หลายๆคนที่มักห่วงเรื่องของการแต่งหน้า จนลืมคิดไปว่า การที่เราจะแต่งหน้าให้ติดทนได้นั้น ขั้นตอนการดูแลผิวสำคัญมาก ทั้งเรื่องของความสะอาด ความชุ่มชื้น ยิ่งทำให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น สำหรับการทำความสะอาดผิว Eyes & Lips Remover เป็นน้ำมันเข้มข้น สำหรับเช็ดเฉพาะที่ เช่น ตา ขนตา และปาก ควรจะเช็ดปากทุกครั้ง เพราะหากไม่เช็ดจะทำให้ปากแห้งแตก เพราะเม็ดสีที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากเราอาจจะมองไม่เห็นและทำให้ตกค้างอยู่ที่ริมฝีปากเรา Cleansing - Cleansing Milk หลังจากนวด Cleansing Milk จนคิดว่าสะอาดแล้วให้ใช้สำลีเช็ด ถ้าหากเราเช็ดแล้วจนหมดยังเหลือเครื่องสำอางติดให้ทำซ้ำอีกรอบ - Cleansing Oil เพื่อความสะอาด ควรทำซ้ำ 2 รอบ เช่นกัน - Cleasning Water ให้ใช้สำลีเช็ดจนสะอาด แม้เราไม่แต่งหน้า หากเราใช้ครีมกันแดดหรือลงแป้งต่างๆ ก็ควรจะทำความสะอาด้วย Cleansing เช่นกัน Toner ใช้เช็ดความมันของผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิว Water Wash ในความเป็นจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องล้างหน้าเพิ่มเติมโดยเฉพาะโฟมล้างหน้า แต่สำหรับคนไทยแล้วการที่รู้สึกตึงผิวหน้าคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าผิวสะอาด หากเราทำความสะอาดด้วย Cleansing จนสะอาดแล้ว จะหลงเหลือความมันของผลิตภัณฑ์อยู่บ้าง ให้ใช้โทนเนอร์เช็ดจนเรารู้สึกว่าผิวหน้าไม่มันแล้ว โดยไม่ต้องล้างหน้าเพิ่มเติม ขั้นตอนการดูแลผิวหน้า 1. Scrub เพื่อขัดเอาเคราติน (ผิวหนังชั้นบน) หรือที่เราเรียกกันได้ง่ายๆว่า ขี้ไคล ออกไป เหมือนเซลล์ที่ตายแล้วคงอยู่บนผิวนานขึ้นจะทำให้หน้าเราหมอง การขัดผิวไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง แต่สามารถขัดเฉพาะส่วนได้เช่นบริเวณที่สิวเสี้ยน และไม่เหมาะกับคนที่มีผิวอักเสบ เพราะจะทำให้อักเสบมากยิ่งขึ้น 2. Massage การนวดเพื่อให้ใบหน้ากระชับ ควรใช้ครีมสำหรับการนวดหน้าโดยเฉพาะ น้ำมันในครีมจะทำให้หน้าชุ่มชื้นและผิวดูเต็มขึ้น โดยการนวดนั้นให้นวดโดยย้อนขึ้นไปด้านบนค่ะ 3. Pack เป็นการลอกผิวโดยการดึงเอาเคราตินออก มีทั้งแบบที่เป็น Clay และแบบ Gel หากผิวแห้งและไม่สามารถขัดผิวได้ให้ใช้วิธีแพคผิวแทน โดยการแพคผิวนั้นจะไม่บาดผิวเหมือนสครับ และสามารถทำได้ทุกวัน ซึ่งเป็นการช่วยเอาผิวชั้นบนที่ตายแล้วออกไป ทำให้เราสามารถบำรุงผิวได้ดีขึ้น 4. Mask เป็นครีมที่มีความเข้มข้นสูง และมีความชุ่มชื้นมาก สามารถทาก่อนนอน ทาหนาๆแล้วนอนได้เลยในบางยี่ห้อ ข้อสำคัญคือควรอ่านฉลากก่อนทุกครั้ง วิธีการใช้มาส์กแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน แต่โดยมากแล้วจะให้มาส์กหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จ แล้วทาครีมไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก และหากต้องการแต่งหน้าในตอนเย็น ควรมาส์กผิวก่อนการแต่งหน้า เพราะโดยมากแล้วหากจะแต่งหน้าตอนเย็นมักจะแต่งหน้าไม่ติด และสำหรับคนที่มีผิวแห้งควรมาส์กหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในการนวดหน้าหากไม่แน่ใจในขั้นตอนหรือคิดว่าจะไม่สามารถทำได้ถูกวิธี ควรไปตามสถาบันต่างๆที่เราไว้ใจได้ในการนวดหน้า ช่วยให้หน้ากระชับขึ้นได้ค่ะ การบำรุงผิว เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ครีมสำหรับทากลางคืนสามารถนำมาทากลางวันได้ แต่ให้เทเพียงบางๆ ครีมสำหรับทากลางวันก็สามารถนำมาทากลางคืนได้ และให้เน้นทาหนากว่าตอนที่ทาตอนกลางวัน ประเภทของผิวหนังแบ่งเป็น 4 แบบด้วยกัน (จากลักษณะที่มองด้วยตาเปล่า) 1. ผิวแห้ง (Dry Skin) - ตกกระ - ผิวหยาบ - ผิวแตกง่าย - ลอกง่าย - รูขุมขนเล็ก - เห็นเส้นเลือดสีดำรอบตาหรือหน้าผาก 2. ผิวมัน (Oily Skin) - เป็นมันง่าย - รูขุมขนใหญ่ - ไม่มีปรากฎเส้นเลือด - เป็นฝ้าได้ง่าย - เป็นสิวเสี้ยน - เป็นพวกวัยรุ่น 3. ผิวผสม (Combination Skin) T-Zone บริเวณหน้าผาก และจมูก จะมัน แต่ขมับและข้างแก้มจะแห้ง 4. ผิวปกติ ( Normal Skin) เป็นผิวที่สมบูรณ์ ไม่มันหรือแห้งจนเกินไป ครีมกันแดด เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการบำรุงผิว เพราะเป็นการปกป้องผิวจากแสงแดดที่ทำให้ผิวเหี่ยวก่อนวัยและยังทำให้เกิดฝ้า กระได้ง่ายอีกด้วย SPF ที่เหมาะสมคือ 15-30 แต่ควรจะมี PA+++ เพื่อเป็นการป้องกันรังสียูวีเอด้วย http://www.womansugar.com -------------------------------------------- เป็นข้อมูลที่จดมาจากการไปเรียนแต่งหน้าที่สถาบันแต่งหน้า MTi แต่จะมีการสอนเรื่องของการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยค่ะ |