ไม่น่าเชื่อว่างานออฟฟิศที่เห็นว่าเป็นงานเบาๆ ไม่ได้แบก ไม่ได้หาม จะสามารถสร้างความปวดเมื่อยไปได้ทั่วร่างกาย
นอกเหนือจากอาการปวดตา อันเป็นผลมาจากการใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไปแล้ว บรรดาสาวออฟฟิศส่วนใหญ่ยังอาจเกิดอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดคอ ปวดหลัง และเกิดอาการที่ไม่ค่อยสบายตัวอื่นๆอีกมากมายจากงานที่ทำอยู่
ปวดหัว
ผู้หญิง 1 ใน 2 ที่ทำงานออฟฟิศ มีอาการปวดหัวเหมือนถูกใครเอาค้อนมาทุบ หรือไม่ก็ปวดจี๊ดเข้าไปในหัว ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเช่นนั้นก็คือ ความเคร่งเครียดกับงานมากเกินไป
วิธีที่จะช่วยได้ แทนที่จะพึ่งยาพาราเซตามอลแก้ปวดอยู่ร่ำไป คุณควรจะหยุดพักจากงานที่ทำอยู่สักครู่ แล้วเดินออกไปหาอากาศบริสุทธิ์ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ใกล้ๆ สูดให้เต็มปอด พร้อมกับดมยาดมหรือทายาหม่องที่ขมับและกดเบาๆตรงบริเวณที่รู้สึกปวดไปด้วยก็ดี และถ้าหากเป็นไปได้ควรได้นอนหลับสักงีบ ตื่นขึ้นมาอาการก็จะดีขึ้น
วิธีป้องกัน ต้องทำใจให้สนุกกับการทำงานและรู้จักหาเวลาพักผ่อนหย่อนใจตามความเหมาะสมอย่างเช่น ระหว่างนั่งรถไปทำงานอาจฟังเพลงโปรดหรืออ่านหนังสือการ์ตูนไปด้วย และหลังเลิกงานก็ออกไปเดินเล่นหรือจ๊อกกิ้งในสวนสาธารณะ
(( กดจุดหยุดปวดหัว ใช้นิ้วโป้งของคุณกดลงไปตรงบริเวณหว่างคิ้วทั้งสองข้าง นับ 1-5 ในใจ แล้วคลายแรงกดลง จากนั้นก็กดซ้ำอีกทำสลับไปมาเช่นนี้ประมาณ 5 ครั้ง ))
ปวดนิ้ว นิ้วล็อก
ปัจจุบันอาการปวดนิ้ว หรือนิ้วล็อกมักจะเป็นกันบ่อยในหมู่สาวออฟฟิศ ที่วันๆ ต้องนั่งทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และตลอดทั้งวันมือก็ไม่เคยได้ปล่อยวางจากการคลิกเมาส์เลย ซึ่งอิริยาบถดังกล่าวสามารถส่งผลให้เส้นเอ็นและเส้นประสาทที่บริเวณมือ นิ้ว และข้อต่อต่างๆ ถูกกดทับเป็นเวลานานได้
วิธีที่จะช่วยได้ เมื่อคุณเริ่มรู้สึกชาไม่มีแรงตาม นิ้ว มือ และแขน ให้คุณรีบหาลูกดิ่งหรือโยโย่มาเล่นทันที จะช่วยให้นิ้ว มือ และแขนของคุณได้ขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว เลือดลมไหลเวียนไปเลี้ยงได้สะดวก และคลายตัวจากการล็อก
วิธีป้องกัน พยายามลดการใช้เมาส์ลง แล้วหันมาใช้คีย์บอร์ดแทนอย่างไรก็ดีหากคุณไม่อาจลดการใช้เมาส์ได้ เดี๋ยวนี้ก็มีอุปกรณ์ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยลดแรงกดของมือและแขนที่จับเมาส์แล้ว คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องใช้สำนักงานชั้นนำทั่วไป
(( เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอาการนิ้วล็อก คุณสามารถทำให้อาการดังกล่าวผ่อนคลายลงได้ด้วยการเล่นโยโย่หรือลูกดิ่ง ซึ่งจะช่วยบริหารมือและนิ้วของคุณได้เป็นอย่างดี ))
ปวดตา
การจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ นอกจากจะทำให้ดวงตาปวด
และล้าแล้ว รังสีจากจอยังสร้างความระคายเคือง และส่งผลให้ตาแห้งด้วย
วิธีที่จะช่วยได้ หยอดตาด้วยน้ำตาเทียม(มีขายตามร้านขายยาทั่วไป) ซึ่งจะช่วยให้ตาที่แห้งและระคายเคืองรู้สึกดีขึ้น ส่วนอาการอ่อนล้าของสายตา ขอแนะนำให้คุณหลับพักสายตาสักครู่ หรือทอดสายตามองดูต้นไม้ ใบไม้เขียวๆ ที่อยู่นอกหน้าต่าง เท่านี้ก็ช่วยผ่อนคลายสายตาได้
วิธีป้องกัน หาแผ่นกรองรังสีมาติดหน้าจอคอมพิวเตอร์ และเวลานั่งทำงานควรนั่งให้ห่างจากหน้าจออย่างน้อย 60 ซม. นอกจากนี้ก็ควรจะกะพริบตาให้บ่อยขึ้น ทุกๆ 20 นาที ให้ละสายตาจากหน้าจอสักครู่ และดื่มน้ำมากๆ
ท้องไส้ปั่นป่วน
ในระหว่างวันทำงาน อาหารการกินส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยถูกหลักโภชนาการเท่าที่ควร แถมเวลารับประทานอาหารแต่ละทีก็ต้องรีบๆ ให้เสร็จไป อาจเนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก บางทีก็รับประทานมากหรือน้อยเกินไป หรือบางครั้งในวันที่งานรีบเร่งก็ไม่ได้รับประทานอะไรเลย ฉะนั้นจึงเป็นการสมควรที่ท้องไส้จะต้องประท้วง
วิธีที่จะช่วยได้ ดื่มชาขิง หรือชาตะไคร้อุ่นๆ สักถ้วย จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการย่อยสลายไขมันหรือรับประทานยาลดกรด หรือยาแก้จุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ อย่างเช่น ยาธาตุน้ำขาว ยาธาตุน้ำแดง
วิธีป้องกัน คุณควรให้เวลากับการรับประทาน ไม่ควรเร่งรีบ และควรดื่มชาขิง หรือชาตะไคร้หลังมื้ออาหาร แทนที่จะดื่มกาแฟ
(( อาหารสะดวกซื้อของสาวออฟฟิศมักหนีไม่พ้นอาหารทอดๆ ซึ่งมีไขมันสูง หลังมื้ออาหารได้ดื่มชาขิงสักถ้วย ก็จะช่วยให้การย่อยสลายไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ))
ปวดหลัง
ตลอดชีวิตของสาวออฟฟิศคนหนึ่งที่ทำงานตั้งแต่สมัยสาวๆ กระทั่งเกษียณอายุ พบว่าพวกเธอต้องนั่งอยู่กับที่ทำงานประมาณ 80,000 ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากโต๊ะและเก้าอี้ที่นั่งทำงานไม่ถูกต้องเหมาะสมกับอิริยาบถ อาการปวดหลังย่อมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
วิธีที่จะช่วยได้ หมั่นบริหารร่างกายด้วยท่าบริหารที่แนะนำ (จะอธิบายต่อไป) ซึ่งสามารถทำได้แม้คุณจะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน และควรหาเวลาว่างหลังเลิกงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์เข้าคอร์สนวดตัวตามสถานบำบัด หรือสปาต่างๆ
วิธีป้องกัน เวลาทำงาน คุณควรนั่งให้ถูกต้องเหมาะสม โดยนั่งหลังตรง ไม่งอ มีพนักพิงรองรับ แผ่นหลังได้พอดี เก้าอี้ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป พอให้เข่างอตั้งฉากกับพื้นได้
คืนความกระฉับกระเฉงใน 2 นาที
1. คอ ยกมือขึ้นมายันไว้ที่ด้านข้างศีรษะบริเวณเหนือใบหู พยายามใช้มือดังกล่าวดันศีรษะไปด้านข้าง ขณะเดียวกันก็ให้ฝืนศีรษะเอาไว้ไม่ให้เอียงไปตามแรงดันของมือ จากนั้นก็ผ่อนแรงดันลง ทำซ้ำ 20 ครั้ง แล้วเปลี่ยนไปทำเช่นเดียวกันนี้กับอีกข้างหนึ่ง
2. ไหล่ ยกมือขึ้นมาแตะไว้ที่ไหล่ จากนั้นให้หมุนข้อศอกมาข้างหน้า 5 รอบ แล้วหมุนไปข้างหลัง 5 รอบ
3. แผ่นหลัง นั่งตัวตรงบนเก้าอี้ทำงาน จากนั้นก็ก้มตัวลงมาข้างหน้า จนมือสามารถแตะกับตาตุ่มได้ นับ 1-20 ในใจแล้วค่อยเงยขึ้นกลับสู่ท่านั่งตัวตรง
4. แขน นั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ทำงาน เหยียดแขนออกด้านข้างให้ขนานไปกับบ่า กางมือให้เต็มที่ เหมือนกับอินทรีกางปีก เหยียดขาข้างซ้ายตรงไปข้างหน้า พร้อมเอี้ยวตัวข้างเดียวกันกับขาที่เหยียดออก จากนั้นก็หดขากลับแล้วสลับไปทำเช่นเดียวกันนี้กับขาข้างขวา ทำซ้ำข้างละ 15 ครั้ง
ที่มา : นิตยสาร Lisa