จัดการความเครียด ก่อนสายเกินแก้



อาการของผู้ที่มีความวิตกกังวลนั้น อาจมีอาการแสดงออกที่แตกต่างกันไป เช่น ตัวเย็น มือเย็น ปากแห้ง เหงื่อออก คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย กลืนอาหารลำบาก กระวนกระวาย เหนื่อยง่าย ขาดสมาธิ หงุดหงิดบ่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และนอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้น ควรหันมาดูแลจิตใจและจัดการเรื่องของความเครียดความกังวลตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่มันจะส่งผลเสียต่อชีวิตเรา

สำหรับท่านใดมักตกอยู่ในสภาวะ กังวลใจ และเกิดความเครียดอยู่บ่อย ๆ นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล จิตแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิตได้แนะนำเทคนิคจัดการความกังวลใจที่สามารถฝึกได้ด้วยตนเองง่าย ๆ 4 ประการ ดังต่อไปนี้
      
       1. ฝึกทักษะผ่อนคลาย เพราะร่างกายกับจิตใจเราสัมพันธ์กัน ทักษะหนึ่งที่ฝึกได้ง่าย ๆ คือ ฝึกการหายใจ ซึ่งมีหลักง่าย ๆ 3 ข้อคือ
      
       - ไม่ต้องตั้งใจมาก เพราะหากตั้งใจมาก อาจทำให้เกร็งและไม่ผ่อนคลาย
       - หายใจออกให้ยาวกว่าหายใจเข้า โดยอาจใช้การนับเลขช่วย หายใจเข้า นับ 1 - 2 - 3 - 4 กลั้นไว้ นับ 1 - 2 หายใจออก นับ 1 - 2 - 3 - 4 - 5 - 6
       - หายใจเข้าท้องพองออก กลั้นไว้ หายใจออก ท้องแฟบลง หรืออาจใช้วิธีหายใจเข้าให้สุด ออกให้สุด นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการยืดเหยียด การบริหารร่างกาย เพื่อให้ได้กลับมาอยู่กับตัวเอง เพราะเวลาที่คนเราเคลื่อนไหว ความคิดจะลดลง ความสงบทางใจก็จะกลับมา ถ้าฝึกนานพอยิ่งทำให้รู้สึกเบาโล่ง  
  


       2. การจัดการด้านความคิด ระวังความคิดที่อาจทำให้เกิดความกังวลและความเครียด ไม่ไปเผลอคิดมัน รู้ทันมัน ฝึกวิธีคิดที่ช่วยให้เรามีความสุข
      
       3. จัดการปัญหาชีวิต โดยเฉพาะปัญหาความสัมพันธ์ ซึ่งมีส่วนทำให้คนเราเครียดและกังวลได้มาก
      
       4. เรื่องอาหารการกิน เราพบว่าคนที่ทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะหงุดหงิดง่าย การควบคุมอารมณ์ต่ำลง สำหรับสูตรของการกินอาหารเพื่อสมอง เป็นสูตรเดียวกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารอะไรที่ดีต่อหัวใจจะดีต่อสมองด้วย กินอาหารเพื่อสุขภาพให้ดี สมองก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
       
รู้แบบนี้แล้ว ลองนำไปปรับใช้กันดู เพื่อความสุขในการดำเนินชีวิตของคุณ ก่อนที่ทุกอย่างจะสานเกินไปนะคะ



ขอบคุณ ที่มา : manageronline






Pooyingnaka Wellness