ปรับรูปหน้ากำจัดริ้วรอย เทรนด์ใหม่นวัตกรรมความงาม เน้นป้องกันล่วงหน้า ก่อนตีนกาถามหา ยิ่งเป็นคนเครียดง่าย ช่างวิตกกังวลและใช้ชีวิตกลางแดด รอยตีนกายิ่งมาเยือนเร็วขึ้น แถมริ้วรอยแห่งอารมณ์มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้นตามวัย
ถ้าจะให้ดีควรหันมาเน้นการป้อมกันเนิ่นๆตั้งแต่เยาววัย เมื่อพูดถึงกำจัดริ้วรอย ปรับรูปหน้า เรามักจะได้ยินกันอยู่เสมอๆ ทั้งครีมบำรุงผิวสารพัดสูตร ไปจนถึงโปรแกรม ทรีตเมนต์ต่างๆที่มีอยู่มากมาย วันนี้เลยจะขอพูดถึงเทคโนโลยีในการกำจัดริ้วรอย ปรับรูปหน้ากันค่ะ
Botolinum Toxin หรือที่รู้จักกันดีว่าโบท็อกซ์.... ที่ใช้ในการกำจัดริ้วรอย แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ถูกค้นพบมานาน และมีการใช้มายาวนาน แต่ก็ยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถจัดการริ้วรอยได้อย่าง เห็นผลรวดเร็ว ทันใจ เห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลชัดเจนประมาณ 2 สัปดาห์ ผลของการรักษาอยู่ได้นานประมาณ 4- 6 เดือน ฉีดเสร็จ สามารถกลับไปทำงาน ทำธุระต่อได้ทันที เรียกว่าสะดวกสบายสุดๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้จริงๆ ข้อพึงระวังก็คือ การปรับรูปหน้า หรือการลดริ้วรอยด้วย Botolinum Toxin นี้ จำเป็นต้องอาศัยผู้ชำนาญ และมีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า เพื่อที่จะรู้ถึงโครงสร้างภายในของกล้ามเนื้อใต้ชั้นผิวหนัง มีการออกแบบว่าจะฉีดลงในตำแหน่งใด เพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ การรักษาจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดูดี และเป็นธรรมชาติ นอกจากลดริ้วรอยแล้วในปัจจุบัน หลายๆคนยังใช้ Botolinum Toxin เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูดีตามเทรน อย่างเทรนตาจิกแบบหนุ่มสาวเกาหลี หรือ หน้าเรียวเล็ก จมูกโด่งเป็นต้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกรูปหน้าจะทำได้เหมือนกันหมดนะคะ จำเป็นต้องให้คุณหมอพิจารณาว่ารูปหน้านั้นๆสามารถทำแล้วเห็นผลได้ตามที่ต้องการหรือไม่
**สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ในปัจจุบันเริ่มมี Botolinum Toxin ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อ.ย.ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีราคาถูก แต่ไม่มีใครยืนยันได้ถึงมาตรฐาน และคุณภาพ ซึ่งก็เป็นความเสี่ยงอย่างมากอีกอย่าง เพราะผลลัพธ์อาจจะมีเพียงผลที่อยู่ได้ไม่นาน ไปจนถึง เกิดอาการดื้อยา ซึ่งหมายถึงว่า ต่อไปก็จะไม่สามารถลดริ้วรอยได้ด้วย Botolinum Toxin อีกต่อไป ซึ่งนับเป็นผลเสียหายอย่างร้ายแรงสำหรับหลายๆคนทีเดียว
ฟิลเลอร์..มหัศจรรย์แห่งการเติมเต็ม แล้วก็มาถึงนางเอกของการปรับรูปหน้าอีกตัว สารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ ใช้ในการเสริมปรับรูปหน้าในตำแหน่งที่ต้องการให้นูนเด่น เช่น จมูก ขมับ ,หน้าผาก ,คาง, ริมฝีปาก, ร่องลึกใต้ตา, ร่องน้ำตา, ร่องแก้ม,มุมปาก หรือโหนกแก้ม สามารถช่วยลดริ้วรอย และยังช่วยลดร่องรอยที่เหลืออยู่หลังการดึงหน้าหรือแก้ปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการดึงหน้าได้ เช่น เติมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ร่องน้ำตา ,รอยย่นที่ริมฝีปากบน หรือฉีดกราม เพื่อให้เห็นใบหน้ากว้างขึ้น
Thermage VS Ulthera
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวจะเริ่มสึกหรอ และเสื่อมโทรมไปตามวัย ผิวที่เคยกระชับตึงก็จะสูญเสียความยืดหยุ่น ทั้งนี้ เกิดจากคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพ เสียความยืดหยุ่น คอลลาเจน คือ โปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักๆของชั้นผิวหนัง ทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนังเข้าด้วยกัน มีลักษณะเป็นสายยาว โดยมีมากที่สุดที่ผิวหนัง ผิวหนังมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดี เมื่ออายุมากขึ้นเส้นใยของคอลลาเจน จะเสื่อมสภาพลงทำให้แรงสปริงตัวและ ความยืดหยุ่นที่เคยมีในวัยเด็กเสื่อมสลายไป ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิว เทอร์มาจ (Thermage) คือเทคโนโลยีในการยกกระชับผิวในชั้นนี้ โดยใช้หลักการส่งพลังงานคลื่นวิทยุ ความถี่สูง (RF) เข้าไปทำงานในส่วนนี้ของผิว คือจะลงไปแก้ปัญหาที่เส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อย ขาดการยืดหยุ่นสปริงตัว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดกลับมาและมีเกลียวที่ขึงตึงขึ้นยึดเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ดีขึ้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมีสปริง และผิวกระชับขึ้น
แต่ถ้าศึกษาให้ลึกซึ้งแล้วจะพบว่า ความหย่อนคล้อยไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ชั้นผิวเท่านั้น เพราะใต้ชั้นผิวหนังแท้ของเรายังมีชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้ออยู่ด้วย ระหว่างชั้นไขมันและกล้ามเนื้อมีพังผืดห่อหุ้ม กล้ามเนื้อ เรียกว่า SMAS เป็นเสมือนเบาะรองอยู่ใต้ชั้นไขมัน ซึ่งยึดติดอยู่กับชั้นผิวหนังอีกที เมื่ออายุมากขึ้นพังผืดนี้จะขาดความแข็งแรง และเริ่มหย่อนคล้อยส่งผลให้ผิวหย่อนยานตามไปด้วย เปรียบเหมือนโครงหลังคาที่ยึดกระเบื้องไว้ เมื่อชำรุดก็ไม่สามารถยึดกระเบื้องไว้ได้ เช่นเดียวกับผิว เมื่อ SMAS มีความหย่อนคล้อย เสื่อมสภาพ ก็ไม่สามารถยึดคอลลาเจนให้มีความตึงกระชับ ยืดหยุ่นดีไว้ได้ นี่เองจึงต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า อัลเธอราพี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการยกกระชับผิวในขณะนี้ เป็นการยกกระชับในระดับที่ลึกที่สุด เท่าที่เคยมีมา ใช้พลังงานอัลตร้าซาวด์ที่เข้มข้น สามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อพังผืด(SMAS) ที่ยึดคอลลาเจน เมื่อ SMAS หย่อนคล้อยก็จะทำให้ผิวหย่อนคล้อยไปด้วย อัลเธอราพีจะส่งพลังงานลงไปเป็นจุดๆถี่ๆ เสมือนลงไปเย็บตะเข็บผ้าที่ยืดย้วยให้กลับมาตึงอีกครั้ง ทำให้ผิวยกกระชับขึ้น คิ้วยกขึ้น ตาโตขึ้น สามารถแก้ไขกรอบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมาได้รูป รวมทั้งรอยย่นที่คอด้วย ผลการรักษาอยู่ได้นาน 2 4 ปี
Hyperthermia Infrared Bed
อุณหภูมิบำบัด (Hyperthermia) เป็นแสงอินฟาเรด A ที่เพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกายให้สูงถึง 39.5 องศา เพื่อช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นการรักษาด้วยวิธีนี้ ช่วยให้การหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น และชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง
เทคโนโลยีในการยกกระชับใบหน้ายังมีอีกหลากหลายวิธี เข้าแก้ไขที่ปัญหาในจุดที่แตกต่างกัน และที่สำคัญในการรักษาหลายๆกรณีจำเป็นต้องผสมผสานเทคโนโลยีมากกว่า 1 ชนิดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ สิ่งที่ควรจะต้องตระหนักเสมอเลยในการเลือกการรักษา ก็คือ การรักษาทุกอย่างมีผลข้างเคียงได้ จึงจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก่อนตัดสินใจ และเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากๆค่ะ
www.apexprofoundbeauty.com Call Center 080 5000 123