มือเท้าปาก เป็นโรคไข้ออกผื่นชนิดหนึ่งที่ไม่รุนแรงและพบได้ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฝนตกอากาศเย็นและชื้น โรคนี้มักจะเกิด
กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ ยิ่งเด็กเล็กๆ ที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบด้วยแล้ว มีแนวโน้มที่จะได้รับเชื้อนี้บ่อยกว่าวัยอื่นๆ เพราะเขายังไม่รู้จักการรักษาความสะอาดส่วนตัวที่ดีพอนั่นเอง
ไวรัส...ต้นตอโรคมือเท้าปาก
สาเหตุของโรคนี้มาจากเชื้อไวรัสค็อกซากีและไวรัส เอนเทอโร 71 โรคนี้จะอันตรายหากเป็นการติดจากไวรัส เอนเทอโร 71 เพราะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางสมองได้ ค่อนข้างรุนแรงจนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โรคนี้แพร่กระจายจากการสัมผัสกันเป็นหลัก โดยเชื้อไวรัสอาจติดมากับมือ หรือ ของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของเด็กที่ป่วย รวมไปถึงการไอจามรดกัน ซึ่งจะติดต่อกันง่ายมากขึ้น เด็กที่คลุกคลีและเล่นกับเด็กที่ป่วยจึงมีโอกาสติดเชื้อได้สูงทีเดียว เช่น เด็กในโรงเรียนอนุบาล ในเนิร์สเซอรี่
อาการ
อาการจะเริ่มจากเป็นไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย อาจมีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ เสียงแหบ (คล้าย เป็นหวัด) อาเจียนหรือถ่าย
เหลวร่วมด้วย ต่อมาเป็นผื่นและตุ่มน้ำใสที่บริเวณปาก ฝ่ามือ และฝ่าเท้า บางครั้งอาจจะมีผื่นขึ้นที่บริเวณก้นด้วย แม้อาการของเด็ก
ที่เป็นโรคนี้จะแยกจากโรคทั่วไปได้ยาก แต่หากลูกมีไข้โดยไม่รู้สาเหตุ ก็ควรดูอาการอย่างน้อย 5-7 วัน (หากลูกไปโรงเรียนแล้ว
ก็ต้องหยุดเรียนก่อน) หากไข้ลดลงแล้วไม่มีตุ่มใส ก็สรุปว่าไม่เป็นโรคมือเท้าปาก แต่พบว่าลูกป่วยเป็นโรคนี้ควรให้ลูกหยุดเรียน เพื่อ
ลดการแพร่กระจายของโรค หลักในการสังเกตง่ายๆ จึงอยู่ที่ตุ่มใสที่ขึ้นร่วมกับอาการมีไข้นั่นเอง
ดูแลรักษาเยียวยาลูกน้อย
โรคนี้ไม่มีวัคซีน การรักษาจะรักษาอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ เช็ดตัวลดไข้ ให้กินอาหารอ่อนๆ และอาหารที่มีความเย็น เช่น
น้ำผลไม้ ไอศกรีม เพื่อลดอาการเจ็บที่ปาก ลิ้น และทำให้เด็กกินได้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็งและอาหารร้อน โดยปกติโรคนี้สามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน ไข้จะลด ตุ่มน้ำยุบ ลูกจะกินอาหารได้ตามปกติ
การป้องกัน
สำหรับลูกโตที่ดูแลตัวเองได้ ฝึกให้ลูกรู้จักดูแลรักษาความสะอาด ตัดเล็บให้สั้น สอนให้ลูกล้างมือหลังเข้าห้องน้ำและก่อนกิน
ข้าว ส่วนลูกเล็กคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และแยกเด็กที่ได้รับเชื้อไม่ให้เข้ากลุ่มกันคนอื่นๆ อย่างเด็ดขาด
เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากเอกสาร Enfa Smart Club
