ความวิตกกังวลก่อนการแต่งงาน
ในหลายๆคู่อาจเกิดอาการเช่นนี้ และเฝ้าถามตัวเองว่าการแต่งงานเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งในชีวิตหรือไม่ สำหรับบางคนอาการนี้อาจเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาเป็นเดือนๆเลยทีเดียว ทำให้รู้สึกเศร้าและทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่ที่ลงทุนไปกับการแต่งงานสูงจะยิ่งรู้สึกถึงความผิดหวัง
ค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน
ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในทุกๆปี เลยทำให้หลายๆคู่ต้องมีหนี้สินจากการตัดสินใจแต่งงาน โดยเฉพาะคนไทยด้วยแล้ว มักใช้จ่ายในการแต่งงานสิ้นเปลืองไปกับบรรดาแขกเหรื่อและลืมลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพราะกำลังคิดถึงการแต่งงานที่หรูหราเป็นหน้าเป็นตา และในท้ายที่สุดหลังจากการแต่งงาน ความฝันที่จะซื้อบ้านสักหลังหรือออกไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์มักกลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ทางด้านร่างกาย
หลายๆคู่เลยทีเดียวมักมีอาการตื่นเต้นก่อนถึงวันงาน โดยเฉพาะในสัปดาห์ก่อนถึงวันงาน แต่เมื่อมีเวลาได้พักผ่อนบ้างกลับทำให้ยิ่งเครียดหนักเพราะความตื่นเต้นและระบบในร่างกายเกิดต่อต้านขึ้นมาดื้อๆไปจนถึงวันงานเลยทีเดียว
ทางด้านอารมณ์
การจับจ่ายใช้สอยเกี่ยวกับงานแต่งงานก็ส่งผลไปถึงอารมณ์ในขณะนั้นด้วย เพราะต่างคาดหวังว่างานแต่งงานจะต้องออกมาดีที่สุดและเพอร์เฟคในแบบที่ฝันเอาไว้ และยังเป็นเรื่องที่น่ายินดีในการที่จะได้พบปะเพื่อนฝูงและบรรดาญาติพี่น้องในเวลาเดียวกันอีกด้วย แต่เมื่องานเสร็จสิ้นแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยที่จะรู้สึกว่างเปล่าเมื่อบรรดาแขกเหรื่อ เพื่อนๆ และญาติพี่น้องต่างทะยอยกลับไป
การเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครสักคน
การใช้ชีวิตคู่จำเป็นต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวพอสมควร ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอาศัยอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดอาการซึมเศร้าหรือคิดถึงวันที่ผ่านมาที่ได้เป็นโสด หลายๆคู่อาจเจอปัญหาด้านความคิดที่แตกต่างกัน เพราะทั้งคู่ต้องการให้มีแต่สิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นแต่ในที่สุดมักจะระเบิดอารมณ์ใส่กัน การแก้ปัญหานั้นโดยมากจะใช้การพูดคุยถึงนิยามของการแต่งงานของแต่ละคน ในคนๆหนึ่งอาจมองว่าการแต่งงานคือการกลับมาบ้านและพบใครสักคนที่คอยถามไถ่และให้ความอบอุ่น ในขณะที่อีกคนต้องการใช้เวลาในด้านการงานเสียมากกว่า
คุณอาจจะใช้ปัญหาในเรื่องความกลัวและการคาดหวังมาช่วยปรับปรุงชีวิตคู่ของคุณได้ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคู่รัก
การเริ่มต้นที่ดี...
และนี่คือตัวอย่างที่พบมากที่สุดจากการความเห็นที่ไม่ลงรอยและความขัดแย้งที่ได้หลังจากการแต่งงาน และบทความนี้น่าจะช่วยให้คุณจัดการกับมันได้ด้วยตัวคุณเอง
๐ เงิน - เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดและเป็นต้นเหตุแห่งการทะเลาะเบาะแว้ง และมักลงลึกในรายละเอียดถึงการจับจ่าย เงินเป็นตัวบ่งบอกถึงความมั่นคั่ง มั่นคง และยังเป็นตัวชี้ปัญหาที่เรามีเนื่องจากมันอีกด้วย
๐ งานบ้าน - หลายคู่พบว่า ฝ่ายชายมักละเลยหน้าที่งานบ้านและทิ้งปัญหาให้ผู้หญิงเสมอ และเมื่อผู้หญิงในปัจจุบันมักออกทำงานนอกบ้านเช่นเดียวกับผู้ชาย ความเสมอภาคในบ้านควรมีเท่าเทียมกัน ทำให้เกิดปัญหาและแก้ไขได้ยาก เนื่องจากค่านิยม สิ่งที่ควรทำคือการพูดคุย และแบ่งหน้าที่การงาน โดยอาจให้งานบ้านง่ายๆกับฝ่ายชาย ให้เขารู้จักเริ่มต้นในการช่วยเหลือบ้าง และคุณผู้หญิงก็ไม่ควรว่ากล่าวหากเขาทำสิ่งที่ผิด อย่าลืมว่า ผู้ชายมักไม่ทำงานบ้าน หากคุณได้ฝ่ายชายที่เต็มใจช่วยงานบ้าน คุณคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุด
๐ เซ็กซ์ - คาดเดาว่าคู่แต่งงานใหม่มักมีเซ็กซ์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น หลายคู่อาจจะยุ่งมากเสียจนลืมเรื่องนี้ไปเลย หรืออาจพบว่าอีกฝ่ายมีปัญหาด้านเซ็กซ์ หรือความกลัวที่เซ็กซ์จะเป็นสิ่งน่าเบื่อ มีบทความเกี่ยวกับการปรับปรุงเซ็กซ์มากมาย ฉะนั้นจงศึกษาซะ เสียก่อนจะเกิดปัญหา
๐ ความใกล้ชิด - โดยเฉพาะในวันแรกๆหลังจากที่คบกันแล้ว ควรสร้างความใกล้ชิดและเพิ่มเข้าไปอีกในชีวิตประจำวัน ชีวิตคนเรามักจะมีสิ่งที่ยุ่งยากอยู่เสมอ แต่หากคุณได้ทำในสิ่งที่ดีเพื่อความสัมพันธ์ มันก็จะอยู่กับคุณไปตลอดจนการแต่งงาน ลองเพิ่มความใกล้ชิดและคุณจะรู้สึกถึงความรัก
๐ การสื่อสาร - หากคุณมีความเชี่ยวชาญในการพูดคุยสื่อสารและแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถนำมันมาใช้ในชีวิตประจำวันและชีวิตรักของคุณได้เสมอ หากคุณมีสติ
๐ การจัดการกับความขัดแย้ง - ในทุกๆความสัมพันธ์มักพบเจอปัญหาที่แก้ได้ยากเสมอ สิ่งที่คุณสองคนกำลังถกเถียงกัน จะนำไปสู่สิ่งที่คุณสองคนมีความขัดแย้งกัน และเมื่อใจเย็นกันแล้วก็นำมาสู่การแก้ปัญหา อย่าลืมว่าต้องใจเย็นเสมอนะคะ
การแต่งงานเป็นประสบการณ์ใหม่และคุณควรให้เวลาทั้งคุณเองและคู่รักในการจัดการปัญหาต่างๆรวมไปถึงการปรับตัวเข้าหากันด้วย ความรัก ความอดทน การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และสิ่งสำคัญยิ่งคือความเข้าใจ เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณทั้งสองมีความสุขกับชีวิตการแต่งงานตลอดไปค่ะ
แปลโดย...Blueberry Heart