Office Syndrome เป็นกลุ่มโรคที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ที่ทำงานในสำนักงาน สาเหตุมาจากการนั่งทำงานท่าเดิมๆเป็นเวลานาน หรือใช้ร่างกายในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดอาการภาวะเสียสมดุล ปวดคอ ปวดหลัง เหน็บชา ไม่มีแรง หรืออาจจะรุนแรงถึงขั้นกระดูกสันหลังคดงอ ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ เส้นประสาทข้อมือถูกกดทับ โรคประสาทหูเสื่อม ไมเกรน ปวดศีรษะเรื้อรัง เป็นต้น โรคนี้มักจะพบในกลุ่มคนวัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 16-35 ปี
ลองปรับเปลี่ยนชีวิตการทำงานให้กระชุ่มกระชวย โดยการออกกำลังกายระหว่างวันกันดีกว่าค่ะ
1. นั่งโต๊ะทำงานก็ออกกำลังกายได้
ทันทีที่นั่งหน้าโต๊ะทำงาน เริ่มจากง่ายๆ ด้วยท่าบริหารที่แทบไม่มีใครสังเกตได้ โดยนั่งหลังตรงขนานกับพนักเก้าอี้แล้วยกขาขึ้นมาเก้าสิบองศา เหมือนท่าเหยียดขาเวลานั่งบนพื้น ค้างไว้ 5 วินาทีแล้วทำซ้ำเรื่อยๆ จะรู้สึกได้ถึงการเผาผลาญ ลองทำติดต่อกันสักหนึ่งสัปดาห์จะเริ่มสัมผัสได้ว่าหน้าท้องและบั้นท้ายกระชับขึ้น
2. ยกเครื่องออกกำลังกายมาไว้ที่ออฟฟิศ
อย่าเพิ่งตกใจว่าจะให้ยกเครื่องวิ่งมาไว้ในห้องทำงาน เพียงแค่ให้เพิ่มอุปกรณ์ออกกำลังกายชิ้นเล็กๆ เช่นดัมเบลล์ขนาดพกพาได้สะดวก สำหรับบริหารต้นแขนในเวลาว่าง อาจจะดูตลกอยู่บ้างในสายตาเพื่อนร่วมงาน แต่อย่าได้แคร์ค่ะ สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นของเราค่ะ
3. โภชนาการ
เราต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรที่ควรและไม่ควรกิน การสร้างนิสัยเรื่องนี้ จะต้องมีการวางแผน เริ่มต้นจากของกินเล่นก่อนก็ได้ แน่นอนว่าต้องหลีกเลี่ยงน้ำตาลและแป้ง ลองหันมาหาผลไม้อบแห้ง หรืออะไรที่แคลอรี่ไม่สูงนัก เช่น ถั่วอบ ผลไม้สด ดีกว่าที่จะหาซื้อของกินเล่นตามที่อารมณ์พาไป
4. เปลี่ยนเก้าอี้ช่วงบ่าย หายง่วงชัวร์
หลังมื้อกลางวันที่คุณมักจะรู้สึกง่วงเป็นประจำ แทนที่จะดื่มกาแฟ ลองมาลดอาการง่วงกันด้วยการเปลี่ยนวิธีนั่งเก้าอี้มานั่งบนลูกบอลออกกำลังกายแทน เพียงวันละหนึ่งชั่วโมง ลูกบอลไม่เพียงแค่ส่งผลดีกับรูปร่างเท่านั้น แต่ยังเป็นการบังคับร่างกายให้นั่งหลังตรง และต้องเกร็งส่วนเขาเพื่อการทรงตัว และท่านั่งที่ไม่สบายอย่างนี้สามารถถอดอาการง่วงได้ชะงัดนัก
5. ฟิตกันเป็นกลุ่ม
ทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ออฟฟิศก็คือการมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ลองชวนเพื่อนร่วมงานเดินกลับบ้านด้วยกันแทนการนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ทำอาหารสุขภาพแล้วนำมากินร่วมกัน หรือจับกลุ่มกันออกกำลังกาย นอกจากจะได้หุ่นที่ดีขึ้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานยังจะดีขึ้นอีกด้วย
6. น้ำเปล่า
หลายคนมักดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวัน ทำให้มักเข้าใจผิดว่าความกระหายน้ำเป็นความหิวอาหาร หันมาดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร ไม่เพียงแต่ทำให้รูปร่างดีขึ้น แต่ยังช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกาย ไม่ให้คุณเผลอกินจุบจิบได้ด้วยค่ะ
วิธีออกกำลังกายแก้ปวดเมื่อยอย่างง่ายๆ เมื่อทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน (คลิปจากหมอชาวบ้าน)
บทความโดย Fineday
Pooyingnaka.com
อ้างอิง : นิตยสาร Lisa, หมอชาวบ้าน