หลายๆคนมักเข้าใจประเภทผิวของตัวเองผิด ทำให้การดูแลผิวทำได้ไม่เต็มที่และไม่เห็นผล ลองสังเกตกันดูใหม่นะคะว่าผิวเราเป็นผิวประเภทไหนกันแน่
ผิวผสม
ถ้าเรารู้สึกว่าบางส่วนบนผิวหน้านั้นแห้งแต่บางส่วนกลับมัน นั่นแสดงว่าเราเป็นคนผิวผสมแล้วล่ะค่ะ
ลองสังเกตในแต่ละวันนะคะ คุณอาจจะมีผิวธรรมดา หรือผิวแห้งซะส่วนใหญ่บนใบหน้า และส่วนของผิวมันก็มักจะอยู่บริเวณ T-Zone คือหน้าผาก และจากกลางหน้าผากลงมาจมูกและลงไปถึงคาง
จะรู้ได้ยังไงว่าเรามีผิวผสม
- หลังล้างหน้า (เช็ดหน้าและปล่อยไว้สักพักโดยไม่ลงครีมบำรุง) ผิวบางส่วนโดยเฉพาะบริเวณแก้มจะรู้สึกแห้งตึง แต่เฉพาะบริเวณ T-Zone จะรู้สึกว่าผิวมัน หรือสังเกตว่าบริเวณจมูกมักมีสิวเสี้ยนเสมอๆ
การดูแลผิวผสม
- การทำความสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนสำหรับผิวหน้าล้างหน้าวันละสองครั้ง
- มอยส์เจอไรเซอร์ ให้ทามอยส์เจอไรเซอร์ในส่วนผิวที่แห้ง
- สมดุล เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิว เช่น ที่มีส่วนผสมของ alpha hydroxy acids หรือวิตามินเอ เรตินอล
- ควบคุม ให้ใช้กระดาษซับมันซับในส่วนที่มัน
- ป้องกัน ให้ใช้ครีมกันแดดทุกวัน และอย่างต่ำต้อง SPF 15
รู้เรื่อง T-Zone
T-zone คือส่วนของใบหน้าที่ประกอบไปด้วย หน้าผาก จมูก และบริเวณรอบๆปากของเรา รวมไปถึงคางด้วยด้วยค่ะ ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่าลักษณะส่วนประกอบทั้งหมดรวมกันแล้วเป็นสัญลักษณ์ตัว T นั่นเอง
บ่อยครั้งที่บริเวณ T-zone จะมัน เพราะต่อมน้ำมันจะมีมากกว่าในส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดสิวเสี้ยน สิวหัวขาว หรือสิวหัวช้างได้อย่างง่ายๆ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับกรรมพันธ์ด้วย เราไม่สามารถรักษาปัญหานี้ได้แต่เราสามารถจัดการกับมันได้
การจัดการกับปัญหา T-zone นั้นมีหลากหลายวิธีค่ะ
- พยายามอย่าจับใบหน้า อย่าให้ผมปรกหน้า เพราะว่ามือและผมที่สกปรกจะทำให้บริเวณนั้นยิ่งสกปรก ทำให้เป็นสิวอุดตันได้
- เลือกแชมพูสำหรับผมมันเพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากเส้นผม
- ล้างหน้าด้วยสบู่เหลวหรือสบู่ก้อนที่มีส่วนผสมของ AHAs หรือประกอบไปด้วย salicylic acid หรือ benzoyl peroxide หรือทั้งสองอย่าง
- ใช้ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของ salicylic acid หรือ benzoyl peroxide หรือทั้งสองอย่าง ในปริมาณเล็กน้อยกับส่วนที่มีผลกระทบ ให้ระมัดระวังในบริเวณคาง ซึ่งถ้าใช้มากอาจจะทำให้ผิวส่วนนี้แห้ง หรือสอบถามได้จากเภสัชกรเพื่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง
- แป้งตลับจะช่วยดูดซับน้ำมันออกไปได้บ้าง
- พยายามออกห่างจากห้องครัวโดยเฉพาะเวลาที่มีการทำอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน เช่นการทอด เพราะน้ำมันจะยิ่งทำให้ใบหน้าแย่ไปอีก
- อย่าพยายามไปยุ่งกับผิวส่วนที่อักเสบ โดยเฉพาะสิว
ผิวมัน
เมื่อต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป มันก็จะส่งผลมาถึงผิวของคุณด้วย และแน่นอนในบริวเณ T-zone ที่ซึ่งมีต่อมน้ำมันมากที่สุด คุณไม่สามารถควบคุมความมันได้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีผิวมัน
- รูขุมขนอุดตัน
- ผิวของคุณจะมันที่สุดโดยเฉพาะ T-zone
- ใบหน้าดูมันวาว
- ผิวหน้าสัมผัสได้ถึงความเหนียวลื่น
- เวลาแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางหลุดหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
- คุณมีสิว สิวเสี้ยนและสิวอักเสบ
การดูแลผิวมัน
โดยมากแล้วผิวจะมันที่สุดในช่วงการเจริญเติบโตที่ย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธ์แต่ก็จะยาวไปถึงช่วงอายุ 30 ได้ มีหลายวิธีที่จะช่วยดูแลผิวมันของคุณไม่ให้มันแห้งเกินไป
- อย่าใช้ผลิตภันฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถดึงเอาน้ำมันส่วนเกินออกได้ อย่าพยายามเอาน้ำมันออกให้มากเกินไป เพราะต่อมน้ำมันจะยิ่งผลิตน้ำมันมากขึ้นไปอีก ทีนี้ล่ะหน้าก็จะมันเยิ้มเชียว
- ทำความสะอาดเพียงแค่วันละสองครั้งด้วยเคล็นเซอร์เพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตัน แต่อย่าขัดหน้าให้แรงหรือล้างหน้าให้มากเกินไป
- ถ้าคุณรู้สึกว่าหลังจากล้างหน้าแล้วหน้าแห้งตึง ให้ทามอยส์เจอไรเซอร์ชนิดปราศจากน้ำมันเพียงบางๆ แต่อย่างไรก็ตามผิวที่มันก็ยังคงบำรุงผิว ซึ่งในบางครั้งผิวมันด้านบนผิวแต่ลึกๆแล้วผิวขาดความชุ่มชื้นหรือที่เรียกว่าผิวขาดน้ำนั่นเอง
- เวลาเลือกเครื่องสำอาง โดยเฉพาะครีมรองพื้นและบลัช เลือกที่เป็น oil-free เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากน้ำจะไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน รวมไปถึงครีมรองพื้นชนิดที่สามารถดูดซับความมันได้จะช่วยให้น้ำมันในใบหน้าลดน้อยลง
- ใช้ครีมกันแดดชนิดไม่มีน้ำมัน ถ้าจะให้ดีใช้ชนิดที่เป็นเจล เพราะจำทำให้หน้ามันน้อยหน่อย และอย่าลืมว่า SPF 15 เป็นขั้นต่ำค่ะ
ผิวแห้ง
ผิวของจะแห้งเมื่อผิวหนังชั้นบนสูญเสียน้ำและน้ำมันตามธรรมชาติ (คุณต้องการน้ำมันและน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง น้ำมันจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเราสูญเสียน้ำ) อาการผิวแห้งนี้อาจจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือเกิดจากผิวของคุณจริงๆก็ได้ เช่น ความร้อนของแสงแดดที่แผดเผา อากาศที่เย็น หรืออากาศแห้ง ในขณะเดียวกัน เมื่อคุณอายุมากขึ้น ผิวคุณก็จะแห้งขึ้น
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีผิวแห้ง
- คุณรู้สึกได้ถึงผิวหนังที่แห้งตึง
- ผิวลอก
- รูขุมขนแทบมองไม่เห็น
- ผิวดูหยาบกระด้าง
- รู้สึกคันผิว
มาส์กผิวสำหรับผิวแห้ง
ส่วนผสม
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 6 ออนซ์
อัลมอนด์บด
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
น้ำมันข้าวสาลี 2 ชา
วิธีทำ
ผสมส่วนผสมต่างๆจนกระทั่งเห็นว่ามันเข้ากันดีแล้ว ทาและนวดเบาๆที่ผิวหน้า หลังจากนั้นให้พอกไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้ผิวคุณก็จะนุ่มและชุ่มชื้นแล้วล่ะค่ะ
เมื่อผิวแห้งทำให้คัน
เมื่อผิวเริ่มแตกและลอก ซึ่งแบคทีเรีย ต่างๆสามารถผ่านเข้าไปได้ ทำให้ผิวที่แห้งของคุณนั้นคันขึ้นมา หากต้องการให้บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว ให้ลองใช้ว่านหางจระเข้มาทาหรือจะใช้คาลาไมน์ก็ได้ อาการคันนี้ต้องใช้เวลาในการรักษา การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีคุณภาพที่มีส่วนประกอบของน้ำมันจะไปเคลือบผิวและปกป้องไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น สามารถใช้เบบี้ออยล์ก็ได้นะคะ
ผิวบอบบาง
เป็นผิวที่ระคายเคืองง่าย ซึ่งเกิดได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกินจำเป็นหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความรุนแรงต่อผิวมากเกินไป โดยเฉพาะการใช้เคล็นเซอร์
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีผิวบอบบาง
- เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆจะเกิดผื่นแดงและระคายเคือง
- AHAs และ เรตินอล เป็นสาเหตุทำให้เกิดการระคายเคือง
การดูแลผิวบอบบาง
- เมื่อไรก็ตามที่คุณพบว่าผิวของคุณมีปฎิกิริยากับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิดและทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดผื่นแดง การดูแลผิวจึงจำเป็นอย่างยิง
- เลือกเครื่องสำอาง มอยส์เจอไรเซอร์ และผลิตภัณฑ์ป้องกันแดงที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและปราศจากการระคายเคือง
- ทาผลิตภัณฑ์ต่างๆเพียงแค่บางๆเท่านั้น และเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบางหรือที่จะเขียนว่า Sensitive Skin
- อย่าล้างหน้ามากเกินไป
- ใช้ครีมบำรุงต่างๆแค่บริเวณที่ผิวมันเท่านั้น และหากเกิดผื่นแดงให้หยุดทันที
บทความโดย Pooyingnaka
Photo: skincare.community