วันนี้จึงมีคำแนะนำในการนำสมุนไพรแบบไทยๆ มาคลายร้อนซึ่งง่ายและได้ผลตามภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะในหน้าร้อนนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าเครื่องดื่มปรุงจากสมุนไพรช่วยดับกระหายที่มีคุณค่ามาดับร้อนผ่อนกระหาย ซึ่งการดื่มน้ำสะอาดเย็นชื่นใจก็ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ น้ำสมุนไพรเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากพืชหลายชนิด เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ นำมาแปรรูปให้เหมาะสมตามทั้งนี้น้ำสมุนไพรมีประโยชน์แตกต่างกัน เช่น
1. มะตูมสุก
รสหวานเย็น สรรพคุณแก้ลม แก้เสมหะ แก้มูกเลือด บำรุงไฟธาตุ แก้กระหายน้ำ ขับลม รสฝาด แก้ปวดศีรษะ ตาลาย เจริญอาหาร ลดความดันโลหิตสูง
2. กระเจี๊ยบแดง
นอกจากช่วยแก้กระหายน้ำและทำให้สดชื่นแล้ว น้ำกระเจี๊ยบยังช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่ว ช่วยย่อยอาหาร
และเป็นยาระบายอ่อนๆ แถมยังช่วยลดไข้และแก้ไอได้อีกด้วย
3. ดอกเก๊กฮวย
แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยให้สดชื่น ลดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะอากาศร้อน
4. ว่านหางจระเข้
ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีและท้องไม่ผูก
น้ำดื่มสมุนไพรชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนนอนดึกและอ่อนเพลีย
5. น้ำรากบัว
เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้ได้มาจากรากบัวต้มกับน้ำ ใช้ดื่มเพื่อดับกระหาย
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณแก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน ลดไข้ ขับเสมหะ บำรุงกำลัง ช่วยให้เจริญอาหาร
6. น้ำว่านกาบหอย
ทำมาจากใบว่านกาบหอย ใช้ดื่มเพื่อแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และยังแก้ฟกช้ำภายในได้ด้วย
7. น้ำใบบัวบก
เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดี ช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้เกือบทุกคนจะนึกถึงน้ำใบบัวบก น้ำสมุนไพรนี้ได้มาจากใบบัวบกสด มีสรรพคุณแก้เจ็บคอ กระหายน้ำ แก้ช้ำใน โรคปากเปื่อย ปวดศีรษะข้างเดียว ทำให้สดชื่น และยังช่วยลดความดันโลหิตสูง
8. น้ำใบเตย
เพิ่มความสดชื่น ช่วยในการบำรุงหัวใจ ลดอาการกระหายน้ำ
9. มะนาวผสมน้ำผึ้ง
เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้ท้องอืด ช่วยขับลม แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ แก้เลือดออกตามไรฟัน และถ่ายพยาธิ
วิธีการดื่มที่ดี : ควรดื่มแบบจิบช้าๆ และควรดื่มทันทีที่ปรุงเสร็จเพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารและทางยามากกว่าปล่อยทิ้งไว้นานแล้วดื่ม และที่สำคัญแล้วยิ่งอากาศร้อน คุณยิ่งต้องใส่ใจเรื่องของการรับประทานอาหารมากขึ้น เพราะการเลือกรับประทานอาหารในช่วงอากาศร้อนอย่างนี้ ยังช่วยให้คุณ.. ไม่ต้องเสี่ยงต่อโรคท้องร่วงและโรคอาหารเป็นพิษ ที่สำคัญคือ อย่าปล่อยให้จิตใจเราร้อนตามอากาศรอบกายก็แล้วกัน รักษาใจให้เย็นไว้
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์