ปัญหารังแค
1 โรคภูมิแพ้
2 เชื้อรา
3 โรคผิวหนังบางประเภท
โดยทั่วไปแล้วโรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือผิวหนังอักเสบมักเป็นตัวการสำคัญของรังแคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เด็กบางคนอาจมีรังแคได้ตั้งแต่แรกคลอดได้เหมือนกัน บางคนอาจแพ้แชมพู น้ำยาดเปลี่ยนสีผม หรือน้ำยาดัดผม ถ้าสระผมบ่อยเกินไป ก็ทำให้หนังศีรษะขาดความสมดุล ตรงนี้คงบอกไม่ได้แน่นอนว่าสระบ่อยเกินไปคือสระทุกวันหรือไม่ ต้องแล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงสภาพแวดล้อมภายนอกอย่างอากาศที่เปลี่ยนแปลง ถ้า อากาศร้อนไป ผู้ที่มีหนังศีรษะมันก็อาจมีรังแคได้ และถ้าอากาศหนาว ผู้ที่มีหนังศีรษะแห้งก็เกิดรังแคได้ง่ายเช่นกัน 
อาการอาจจะเป็นรังแค สะเก็ดขุยขาวๆ เพียงเล็กน้อย หรือถ้าอักเสบมาก ก็ลามเป็นผื่นแดงมาที่ใบหน้า และมีอาการคันร่วมด้วย ส่วนรังแคจากเชื้อรานั้นอาจได้รับจากการที่เด็กๆ บางคนสัมผัสกับสุนัขและแมวเป็นประจำ แต่ในผู้ใหญ่เรื่องของเชื้อรามักไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ ส่วนโรคผิวหนังบางชนิดก็มีปัจจัยภายในอย่างความเครียด และไลฟสไตล์ที่ไม่สมดุล พักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ถ้าถามว่ามีวิธีไหนป้องกันรังแคยังไงบ้าง หมอต้องตอบตรงๆ ว่าไม่มีวิธีหลีกเลี่ยงรังแคได้ 100% เพียง เรียกว่าเราต้องหมั่นคอยสังเกตตัวเองเป็นประจำ ว่าไวต่อปัจจัยหรือสารประเภทใด เลือกใช้แชมพู เครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิวที่ถูกประเภทผิว ให้ผิวของเราแข็งแรง ไม่ระคายเคือง เพื่อไม่ให้เกิดรังแคมากวนใจ
สำหรับการรักษานั้น ถ้าเป็นรังแคที่อาการไม่แรงมาก การเลือกใช้แชมพูที่มีตัวยาขจัดรังแคในปริมาณเข้มข้นที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปอย่าง ซิงค์ไพริไทออน (Zinc Pyrithione) หรือ ซิลิเนียมซัลไฟต์ (Selenium Sulfide) ก็พอจะบรรเทาอาการของรังแคได้ ถ้าเป็นไม่มาก สระไม่กี่ครั้งก็เห็นผลแล้ว แต่ถ้าหนังศีรษะอักเสบมากๆ สะเก็ดขาวๆ จะขึ้นเป็นสะเก็ดหนาๆ เป็นปื้น ควรจะมาปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอย่างจริงจัง นอกจากยารับประทานแล้ว อาจมียาที่ใช้ทา การใช้แซรั่ม เพื่อไปบำรุงรากผมเพราะมีวิตามินไปเลี้ยงเส้นผม การทำเลเซอร์ทรีตเมนท พวก meso therapy ครั้งละ 30 นาที 6-7 ครั้งต่อสัปดาห์ เข้าทำการรักษาร่วมด้วย การใข้เซลล์บำบัดที่หนังศรีษะเข้าร่วมด้วยจะยิ่งเป็นต่อช่วยปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.apexprofoundbeauty.com
