เชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์ลูกน้อยร้องไห้งอแง ท้องเสีย อาเจียนแล้วก็ไข้ขึ้นสูงกันอยู่บ่อยครั้งจริงไหมคะ ทุกวันนี้มีเชื้อโรคและโรคจากการติดเชื้อมากมายที่คุณแม่หลายคนคงยังไม่ทราบ การรับรู้ข่าวสารให้ทันต่อโลกเสมอก็ช่วยให้คุณแม่รู้วิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆได้ดีเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเคยได้ยินไวรัสโรต้ากันหรือยัง ลองมาทำความรู้จักกันหน่อยก็ดีนะคะ เพราะโรคนี้ร้ายแรงกว่าที่คิดมากมายจริงๆ
ลองมาฟังประสบการณ์ตรงเลยดีกว่าค่ะ ว่าโรคนี้ร้ายแรงและน่าเป็นห่วงต่อสุขภาพของเด็กๆมากขนาดไหน
อาการไข้สูง อาเจียนและอุจจาระร่วงในเด็กเล็กอาจไม่ใช่โรคธรรมดาอีกต่อไปแล้วนะคะแต่เป็นภัยร้ายคุกคามชีวิตลูกน้อยอย่างคาดไม่ถึง เพราะถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจนำมาซึ่งความสูญเสียได้ ในฐานะที่เป็นคุณแม่ก็อยากเล่าประสบการณ์ตรงเมื่อลูกติดเชื้อไวรัสโรต้าค่ะ
ตอนนั้นน้องอายุประมาณเดือนเศษๆ ค่ะ วันแรกที่เป็นนั้น ตอนเช้าน้องมีอาการซึม และทานนมน้อยผิดปกติ ถ่ายเหลวในช่วงบ่าย หลังจากที่ถ่ายไป 3 ครั้ง และอาเจียน 1 ครั้ง ก็รีบให้น้ำเกลือแร่เพราะกลัวเสียน้ำ แต่น้องก็ยังซึมๆ อยู่ ด้วยความกังวลจึงรีบพาไปโรงพยาบาล พอดีเป็นหมออยู่แล้วจึงตรวจลูกเอง ตรวจเลือด อุจจาระ ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด พร้อมทั้งยาฆ่าเชื้อ วันแรกน้องมีไข้สูงทั้งคืน ประมาณ 38.6 องศาเซลเซียส ไม่ค่อยทานนม อาเจียนบ่อยมาก และถ่ายเป็นน้ำประมาณ 14-15 ครั้งต่อวันติดต่อกันหลายวัน ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 อาทิตย์ ตอนเจาะให้น้ำเกลือสงสารลูกมากเพราะเค้ายังเล็ก ตอนนั้นรู้สึกกังวลและเครียดมาก ห่วงว่าจะติดเชื้อเข้ากระแสเลือดหรือในเยื่อหุ้มสมอง ผลตรวจปรากฎว่าติดเชื้อไวรัสโรต้าซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนเลยเพราะเราเลี้ยงและดูแลความสะอาดให้เขาเป็นอย่างดี
ช่วงนั้น กังวลมากจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ต้องคอยมาเฝ้าลูก ถ้าเขาเป็นอะไร ก็ดวงใจของเรา จึงอยากแนะนำคุณแม่ท่านอื่นให้ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ แนะนำให้ลูกทานนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะนมแม่จะช่วยให้เด็กมีภูมิต้านทาน และที่สำคัญ ควรให้เด็กรับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าโดยเร็วเพราะในกรณีนี้ลูกก็เป็นตอนอายุได้เดือนเศษๆเอง
ไวรัสโรต้า ป้องกันก่อน มั่นใจกว่า
แพทย์หญิงจันทร์จิรา พงษ์ศรีหตุลชัย