3 สเต็ปส์กำจัดห่วงยางรอบเอวง่ายๆ ด้วยตัวเอง


ใครพกห่วงยางมาด้วย ยกมือขึ้น...คำถามแทงใจที่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสาวหรือเพื่อนหนุ่มหากได้ยินแล้วคงหลบสายตาไม่อยากจะตอบ ก็แหม คนที่รูปร่างจ้ำม่ำแล้วมีพุงมีรอบเอวส่วนเกินนี้เราพอจะเข้าใจได้นะ แต่ประเภทหุ่นดี ผอมเพรียว แต่แอบมีห่วงยางหรือแม้แต่มีพุงพุ่งล้ำหน้าออกมานี่นะ บอกตรงๆ ว่าไม่ไหว เพราะไอ้เจ้า “มัฟฟิน ท็อป” ที่ว่านี่มันไม่ได้น่ากินอย่างที่คิดเลย ตรงกันข้ามเป็นสิ่งที่พวกเราต้องกำจัดอย่างเร่งด่วน!

 


“มัฟฟิน ท็อป” คืออะไร

มัฟฟิน ท็อป ไม่ใช่ขนมอบอันแสนหอมอร่อย รูปร่างน่ารัก น่ารับประทานหรอกนะ เพราะความจริงแล้วมันคือ ไขมันส่วนเกินที่ยื่นเกินออกมาคล้ายห่วงยางน้อยรอบเอว ใหญ่บ้างเล็กบ้างแล้วแต่ตบะที่บำเพ็ญเพียรกันมา ในขณะที่บางคนรูปร่างผอมบาง แต่กลับมีเจ้าห่วงยางน้อยๆ นี้ซ่อนไว้ได้เหมือนกันและมักจะออกมาอวดโฉมประจานเจ้าของให้ได้อายเวลาที่แขม่วไม่ไหวแล้วทุกครั้งไป


3 วิธีง่ายๆ ทลายห่วงยาง


 พอพูดถึงวิธีลดพุงและไขมันรอบเอว หลายคนบ่นอุบว่ายาก ยากมาก ถึงยากที่สุด บางคนถอดใจ บางคนหันไปพึ่งวิธีมีหุ่นเฟิร์มแบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่ชุดเก็บทรวดทรง หรือเก็บรัดหน้าท้องต่างๆ ขจัดปัญหาพุงห้อยไปได้ชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญจากเฮอร์บาไลฟ์ ซาแมนต้า เคลย์ตัน แนะนำว่านั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก ทางที่ดีควรจะออกกำลังกายให้ถูกต้องน่าจะดีกว่า มาดูวิธี “ทลายห่วงยาง” แบบเข้มข้นกันเถอะ


1.
 กิน กิน กินแต่อาหารดีมีประโยชน์

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการกำจัดไขมันส่วนเกินรอบเอว ไม่ใช่การอดอาหาร ตรงกันข้ามคือการ “ใส่ใจ” กับสิ่งที่เรากินให้มากที่สุดต่างหาก โดยเฉพาะระดับแคลอรี่ในอาหารต่างๆ ที่เรากินกับความสามารถในการเผาผลาญพลังงานออกไปของเรา ลองปรับเปลี่ยนวัตถุดิบในเมนูอาหารที่ทาน อะไรที่ใช้แทนกันได้ มีรสชาติคล้ายกันแต่ให้พลังงานน้อยกว่าก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดไม่ใช่น้อย เช่น เมนูที่ต้องใช้เนื้อวัวบดเป็นส่วนประกอบ อาจจะใช้อกไก่แทน เพื่อให้ได้แคลอรี่ที่ต่ำลงแต่ให้รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน หรือ แทนที่จะดื่มน้ำอัดลมดับกระหายคลายร้อน ก็เปลี่ยนมาดื่มน้ำผลไม้คั้นสดแทน ให้แคลอรี่น้อยกว่าแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นต้น ที่สำคัญ รับพลังงานเข้ามาเท่าไรก็ต้องพยายามใช้ให้หมดไปในอัตราเท่าๆกัน จะได้ไม่มีเหลือสะสมให้กลายมาเป็นส่วนเกินในภายหลัง  



2. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อเผาผลาญพลังงาน

ออกกำลังกายแบบไหนดีล่ะ การออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมัน หรือ fat burning นั่นคือ Cardio Exercise หรือเรียกสั้นๆ ว่า คาร์ดิโอ ซึ่งได้แก่ การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือ กิจกรรมกีฬาต่างๆ ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยจะให้ได้ผลดีที่สุดเมื่อชีพจรหรือ อัตราการเต้นของหัวใจของเรา ถึงระดับเป้าหมายการออกกำลังกายต่างๆ ด้วย ผู้เชี่ยวชาญจากเฮอร์บาไลฟ์ แนะนำไว้ว่าอย่างน้อยควรจะออกกำลังกายจำพวกวิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยานโดยพยายามรักษาระดับอัตราการเต้นของหัวใจให้ได้ 60 – 80 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ ซึ่งต้องทำให้ได้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน เช่น จอยมีอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจอยู่ที่ 160 ครั้งต่อนาทีเมื่อออกกำลังกาย ดังนั้นเพื่อที่จะเผาผลาญพลังงานให้ได้ดีที่สุด จอยจะต้องออกกำลังกายโดยให้มีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 96-128 ครั้งต่อนาทีเป็นเวลา 30 นาทีเป็นต้น (อัตราดังกล่าวขึ้นอยู่กับอายุของแต่ละคนด้วย) รับรองว่าถ้าทำอย่างต่อเนื่องคุณจะได้เห็นเอวสวยๆ คอดๆ รออยู่รำไร


3. การบริหารร่างกายเฉพาะส่วนเพื่อรูปร่างกระชับ ไร้พุง

หลังจากเบิร์นนิ่งหรือสลายไขมันกันแล้ว ต่อมาก็ต้องเป็นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทั้งเป็นการลดไขมัน หรือกระชับสัดส่วนโดยการออกกำลังกายเฉพาะส่วน เช่นการบิดเอว การโน้มตัวไปด้านข้าง เพื่อสร้างส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือ การนอนหงาย ยกศีรษะและขาขึ้นให้เป็นตัววี เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ให้พร้อมสวยไม่หย่อนยาน หรือเผละ หลังจากน้ำหนักลดหรือไขมันหายไป


แม้ไม่มีทางลัด หรือมนต์วิเศษที่จะสามารถช่วยเสกให้ห่วงยางน้อยของคุณๆ หายไป ทันที แต่แน่นอนว่าถ้าทุกคนปฎิบัติได้ตามนี้อย่างสม่ำเสมอ และมีวินัย กับตัวเองทั้งเรื่อง “กิน” และ “การออกกำลังกาย” รับรองว่าห่วงยางน้อยๆ หรือเจ้า “มัฟฟิน ท็อป” จะมีขายเฉพาะในร้านเบเกอรี่ ไม่ออกมาป้วนเปี้ยนในชีวิตคุณแน่นอน



อ้างอิงข้อมูลจาก  ผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์จากเฮอร์บาไลฟ์





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement