สุขภาพทางเพศ เรื่องลับๆ ที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเผย โดยเฉพาะผู้หญิง บางรายเกิดความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศ แต่กลับอาย ไม่กล้าไปพบแพทย์ คิดเสียว่า ไม่อันตราย ไม่นานคงหายไปเอง
ทั้งนี้ นายแพทย์วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล และนายแพทย์พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เผยถึงโรคต่างๆ ของระบบอวัยวะเพศหญิง ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือจากสภาพแวดล้อม
เริ่มจาก 'ติดเชื้อโลน' เพราะมีตัวโลนเข้าไปอยู่บริเวณรูขุมขนหรือโคนขนอวัยวะเพศ ทำให้มีอาการคัน
ต่อด้วย 'หิด' ติดได้ทั้งบริเวณก้นและอวัยวะเพศ ตัวหิดจะเข้าไปอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นตุ่ม
ส่วน 'หูดข้าวสุก' ลักษณะตุ่มนูนแข็งขนาดเล็ก กลางตุ่มจะมีรอยบุ๋ม ไม่เจ็บไม่คัน ขนาดประมาณ 2-5 มิลลิเมตร โดยมากจะติดจากสระว่ายน้ำ หลังว่ายน้ำแล้วไม่อาบน้ำล้างตัวให้สะอาด
'เริม' ตุ่มแผลเล็กๆ ขาวๆ ทำให้ปวดแสบปวดร้อน โรคนี้เป็นซ้ำๆ ได้อีก เนื่องจากเชื้อไวรัสเริมจะเข้าไปในระบบประสาทด้วย เมื่อเครียด มีประจำเดือน ใส่กางเกงรัด ก็จะกำเริบขึ้นมาอีก
และที่ใกล้เคียงกัน คือ 'งูสวัด' ที่จะขึ้นเป็นตุ่มผื่น ปวดแสบปวดร้อนกว่าเริมมาก แต่ถ้ารักษาถูกต้องจะหายขาด
นอกจากนี้ ยังมี 'ไส้เลื่อน' ไม่ได้เป็นเฉพาะผู้ชายเท่านั้น อาการที่เกิดจะมีก้อนนูนแดงที่ขาหนีบ เนื่องจากผนังหน้าท้องบางจุดอ่อน ลำไส้จึงอาจถูกดันต่ำลงมา
'หูด' ที่ทำให้เกิดจุดเล็กๆ ที่ดูคล้ายกับหงอนไก่
'ถุงน้ำ' จะเกิดขึ้นที่ปากช่องคลอด เป็นถุงน้ำที่บวมนูนไม่ยุบ โดยไม่ได้เกิดจากการสวมเสื้อผ้ารัด
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตพบความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศตามลักษณะข้างต้นขึ้นแล้ว ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ทั้งด้วยเครื่องมือและยา ซึ่งทำให้หาย ปลอดภัยไม่ลุกลาม
ขอบคุณ ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์