วิธีที่จะทำให้คุณรู้สึกรักงานที่ทำมากขึ้น(แม้ใจจะบอกว่าไม่ก็ตาม)


วิธีที่เราจะแนะนำต่อไปนี้เป็นวิธีการคิดบวก มองในแง่มุมดีๆของชีวิตที่คุณกำลังเบื่อหน่าย บางทีงานที่คุณทำอยู่ทุกวี่วันอาจไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก เพยงแต่ความซ้ำซากจำเจ หรือปัญหาเดิมๆที่วนเวียนมาทับถมคุณอยู่บ่อยๆอาจทำให้คุณนอยด์ เฟล บ๊วย ท้อ ระกำ โศก ไปบ้าง...ทีนี้ลองมาดูกันว่าเราจะพอทำอะไรให้คุณรู้สึกดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นได้บ้าง


freepix.com

1. สร้างพื้นที่ส่วนตัวของคุณ : เพราะว่าหลายคนอาจต้องใช้เวลาบนโต๊ะทำงานมากกว่าที่บ้านของตัวเองเสียอีก คุณก็สามารถเลือกจัดวางของที่คุณชอบ ดูแล้วสบายใจ หรือสัมผัสแล้วรู้สึกดี(แนะนำตุ๊กตาขนนุ่มค่ะ มีงามวิจัยว่าสามารถทำให้คนคลายความเครียดได้ดีทีเดียว) เอาเท่าที่ทำได้ ให้มุมทำงานของคุณ มีความเป็นตัวตนของคุณ เพราะมันจะทำให้คุณยังคงความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้เป็นแค่น็อตตัวเล็กๆ หรืออะไหล่ชิ้นหนึ่งที่อาจถูกโยนทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- คติพจน์ หรือสัญลักษณ์ที่เป็นลัทธิส่วนตัว เพราะมันจะไม่ได้แค่แสดงตัวตน แต่จะทำให้คุณ แตกต่าง และแปลกแยกน่ะสิคะ
- สิ่งแสดงฝ่ายของคุณ ในสังคม สังคมไทยตอนนี้มีหลายฝ่ายจนคำว่า ความสามัคคีแทบจะถูกลบออกจากพจนานุกรมไปแล้ว ขอเว้นอันนี้อีกสักอันเถอะค่ะ
- อะไรที่มันเยอะเกินงาม ลายพร้อย เลอะเทอะ แบบเพื่อนร่วมงานไม่กล้าเข้าใกล้น่ะค่ะ

2. ผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงาน : อย่างน้อยก็สักหนึ่งคนก็ได้ที่คุณรู้สึกว่าสบายใจที่จะคุยด้วย ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้รุ้จักชีวิตส่วนตัวของกันและกันมากมายลึกซึ้งอะไรนัก แต่ถ้าความสัมพันธ์ในที่ทำงานเป็นไปด้วยดี ต้องอัธยาศัยกัน ก็ถือเป็นแรงจูงใจหนึ่งที่จะทำให้คุณไปทำงาน หรือคอยปรึกษาปัญหาด้วยได้ค่ะ

สิ่งที่ต้องระวัง
- อย่าคาดหวังว่าเพื่อนร่วมงานจะเป็นเพื่อนแท้ หรือเพื่อนตายของคุณ
- เคารพในเรื่องส่วนตัวของกันและกัน (อย่าเอาเรื่องไม่ดีของเค้ามาเม้าท์เชียว)
- อย่าเจ๊าะแจ๊ะกันเกินควรในระหว่างงาน ให้กลายเป็นที่เพ่งเล็งว่างานไม่เดินนะจ๊ะ
- อย่าระบายเรื่องส่วนตัวที่คุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ให้เพื่อนร่วมงานฟัง ระลึกไว้เสมอว่าเพื่อนร่วมงานจ้ะ ไม่ได้ตายแทนกันได้หรอก


freepix.com

3. ออกไปรับวิตามิน ดี บ้าง : หมายความอย่างนั้นจริงๆค่ะ ถ้าออฟฟิศของคุณมีที่โล่งโปร่งพอให้เดินออกมาได้สัก 5- 10 นาที แต่ถ้าไม่ คุณก็ควรเบรกตัวเองในประมาณ ทุกๆ 4 ชั่วโมง อาจลุกไปเข้าห้องน้ำ ชงกาแฟ หรือดื่มเครื่องดื่มอื่นๆที่คุณชอบ อย่าหมกมุ่นกับงานตรงหน้าจนในวันหนึ่งคุณก็อยากวิ่งหนีมันไป

4. แวะเข้าไปพักสายตา หรือหาเรื่องราวที่คุณชอบในเวปไซต์ต่างๆ : เป็นการผ่อนคลายสมองบ้าง ถ้าที่ทำงานคุณสามารถให้คุณทำได้ แต่ขอร้องว่า ทุกบริษัทเค้าสามารถมีแผนก mis หรืออื่นๆ ที่จะสามารถมอนิเตอร์ดูการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่งในบริษัทได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเพลินเพลินจนขึ้นเป็นแบล็กลิสต์นะคะ แค่แวะเข้า ผู้หญิงนะคะสัก 5-10 นาที ก็โอเคแล้วค่ะ

5. ดูแลสุขภาพและรูปร่าง : สุขภาพที่ดีอย่างน้อยก็ไม่สร้างปัญหาเพิ่มเติมให้คุณล่ะ แล้วถ้ายิ่งรูปร่างดี ใส่อะไรก็สวย ก็เป็นแรงพลักดันอย่างหนึ่งให้คุณสนุกสนานกับการแต่งตัวออกจากบ้านไปทำงาน เปลี่ยนมาเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ และขยันขยับบริหารร่างกายนอกจากช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้แล้ว ยังได้ผลเรื่องรูปร่างอีกด้วย คุ้ม !!

ข้อแนะนำ
- เตรียมอาหารเพื่อสุขภาพที่คุณชอบแช่ตู้เย็นไว้ที่ทำงาน เผื่อวันไหนไม่สามารถออกไปไหนได้ค่ะ
- เตรียมเครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำไว้ในตู้เย็น แทนที่กาแฟเย็น หรือเครื่องดื่มไฮแคลอรี่ที่หลายคนมักติดเป็นนิสัต้องซื้อเป็นประจำ
- เตรียมขวดน้ำในปริมาณประมาณ 8 แก้วที่คุณควรดื่มให้ได้ทุกๆวัน เพื่อที่จะสามารถทราบได้ว่าวันนี้คุณดื่มน้ำเพียงพอแล้วหรือยัง
- เตรียมของว่างเพื่อสุขภาพ จำพวกถั่วต่างๆ ของทานเล่นประเภทโฮลเกรน ติดไว้บ้าง เพื่อที่ว่าวันไหนที่มรสุมงานจู่โจมคุณ คุณจะพอมีแรงสู้ไว้ไม่ต้องคลานลงไปซื้อกระทิงแดงที่ 7-11 ค่ะ

เรียบเรียงเนื่อหาบทความโดย jaja wean ผู้หญิงนะคะดอทคอม
ขอบคุณ เนื้อหาส่วนหนึ่งจาก : sheknows.com




แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement