Question : หลังร่วมเพศมีเลือดออกประจำ ผิดปกติหรือไม่คะ??
Answer โดย นพ. ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์แห่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
"การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์นั้น เกิดจากหลายสาเหตุ มีทั้งอาการอักเสบหรือติดเชื้อ บริเวณผนังช่องคลอด หรือบริเวณปากมดลูก ซึ่งทำให้เลือดออกได้ และการไม่มีอารมณ์ร่วมของฝ่ายหญิง เนื่องจากสารหล่อลื่นในแต่ละคนจะต่างกัน บางคนอาจต้องใช้เวลานานในการเล้าโลมก่อนมีเพศสัมพันธ์ซึ่งการเล้าโลมจะช่วยให้น้ำหล่อลื่นออกมาได้
นั่นเท่ากับว่า การที่มีสารหล่อลื่นหลั่งออกมาน้อยทำให้เกิดการถลอกของเนื้อเยื่อได้เมื่อมีการสอดใส่ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หากมีเลือดออกบ่อยครั้งควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจให้ทราบสาเหตุที่แน่นอน
ส่วนสาเหตุของเลือดออกจากการสอดใส่ระหว่างร่วมเพศนั้น อาจเป็นเลือดออกจากการอักเสบมีแผลของปากช่องคลอดช่องคลอด ปากมดลูก หรือมดลูก เลือดแบบนี้จะสีแดงสด ในบางคนเลือดมีกลิ่นจากการอักเสบ ขณะที่เลือดออกบางคนรู้สึกเจ็บๆ เสียวๆ ภายใน
หรือเป็นเลือดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์โดยตรงเช่น มีเลือดออกจากฮอร์โมนผิดปกติ เลือดจากผลของการคุมกำเนิด เช่นฉีดยาคุม ฝังยาคุม กินยาคุม เมื่อมีการกระทบกระเทือนก็จะไหลออกมาให้เห็น เลือดที่เกิดจากในข้อนี้จะมีสีแดงๆ ดำๆ หรือเป็นลักษณะเลือดเก่าๆ ขณะที่ออกไม่รู้สึกเจ็บ หรือเป็นเลือดจากการฉีกขาดของปากช่องคลอดจากการกระทำที่รุนแรง อีกฝ่ายไม่พร้อม หรือไม่มีน้ำหล่อลื่น เลือดจะสีแดงสด สังเกตว่าถ้าทำรุนแรงต่อเนื่องยิ่งออกมากขณะที่ออกอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกเจ็บแสบ
และข้อนี้อันตรายมากต้องรีบไปพบแพทย์คือ สัญญาณของการเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งปากมดลูก มักจะเป็นเลือดสีแดงสดหรือแดงคล้ำ บางครั้งมีกลิ่น มักจะออกทุกครั้งที่มีการสอดใส่ และขณะที่เลือดออกจะไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
หากผู้หญิงคนใดที่มีอาการดังกล่าว คือ มีเลือดออกขณะร่วมเพศโดยการสอดใส่ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในเท่านั้น อย่าทิ้งไว้นาน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา
และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วหรืออายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปีครับ"
ขอบคุณที่มา Manageronline