เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ประทินผิวหลายชนิดที่ใช้อยู่ อาจจะทำให้เรากลายเป็นผู้ต้องหาในการทำร้ายโลกโดยไม่รู้ตัว เพราะนอกจากมลภาวะที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิตแล้ว ส่วนผสมบางอย่างยังไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้วก็จะกลายเป็นขยะที่เพิ่มภาระการย่อยสลาย หากจะให้เราหยุดใช้หยุดบริโภคไปนั้นก็คงเป็นเรื่องที่ยากเกินทำ แต่ก็มีวิธีเล็กๆน้อยๆที่จะพอช่วยลดอัตราการทำลายสิ่งแวดล้อมจากน้ำมือสาวๆอย่างพวกเรา
1. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แบบที่ใช้ได้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง เช่น มีดโกนแบบเปลี่ยนใบมีดไม่ได้ ทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดเครื่องสำอาง ฯลฯ ลองเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน แต่สามารถใช้ได้หลายครั้ง อย่างมีดโกนที่เปลี่ยนเฉพาะใบมีดได้ หรือใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดหน้าแทนการใช้กระดาษเช็ดหน้าที่ใช้แล้วทิ้ง ก็จะลดขยะที่จะเกิดขึ้นได้มากมายทีเดียว
2. ซื้อผลิตภัณฑ์ในขนาดใหญ่ขึ้น
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในขนาดที่ใหญ่ขึ้นแทนการซื้อไซส์เล็กหลาย ๆ ชิ้น นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะได้แล้ว ยังช่วยประหยัดเงินได้ด้วย เพราะหากเปรียบเทียบราคาแล้ว การซื้อไซส์ใหญ่มักคุ้มค่ากว่าการซื้อไซส์เล็ก ๆ หลาย ๆ ชิ้นเพื่อให้ได้ปริมาณที่เท่ากัน
3. ลองใช้ขนาดทดลองก่อนซื้อผลิตภัณฑ์จริง
สาว ๆ หลายคนซื้อเครื่องสำอางมาแล้วพบว่าไม่เข้ากับสีผิว หรือผมที่ได้หลังใช้ไม่เป็นอย่างที่ต้องการ สุดท้ายเจ้าเครื่องสำอางชิ้นนั้นก็ลงไปนอนอยู่ที่ก้นลิ้นชัก หรือไม่ก็ถูกกองทิ้งไว้รอการโละทิ้ง เพื่อไม่เพิ่มปริมาณขยะและสูญเงินโดยใช่เหตุ ลองหาขนาดทดลองมาลองใช้ดูก่อนจนมั่นใจว่าคุณชอบมันจริง ๆ แล้วจึงซื้อขนาดจริงมาครอบครองดีกว่า
4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือทำลายน้อยที่สุด นอกจากนี้อย่าลืมมองหาสัญลักษณ์รีไซเคิลบนตัวบรรจุภัณฑ์ เพื่อมั่นใจว่าเมื่อใช้หมดตัวบรรจุภัณฑ์จะไม่ถูกทิ้งเป็นขยะ แต่จะถูกนำกลับไปใช้ใหม่ได้ด้วย
5. ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มหลายชั้น
แม้ผลิตภัณฑ์ที่มีการบรรจุหีบห่อหลายชั้นจะดูสวยงามชวนใช้ แต่เจ้าหีบห่อหลายต่อหลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก กล่องกระดาษ ทั้งยังกระดาษห่อชั้นนอกชั้นใน ล้วนแต่กลายเป็นขยะไปได้ในชั่วพริบตาที่คุณแกะมันทิ้ง รู้อย่างนี้แล้วยังอยากเพิ่มขยะให้โลกของเราอีกหรือจ๊ะ
6. ใช้โรลออนที่ไม่มีส่วนผสมของอะลูมินัม
สารอลูนัมในโรลออนที่มีวางขายอยู่ทั่ว ๆ ไป จะช่วยปิดรูขุมขนไม่ให้ขับเหงื่อออกมา จึงทำให้ไม่เกิดกลิ่นตัว แต่เมื่อใช้สะสมไปนาน ๆ สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เนื่องจากมันขัดขวางช่องทางการขับของเสียตามธรรมชาติของร่างกาย ลองหันมาใช้โรลออนชนิดไม่มีส่วนผสมของอลูมินัม หรือใช้สารส้มซึ่งปัจจุบันนี้ทำให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้ง่ายขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีกว่าจ้ะ
7. บำรุงความงามด้วยตำรับโฮมเมด
การดูแลความงามด้วยตัวเองโดยใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ หรือส่วนผสมที่หาได้ในครัวเรือน นอกจากจะประหยัดเงินและแน่ใจได้ว่าปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการลดการสนับสนุนกระบวนการผลิตเครื่องประทินความงามต่าง ๆ ซึ่งล้วนปล่อยมลพิษออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งด้วย
8. สนับสนุนสินค้าแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อบรรจุภัณฑ์เหลือทิ้ง
เครื่องสำอางหรือแบรนด์สินค้าบางยี่ห้อ มีจุดให้ลูกค้านำบรรจุภัณฑ์เปล่าหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์หมดแล้วกลับมาทิ้ง โดยอาจเป็นการนำไปทิ้งฟรี หรืออาจมีของตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เช่นนั้นก็ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าชิ้นต่อไปได้ หากเป็นเช่นกรณีหลังก็ถือว่าดีถึงสองต่อ เพราะนอกจากจะไม่เพิ่มขยะโดยใช่เหตุแล้ว ยังได้สิ่งของตอบแทน หรือได้ซื้อสินค้ากลับมาในราคาที่ถูกลงด้วย (แม้จะรู้ว่านี่คือส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ส่งเสริมการขายก็เถอะ)
9. เลือกใช้สินค้าที่มีคุณสมบัติแบบ 2 อิน 1
คุณสามารถลดจำนวนขยะที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติแบบ 2 อิน 1 อย่าง บรอนเซอร์ที่สามารถใช้เป็นอายแชโดว์ได้ด้วย มอยส์เจอไรเซอร์แบบเจือสีซึ่งทำหน้าที่ทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นไปพร้อม ๆ กับปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความครบครันในตัวเดียวได้แบบนี้ อย่างน้อยก็ลดขยะลงไปได้ 1 ชิ้นแล้วล่ะ
10. ไม่สนับสนุนแบรนด์สินค้าที่มีการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์
สัตว์หลายต่อหลายตัวต้องตกเป็นเหยื่อการทดลองผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะนำมาใช้กับมนุษย์ หยุดเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนสินค้าเหล่านี้ด้วยการเลือกใช้แต่สินค้าจากแบรนด์ที่ไม่มีการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ หรือมองหาโลโก้กระต่ายกระโจน (leaping bunny) บนบรรจุภัณฑ์ เท่านี้นอกจากจะรักษ์โลกแล้ว ยังรักษ์เพื่อนร่วมโลกตัวน้อย ๆ ได้อีกด้วย
