“การเสริมจมูก (สไตล์เกาหลี)”


ปัญหาจมูกคนเอเชีย คือ อยากโด่ง  โดยคนเกาหลีหรือญี่ปุ่นเองได้เปรียบคนไทยอยู่บางส่วน ที่จะมีทรงจมูกโด่งกว่านิดๆ และโดยเฉพาะตรงปลาย (Tip of nose) จะมีฐานเรียวกว่า แคบกว่า เสริมแล้วจะดูเข้ารูปได้ง่ายแต่วิธีการนั้นเหมือนกัน คือ จะบอกว่าถ้าคนเกาหลีมาให้แพทย์ไทยทำก็จะสวยเช่นเดียวกับที่เขาทำโดยราคาถูกกว่า 2-3 เท่า



การเสริมจมูกในปัจจุบันมีหลักๆ 2 วิธี

1. การฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์
: แนะนำว่าควรเป็นสารที่ถูกต้อง คือ ต้องสลายไปได้ 100% ในเวลาหนึ่ง ปัจจุบันมักจะเป็น Hyarulonic acid เป็นสารเติมเต็มที่ใช้กันแพร่หลาย อีกอย่างอาจเป็นคอลลาเจน แต่ใช้น้อยลงเนื่องจากเป็นโปรตีน อาจมีการแพ้ได้แม้ทดสอบแล้วก็ตาม   ปกติแพทย์จะใช้กับคนไข้ที่ไม่ต้องการมีซิลิโคนหรืออยากจะฉีดก่อนเพื่อดูรูปหน้าตน  โดยการฉีดฟิลเลอร์จะเจ็บกว่าผ่า เพราะทำได้แคใช้ยาชาภายนอก ซึ่งจะยังไม่เพียงพอ ขณะฉีดก็จะยังเจ็บอยู่บ้างโดยเฉพาะส่วนปลาย

2. การผ่าตัดเสริม ซิลิโคน
: รอยผ่าตัดอยู่ในจมูกข้างเดียวหรือ 2 ข้างแล้วแต่ความถนัดของแพทย์ โดยเลาะโพรงที่จะวางซิลิโคนอยู่เหนือกระดูกอ่อนส่วนปลายและกระดูกแข็งส่วนบนแต่อยู่ใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งบางที่ วางไว้ใต้ผิวหนังและขยับไปมาได้ไม่เป็นเนื้อเดียวกับจมูก นอกจากการผ่าตัดแล้วการเหลารูปทรงซิลิโคน นั้นก็ต่างกันในแพทย์แต่ละท่าน ซึ่งต้องเข้าใจกายวิภาคของจมูกเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจแม้เป็นแพทย์ ต้องวางแล้วแนบชิดเป็นเนื้อเดียวกันไม่เป็นชิ้นแยกต่างหากทำให้เห็นเป็นก้อน  และที่สำคัญต้องไม่มากเกินที่เนื้อคนไข้จะรับได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาเมื่อมีพังผืดรัดและอักเสบทะลุในที่สุด   ส่วนรูปทรงนั้นต้องอิงโครงสร้างเดิมของคนไข้เป็นหลักประกอบกันกับรูปหน้า เช่น การทำจมูกเล็กแหลมมักทำให้ดูหน้ากางมากกว่าจะสวยงาม เป็นต้น  นอกจากนี้ อาจต้องมีการนำกระดูกอ่อนมาเสริมกับซิลิโคนด้วย เช่นผู้ป่วยเคยทำมาแล้วและมีการทะลุหรืออยากได้ส่วนปลายชัดมากๆ เหมือนหยดน้ำ เป็นต้น หรืออาจต้องมีการตกแต่งโครงสร้างกระดูกอ่อนของส่วนปลายจมูกเองประกอบด้วยในบางรายซึ่งเป็นรายละเอียด  และอีกประเด็นนั้นรูปทรงในผู้ชายและหญิงก็จะไม่เหมือนกัน  ทั้งนี้ ต้องมาคุยปรึกษาและดูรูปหน้าก่อนผ่าตัด    การผ่าตัดก็จะฉีดยาชาเฉพาะที่แล้วขณะทำก็จะไม่รู้สึกใดๆ  หลังผ่ามักจะมีการปิดพลาสเตอร์หรือใส่เฝือกจมูกไว้  2-3 วัน พยายามนอนหงายไม่นอนตะแคง และประคบเย็น ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการบวมจะลดลง 80-90 % อีก

ประเด็น คือ การใช้ซิลิโคนนิ่มๆ จะดีหรือไม่  อย่าลืมว่าจมูกเป็นอวัยวะค่อนข้างแข็ง (Rigid ) การใช้แบบนิ่มมากไปก็จะดูไม่ธรรมชาติ  และอีกอย่างถ้านิ่มเกินหลังผ่าตัดจะมีพังผืดมาหุ้มรอบแรงปกติจากพังผืดอาจรัดให้เกิดการโค้งได้ รวมทั้งการใช้ซิลิโคนนิ่มเกินจะทำให้เหลาให้บางมากๆ ไม่ได้ในบริเวณที่เราอยากให้บางเป็นต้น  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรเลือกใช้แบบแข็งมากจนเกินไปเช่นกัน
นอกจากนี้ การไปพบกับศัลยแพทย์ตกแต่งโดยตรง มักจะได้ข้อมูลทั้ง 2 แบบ แต่บางที่ที่ไม่มีศัลยแพทย์ตกแต่งอยู่คงแนะนำให้คนไข้ในเรื่องการฉีดเท่านั้น และการฉีดก็อย่าดูราคาเป็นหลักเด็ดขาด ขอให้รู้สารที่ใช้ด้วย เพราะสารที่ถูกต้องมักจะเป็นหลักหมื่นขึ้นไป รวมทั้งมีการแกะกล่องใหม่ทุกครั้ง ไม่ควรมีการแบ่งยาใช้มากกว่า 1 คน



“เสริมจมูกแล้วปลายบางใสทำอย่างไรดี”

ผู้ที่มีผิวหนังบางเนื้อน้อย ประกอบกับผิวหนังของเราจะบางลงเมื่ออายุมากขึ้น พอเสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่ค่อนข้างโด่งหรือซิลิโคนแข็งนานเข้าก็จะเกิดปลายบางได้ โดยทั่วไปการเสริมจมูกใช้ซิลิโคนทางการแพทย์ชนิดแท่ง อาจใช้แบบสำเร็จรูปหรือแบบที่แพทย์เหลาเองก็ได้ ซึ่งซิลิโคนมีความแข็งหลายระดับ ส่วนซิลิโคนเหลวหรือของเหลวอื่นใดที่ใช้เสริมจมูกเป็นการถาวรนั้นไม่ผ่านอย.และเป็นอันตราย อาจทำให้จมูกอักเสบเน่าหรือเบี้ยวผิดรูปได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเอาออกจะยาก ต้องขูดเนื้อดีของเราออกด้วยเพราะมันเข้าไปแทรกตัวอยู่ ต่างกับซิลิโคนแท่งที่ไม่ค่อยมีผลแทรกซ้อนและหากจำเป็นต้องเอาออกก็สามารถทำได้ไม่ยาก สำหรับสารฉีดเติมเต็มหรือฟิลเลอร์แบบชั่วคราวสามารถฉีดได้แต่จะสลายตัวไปหลังฉีดอย่างน้อยประมาณ 8-9 เดือน และราคายังค่อนข้างสูงอยู่ สุดท้ายที่มีผู้ถามมากคือการเสริมจมูกด้วยไขมัน โดยแพทย์จะตัดไขมันมาจากบริเวณอื่นโดยมากนิยมที่ใต้สะดือมาเสริมที่จมูกให้ ข้อดีคือเป็นเนื้อเยื่อของเราเองไม่มีสิ่งแปลกปลอม ข้อเสียคือหลังจากใส่ไปแล้ว ไขมันบางส่วนจะสลายทำให้จมูกดูยุบลงกว่าตอนเสริมใหม่ๆ และคาดเดาได้ยากว่าจะสลายมากน้อยเท่าใด หรือบางครั้งไขมันที่ตายบางส่วนจับตัวเป็นก้อนแข็งๆ ได้  สำหรับวัสดุเสริมอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวมายังใหม่มากขอให้รอผลระยะยาวก่อนจึงตัดสินใจเสริมด้วยวัสดุใหม่เหล่านั้น
ในกรณีที่เสริมจมูกไปแล้วและนานวันเข้าปลายจมูกบางใส ควรรีบทำการแก้ไขก่อนที่ซิลิโคนจะทะลุหรือผิวหนังบางมากเกินไป โดยการถอดซิลิโคนเก่าออก แล้วทำการเสริมใหม่ซึ่งที่นิยม คือ    ใช้กระดูกอ่อนที่หูหรือใช้ไขมันมา

เสริมที่ปลายจมูกร่วมกับใช้ซิลิโคน แต่หากผิวหนังยังไม่ถึงกับบางมาก การใช้ซิลิโคนปลายนิ่มก็จะช่วยได้โดยแพทย์จะใช้ซิลิโคนที่มีความนิ่มพิเศษตรงปลายใส่ให้แทนของเดิม
 


ภาพแสดงซิลิโคนปลายนิ่ม

การผ่าตัดปรับแต่งรูปร่างของจมูกให้ดูดีขึ้นทำได้หลายวิธี ขึ้นกับรูปเดิมของจมูกของเราว่าขาดส่วนใดหรือส่วนใดเกิน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะทำการตกแต่งจมูกควรศึกษาข้อมูลและทำการปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทุกครั้ง ว่าจะได้ตามที่ต้องการหรือไม่ มีข้อจำกัดหรือไม่เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด 

ขอบคุณข้อมูลจาก
พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ

สามารถปรึกษาได้ที่ “นิรันดา S”สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2658-0544-5 หรือ 0-2160-4191-2 หรือคลิก www.nirundaclinic.com และhttp://www.facebook.com/Nirunda





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement