉันนึกถึงแจ็คทันที เขาต้องเป็นคนโทร.มาหาฉันแน่ๆ ผ่านไปอีก 3 วัน โทรศัพท์นั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฉันรีบยกหูโทรศัพท์แล้วพูดว่า "คุณใช่มั้ยแจ็ค?" เมื่อฉันพูดจบ ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า "ใช่ ผมเอง" น้ำตาฉันไหลอาบแก้ม แจ็คอธิบายให้ฉันฟังว่า เขาไม่เคยคิดจะทำร้ายจิตใจฉันถึงเพียงนี้ เขาเพียงต้องการหลบไปสักพักที่เขาล้มเหลวและรู้สึกอับอายมาก เขาบอกฉันว่าเราจะกลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้ง เป็นคู่สามีภรรยา ตอนนี้เขาอยู่อีกเมืองหนึ่งกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่า และเขาเพียงต้องการเวลาอีกสักระยะและจะกลับมาอยู่กับฉันในอีก 1 เดือนข้างหน้า เขาจะมาหางานใหม่ แต่ฉันก็พบว่าตัวเองตั้งท้อง ฉันรู้ดีว่านี่คือลูกของทิม หลังจากที่เรามีอะไรกันในคืนนั้น
ฉันคิดว่าเรื่องนี้อาจจะไม่เป็นความลับอีกต่อไปเมื่อท้องฉันโตขึ้น ถ้าแจ็คกลับมาเขาจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแจ็คก็ดีขึ้น แจ็คมีงานทำและที่สำคัญไปกว่านั้นเรามีลูกชายที่น่ารัก ทิมเองก็รู้ดีว่านั่นเป็นลูกของเขา แต่ทิมก็ไม่พูดอะไรได้แต่เงียบเอาไว้ และนั่นอาจเป็นเครื่องเตือนความจำระหว่างฉันกับเขา และเป็นผลดีต่อการแต่งงานกับแจ็ค ที่ทำให้ครอบครัวของแจ็คสมบูรณ์ขึ้น แต่บ่อยครั้งที่ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจและรู้สึกไม่ดี เมื่อทุกคนมักจะลงความเห็นว่าลูกชายของฉันหน้าตาเหมือนลุงของเขามาก
เรื่องนี้จะสอนอะไรผู้หญิงและผู้ชายได้หลายๆอย่าง อย่างน้อยความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และไม่ทอดทิ้งกันก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตคู่นะคะ