หลังจบงานแต่งงาน และเข้าสู่ช่วงเวลาของการใช้ชีวิตคู่ เชื่อว่า คงมีผู้หญิงหลายคนเคยถามตัวเองอยู่บ้างเหมือนกันว่า ตกลงแล้ว เราคิดถูกจริงๆ ใช่ไหมที่แต่งงานกัน เพราะบางคนอาจเจอกับประสบการณ์ไม่ดีในการใช้ชีวิตคู่ หรือบางคนก็อาจไม่ประทับใจในนิสัยบางอย่างของสามีจนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องดังกล่าว หรือบางคนเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เจอเหตุการณ์หลายๆ อย่างจนไม่แน่ใจว่าความรักนั้นจืดจางไปแล้วหรือยัง
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เผชิญคำถามดังกล่าว วันนี้เรามีแนวทางดีๆ มาฝากกันที่อาจช่วยให้คุณได้มองเห็นในอีกด้านที่ดีๆ ของสามีที่คุณลืมมองไปนานมากแล้ว หรืออาจไม่เคยคิดจะมองมาก่อน
1.ลองพูดจากับเขาด้วยถ้อยคำดีๆ
คนเราแต่งงานกันไปนานๆ ก็ยิ่งคุ้นเคยกันมากขึ้น ความรู้สึกเกรงใจกันเหมือนสมัยคบกันเป็นแฟนก็เลยลดน้อยลง ทำให้สาวๆ หลายคนเผลอทำนิสัยไม่ดีกับสามีตัวเอง โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่ชอบดูละครหลังข่าวเป็นชีวิตจิตใจ และบางทีก็เผลอนำนิสัยของตัวละครหลังข่าวมาใช้กับสามีด้วย นั่นก็คือ การกระแนะกระแหน จิกกัด บ่น หรือการด่าทอด้วยถ้อยคำไม่ดีต่างๆ ซึ่งผู้ชายส่วนมากไม่รู้สึกดีกับพฤติกรรมแบบนี้ของภรรยาหรอกค่ะ การพูดจากับเขาด้วยถ้อยคำดีๆ พูดด้วยความเคารพ และให้เกียรติจะช่วยให้คุณสามีของคุณรู้สึกได้ถึงความรักของคุณมากกว่า และทำให้บรรยากาศภายในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นด้วย
2.ทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น
ผู้ชายบางคนอาจเป็นคนชอบทำบ้านรก เก็บสิ่งของต่างๆ ไม่เป็นระเบียบ ผู้ชายบางคนอาจเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ชอบเฮฮาสังสรรค์ ผู้ชายบางคนอาจจุกจิกจู้จี้ขี้บ่น ฯลฯ เหล่านี้ เมื่อก่อนตอนคบเป็นแฟนยังไม่แต่งงานกัน คุณอาจเคยยอมรับได้ แต่พอแต่งงานแล้ว กลับต้องการให้เขาเปลี่ยน หรือลด ละ เลิกนิสัยเหล่านี้เสียนี่ การลองทำใจ และเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นอาจช่วยให้คุณมองสามีในแง่ดีๆ ได้มากขึ้น และรักเขามากขึ้นได้ค่ะ
3.ให้พื้นที่ส่วนตัวกับสามีบ้าง
ผู้ชายมักทำบ้านรกได้ง่ายกว่าผู้หญิง และผู้ชายบางคนก็ชอบซ่อมท่อน้ำ ซ่อมไฟ ซ่อมของเล่นลูกด้วยตัวเอง หรือบางคนก็ชอบปลูกผักปลูกหญ้า ทำสวน ซึ่งกิจกรรมสุดโปรดเหล่านี้ของคุณผู้ชายประจำบ้านนั้นนำมาซึ่งความรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่การรักษาความสะอาดดูจะเป็นหน้าที่ของแม่บ้าน วันใดมีเพื่อนบ้านมาเยี่ยม หรือแม่สามีมาเยือน หากบ้านสะอาดก็จะรู้สึกปลอดภัยขึ้นหน่อย ความแตกต่างข้อนี้ทำให้ภรรยาบางท่านเคร่งครัดในความสะอาด และความมีระเบียบมากจนไม่เหลือพื้นที่ส่วนตัวให้พ่อบ้านทำรกได้เลยนั่นเอง
การที่คนๆ หนึ่งไม่รู้สึกว่าตนเองมีพื้นที่ส่วนตัวในบ้าน ย่อมทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นได้ และนำไปสู่ความจืดจาง หมางเมินในรักระหว่างกันได้ในที่สุด เพราะฉะนั้น ลองให้พื้นที่เขาสักหน่อย ทำใจปิดตาข้างหนึ่ง มองไม่เห็นความรกเสียบ้าง ความรักระหว่างคุณกับสามีอาจดีขึ้นได้ค่ะ
4.ปกป้องเขาบ้าง
แม้เขาจะเป็นผู้ชาย เป็นคนที่สัญญาว่าจะปกป้องและอยู่เคียงข้างคุณ แต่ตัวสามีของคุณสาวๆ เองก็ต้องการการปกป้องเช่นกัน ทั้งจากความกดดันในหน้าที่การงาน การเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ฯลฯ ดังนั้น อย่าใจร้ายปล่อยให้เขายืนโดดเดี่ยวในวันที่เขาหกล้ม เพราะก้าวพลาดกันเลยค่ะ
5.สร้างเสียงหัวเราะให้ครอบครัว
ความสามารถในการสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะนั้น ทำให้คนใกล้ตัวรู้สึกดีและมีความสุข หากที่ผ่านมาคุณลืมทำข้อนี้ไปนานมากแล้ว ก็อย่ารอช้ารีบพัฒนาทักษะนี้โดยด่วน เพราะแม่บ้านอารมณ์ดี มีความสุข สามี (และลูกๆ) ก็สบายใจตามไปด้วย
6.ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองบ้าง
ต้องยอมรับว่า ผู้หญิงส่วนหนึ่งเอาแต่ใจ (ไม่รู้ไปพัฒนานิสัยนี้กันตอนไหน) ไม่ว่าเธอจะถูกหรือผิดก็จะยินดีมากหากตนเองไม่ใช่คนที่ต้องเริ่มง้อก่อน ดังนั้น หากที่ผ่านมาคุณเป็นคนเอาแต่ใจขั้นเทพ อาจต้องยอมลดราวาศอกลงบ้าง แค่นั้นก็ช่วยให้สามีรู้สึกได้ว่าคุณรักเขามากขึ้นแล้ว
7.หาเวลาปรนนิบัติเอาใจเขาบ้าง
ไม่ใช่ต้องการให้คุณภรรยากลับไปเป็นสาวโบราณ ดูแลปรนนิบัติพัดวีจนถึงขนาดต้องกราบสามีก่อนเข้านอน แต่การนวดให้เขาบ้าง หวีผมให้บ้าง ถักเสื้อให้บ้าง ทำอาหารอร่อยๆ ให้รับประทานบ้าง หรือดูแลเอาใจใส่ในเรื่องที่คุณไม่เคยทำ หรือทำเมื่อนานมาแล้วบ้าง ก็คงทำให้สามีรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาไม่น้อย
8.เวลาทะเลาะกันอย่าฟูมฟาย หรือคิดเรื่องเลิกรา
หากเกิดสถานการณ์ระเบิดลงในบ้าน ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใด การร้องไห้ฟูมฟาย เก็บกระเป๋าออกจากบ้าน ขว้างปาข้าวของ หรือทำร้ายร่างกายไม่ใช่เรื่องดีแน่ (แต่สาว ๆ หลายคนก็ตัดสินใจทำเพราะต้องการเรียกร้องให้สามีหันมาสนใจ) บางทีลองนั่งเงียบๆ คิดในแง่ดีเอาไว้ให้มากๆ และพยายามเข้าใจ
9.เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
เราคงเคยเห็นภาพของภรรยาคนเก่งที่เป็นช้างเท้าหน้ากันมาพอสมควร แต่บางที การเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ยิ่งเป็นช้างเท้าหลังให้กับหัวหน้าครอบครัวของตัวเองอย่างสามีด้วยแล้ว ยิ่งจำเป็นอย่างมาก ผู้ชายจำนวนมากต้องการกำลังใจ และการสนับสนุนจากภรรยาทั้งในเรื่องงาน การเรียน หรือเป้าหมายอื่นๆ ที่เขาต้องรับภาระ ดังนั้น ลองมาเป็นช้างเท้าหลังกันบ้างเถอะค่ะ
10.อย่าถือเป็นบุญคุณ
ทั้งหมดที่ทำให้กับสามี หรือทำให้กับครอบครัว ภรรยาทุกคนย่อมรู้สึกอยากได้รับการขอบคุณตอบแทน แต่น่าเสียดายที่บางคนไม่รู้สึกว่าตนเองได้รับความรักความขอบคุณตอบแทนมาจากครอบครัว และเผลอออกปากทวง-ลำเลิกถึงสิ่งต่างๆ ที่ตนเองทำลงไป และนั่นอาจทำให้สิ่งที่ทำมาทั้งหมดสูญเปล่าไปจริงๆ
ภรรยาหลายคนทราบดีถึงความน่ารักของสามีตัวเอง และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือรูปลักษณ์ภายนอก (ของสามี) เปลี่ยนไปอย่างไร เธอก็ยังมองเขา และรักเขาคนเดียวไม่เคยเปลี่ยน แต่ด้วยสาเหตุหลายๆ ประการทำให้ชีวิตคู่ไม่ง่ายที่จะจูนกันให้ลงตัว จนนำไปสู่ความเบื่อหน่ายหมางเมิน เพราะฉะนั้น วันนี้อาจเป็นโอกาสดีที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ทำสิ่งดีๆ เพื่อคนที่รักให้รักกันมากขึ้นก็เป็นได้ เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ
ขอบคุณ ที่มา : life&family manageronline
ภาพสวยๆจาก : pinterest & google