ตั้งแต่คบกับสมยศ ฉันก็มีแต่เรื่องเดือดร้อนและยุ่งยากใจ ล่าสุดฉันต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านแต่เพียงคนเดียวเพราะสมยศไปทะเลาะกับเจ้านายเลยถูกให้ออกจากงาน
แรกพบความรัก
ฉันรู้จักกับเขาก็เพราะติดตามเจ้านายไปที่โชว์รูมที่เขาเป็นพนักงานขาย เขามาต้อนรับและโฆษณาสรรพคุณของรถให้ฟังจนเจ้านายฉันตกลงซื้อ "แล้วคุณไม่สนใจดูไว้ใช้สักคันหรือครับ" ฉันแทบสะดุงเมื่อเขาหันมาถามฉันด้วยแววตาพราวระยับ ฉันเองเพียงสบตาเขาก็ตกหลุมรักแล้ว หลังจากวันนั้นเขาก็โทรมาหาและชวนไปทานข้าว เขาจีบฉันไม่ถึง 3 เดือน ฉันก็รับรักเขาและยอมเป็นแฟนเขาทันทีโดยไม่คิด
ทุกอย่างดูดีไปหมด
เป็นที่รู้กันว่าหลังเลิกงานสมยศจะมารับฉันไปกินข้าวทุกวัน บางวันเขาก็ส่งกุหลาบช่อใหญ่มาพร้อมกับถ้อยคำหวานๆ ยามนั้นฉันเห็นอะไรเป็นสีชมพูไปหมด สมยศเพิ่งถอยรถเก๋งป้ายแดงมาคันหนึ่ง นัยว่าได้ราคาพิเศษเพราะเป็นพนักงาน ฉันเพิ่งมารู้ภายหลังว่าเขาบ้าฟุตบอลมากๆ พักนั้นเขามือขึ้น เล่นพนันได้หลายแสน เขาซื้อแหวนเพชรให้ฉันวงหนึ่ง "หมั้นไว้ก่อน รอให้รวยกว่านี้ ค่อยแต่งงานนะ" จากนั้นเขาก็เช่าคอนโดและชวนฉันอยู่ด้วย วันหยุดเขาก็จะพาฉันไปเที่ยวทะเลใกล้ๆอย่างหัวหิน หรือพัทยา ยอมรับว่าฉันมีความสุขเหลือเกินที่ได้เป็นแฟนเขา
ฟ้าเปลี่ยนสี
ฉันกำลังสวยวันสวยคืนเพราะมีความสุข แต่ความสุขก็พัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงปีสมยศก็เริ่มเปลี่ยนไปเขาติดพนันหนักและพักหลังมักจะเสียมากกว่าได้ เขาหงุดหงิด หัวเสีย และหันไปดื่มเหล้าและเริ่มขาดงานบ่อยๆ วันหนึ่งเขาโทรมาหาฉันที่ออฟฟิศเพื่อขอยืมเงินหนึ่งหมื่นเพราะเสียพนันและต้องไปจ่ายค่างวดรถ และวันต่อมาเขาก็ให้ฉันจ่ายค่าคอนโด ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ที่ทำให้ฉันตกใจแทบช็อกก็คือ เขาโดนออกจากงาน
เมื่อเขาตกงาน
ฟ้าของฉันบัดนี้เป็นสีดำ วันสิ้นเดือนพอฉันรับเงินเดือนก็ต้องเอามาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ สุดท้ายเหลือเงินไม่กี่พัน ส่วนสมยศไม่มีเงินติดกระเป๋าเลยแถมยังเป็นหนี้พนันบอลอีกหลายหมื่น วันๆฉันไม่เห็นเขาทำอะไรนอกจากดื่มเหล้า ฉันต้องเจียดเงินให้เขาไว้วันละ 200-300 บาท และฉันต้องเลี้ยงเขาไปอีกนานแค่ไหน
นี่หรือลูกผู้ชาย
3 เดือนผ่านไปโดยไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น เขาดื่มเหล้าเมาทุกวัน รถคันงามก็โดนยึดไป เพราะไม่ได้ผ่อน 4 เดือน เจ้าของคอนโดเองก็ทวงเช้าทวงเย็น เพราะค้างค่าเช่ามา 2 เดือน เงินเก็บของฉันที่อุตสาห์เก็บหอมรอมริบถูกถอนจนเกลี้ยงบัญชี ฉันรู้สึกหมดอาลัยตายอยากและไม่มีกะจิตกะใจในชีวิตทำงาน "ยศเราอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วนะ" ฉันตัดสินใจพูดกับเขา "แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง ตอนนี้ผมดวงตกอยู่ คุณก็เห็นๆอยู่" เขาตวาดกลับด้วยความโมโห "แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าฉันกำลังตั้งท้องได้ 2 เดือนแล้ว" ได้ยินแค่นั้นเขาก็ร้องเสียงหลง "คุณปล่อยท้องได้ยังไง หนี้สินท่วมหัวอยู่อย่างนี้ ขืนมีลูกแล้วจะเอาอะไรเลี้ยงมัน ไปทำแท้งซะ ไม่งั้นก็เชิญเลี้ยงลูกคนเดียว"
ทางใครทางมัน
คำพูดของเขาทำให้ฉันช็อกไปพักหนึ่งแต่ก็ทำให้ฉันได้เห็นธาตุแท้ของเขา ไม่สมควรเอาชีวิตไปฝากไว้กับเขาที่แน่ๆเขาไม่สมควรจะเป็นพ่อของลูกฉันอย่างยิ่ง "ถ้าอย่างนั้น..ทางใครทางมันก็แล้วกัน" ฉันผลุนผลันเก็บเสื้อผ้าและข้าวของเท่าที่จำเป็นใส่ลงในกระเป๋า ขอไปให้พ้นผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนี้
ฟางเส้นสุดท้ายคือเพื่อน
ฉันนั่งแท๊กซี่ไปหาเพื่อนรักที่เรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยม บ้านของเธออยู่ใกล้ๆเพียง 20 นาที แท็กซี่ก็พาฉันมาจอดที่หน้าบ้าน และโชคดีที่เธออยู่บ้านเสียด้วย ฉันเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนฟังอย่างหมดเปลือก
ฟ้าฟลังฝน
วันรุ่งขึ้นฉันตัดสินใจไปทำแท้ง "ไม่ใช่ไม่มีปัญญาเลี้ยงแต่ฉันไม่อยากให้กรรมตกอยู่ที่ลูก" ฉันบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด "มันก็แล้วแต่เธอล่ะ ชีวิตเป็นของเธอ" หลังทำแท้งฉันโทรไปลาป่วย และนอนซุ่มเลียแผลทั้งกายและใจอยู่ที่บ้านเพื่อนอย่างไม่มีกำหนด "วันนี้แฟนฉันจะมาที่บ้านและพาไปนอนกินลมชมวิวที่หัวหิน เธอไปกับฉันนะ เผื่อจะสบายใจขึ้น" ฉันยังไม่ทันพูดอะไรกริ่งหน้าบ้านก็ดัง เพื่อนฉันหายไปพร้อมโผล่มาพร้อมกับผู้หญิงผมซอยสั้น แต่งตัวทะมัดทะแมง เพื่อนฉันแนะนำว่าเป็นแฟนและบอกแฟนเธอว่าฉันไม่สบาย
ชีวิตใหม่
ฉันเองก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าเพื่อนของฉันมีแฟนเป็นทอมและครองรักกันอย่างหวานชื่นจนดูน่าอิจฉา "แฟนฉันสมาร์ตมั้ยล่ะ แถมหล่อกว่าผู้ชายแท้ๆหลายคน ที่แน่ๆเธอดีกับฉันมากๆ เลี้ยงดูฉันอย่างดี ซื้อบ้านซื้อรถให้ เอาใจฉันทุกอย่าง ขอเพียงเราไม่นอกใจไปแลชายอื่น ที่สำคัญตั้งแต่เราคบกันฉันไม่ต้องกินยาคุมให้เมื่อย ฉันว่าเธอน่าจะมีแฟนเป็นทอมอย่างฉัน แล้วชีวิตจะสะดวกสบายไปหลายเรื่อง" ด้วยความที่ฉันเข็ดขยาดผู้ชายเพราะอยู่ๆไป พอพลาดพลั้งขึ้นมาก็ตั้งท้องแล้วก็ต้องไปทำแท้งเหมือนอย่างคราวที่แล้ว ผนวกกับเห็นความอ่อนหวานละเมียดละไมและเอาอกเอาใจแฟนดี้ของเธอราวกับเจ้าหญิง วันนี้ฉันจึงตัดสินใจมีแฟนเป็นทอม ซึ่งก็คือเพื่อนของแฟนเพื่อนฉันเอง
ขอบคุณบทความจาก Lisa