ดวงตาที่เหนื่อยล้า ให้กลับมาสดใส ..ปิ๊ง..ปิ๊ง..


 

       “ดวงตา” นอกจากจะเป็นหน้าต่างของหัวใจแล้ว ยังสามารถบ่งบอกอายุที่แท้จริงของคุณได้ ชนิดปิดยังไงก็ไม่มิดค่ะ  ใครต่อใครไม่ว่าจะหญิงหรือชายจึงควรดูแลทะนุถนอมผิวรอบดวงตาให้ดี เพื่อที่อายุจริงของผิวจะได้ดูอ่อนกว่าอายุตามบัตรประชาชน  ผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมาก จึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน การทาครีมบำรุงเข้มข้นที่ทำมาเพื่อผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ และที่สำคัญเราต้องไม่ทำร้ายผิวรองดวงตาด้วยการขยี้ตาแรงๆอย่างเด็ดขาดนะคะ

          แต่ถึงอย่างไรเมื่ออายุขึ้นเลข 4  คนส่วนใหญ่ก็มักจะต้องพบกับปัญหาถุงไขมันใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา  หนังตาตก คิ้วตก อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น  เพราะโครงสร้างผิวเริ่มหย่อนคล้อย คอลลาเจนเสื่อมสภาพไม่สามารถพยุงโอบอุ้มไขมันใต้ชั้นผิวหนังได้ดีเหมือนเมื่ออายุยังน้อย ทำให้ใบหน้าดูเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ดูไม่สดใส จะแต่งหน้าอย่างไรก็ดูไม่ดีขึ้น ทางออกของปัญหานี้หากไม่อยากผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาออก เพราะต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด หรือแผลเป็นที่อาจเกิดขึ้นได้   ปัจจุบันมีวิธีที่ทำให้ดวงตากระชับตึงได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ ได้หลายวิธี  แต่ละวิธีก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน จึงต้องอาศัยแพทย์ผู้ชำนาญในการพิจารณาเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหา ลองมาดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนบ้างและเหมาะกับปัญหาแบบไหน

          เริ่มต้นที่เทอร์มาจ เทอร์มาจเป็นพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง ส่งพลังงานลงไปที่ชั้นคอลลาเจนลึก ทำให้คอลลาเจนที่มีลักษณะเป็นเกลียวหดกลับและขึงตึงขึ้น ทำให้ผิวชั้นบนๆกลับมาตึงกระชับได้  จึง เหมาะกับผิวที่มีเนื้อมากหน่อย ทำแล้วก็จะได้รูปสวยงาม ในกรณีที่ผิวไม่ค่อยมีคอลลาเจน หรืออาจพูดให้ดูง่ายขึ้นคือผิวมีเนื้อน้อย การทำเทอร์มาจก็อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร 

          ถัดมาก็เป็นเทคโนโลยีที่ชื่อว่า อัลเธอราซึ่งเป็นพลังเสียงความถี่สูงให้พลังงานลงลึกกว่าชั้นของเทอร์มาจ ลงไปถึงชั้นพังผืดที่ลองรับคอลลาเจนและไขมันไว้  เป็นพังผืดที่อยู่ติดกับกล้ามเนื้อ อัลเธอราจะส่งพลังงานลงไปเก็บพังผืดที่ยืดย้วยให้กลับมาขึงตึงอีกครั้ง แก้ปัญหาหนังตาตก หนังตาล่างหย่อนยาน คิ้วตกได้อย่างดี ทำให้ตาโตขึ้น คิ้วยกขึ้น ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาในเรื่องการยกกระชับรอบดวงตา ทั้งอัลเธอรา และเทอร์มาจ ต่างก็เป็นการลงไปฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระดับลึก จึงต้องใช้ระยะเวลาให้ผิวมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทำประมาณ 2 สัปดาห์ และจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ จนหลังทำ 2 เดือน ผลที่ได้ก็จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 2 ปี   ส่วนริ้วรอยที่ค่อนข้างลึก ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ความรู้สึก หรือรอยตีนกาที่เห็นเด่นชัด ไม่มีวิธีใดที่จะดีไปกว่าโบท็อกซ์แน่นอนค่ะ  โบท๊อกซ์ยังคงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้ ริ้วรอยที่ไม่ต้องการจางหายไปทันที ดังนั้นถ้าต้องการให้ดูดีขึ้นในทันทีก็ควรมีการฉีดโบท๊อกซร่วมด้วย  โดยโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่มีริ้วรอย ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย ผิวรอบดวงตาเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยจะจางไปในทันที และจะดีขึ้นเรื่อยๆโดยใช้เวลา 2 สัปดาห์ ผลจะอยู่ได้นานราว 6 เดือน

          นอกจากนี้สำหรับผิวย่นๆใต้ตา ล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า NanoPrime ที่ช่วยเพิ่มสารอุ้มน้ำ และคอลลาเจน ในผิวชั้นบนๆ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ช่วยลดรอยคล้ำ และริ้วรอยเล็กๆใต้ตา ดวงตาที่อ่อนล้าก็จะกลับมาดูสดใส เปล่งปลั่งได้อีกครั้ง จะเห็นว่าปัญหาบริเวณเดียว มีวิธีแก้ไขมากมาย ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาของแต่ละคน เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาไม่เหมือนกัน  การเลือกใช้เทคโนโลยี ว่าควรใช้อะไรในกรณีไหน จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ ตลอดจนความเข้าใจถึงจุดเด่นที่แตกต่างกันของแต่ละเทคโนโลยี  ไม่มีสูตรสำเร็จ ตายตัวสำหรับสิ่งที่ดีที่สุดนะคะ

          วิธีทั้งหมดนี้ ต้องร่วมกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ทะนุถนอมผิวบริเวณรอบดวงตาอย่างระมัดระวัง ทาครีมบำรุงผิวรอบดวงตาเป็นประจำ และที่สำคัญนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำได้แบบนี้ รับรองว่า แค่ดูตา ก็ไม่มีทางรู้อายุอย่างแน่นอนค่ะ   เพราะดวงตาจะสดใส ทำให้ดูอ่อนกว่าอายุจริงเป็นสิบปีเลยทีเดียว ....เห็นด้วยหรือยังคะว่าดวงตานั้นสำคัญขนาดไหน
www.apexprofoundbeauty.com Call Center 080 5000 123

 

 





แสดงความคิดเห็น






Insurance


Advertisement