2 days Trip ชวนเที่ยวเกาะเสม็ด


มาแล้วจ้าเห็นว่าใกล้ปิดเทอมกันแล้ว เลยนำทริปเล็กๆเที่ยว 2 วัน 1คืนที่ระยองมาแนะนำกันค่ะ   ในวันที่เราไปกันนั้นเป็นช่วงหน้าฝนพอดีแต่พลอยและพี่บิวบ่ยั่นจ้า (ภาษาอีสานวันนี้ บ่ยั่น คือ ไม่กลัว)  ไหนๆ เราทั้งสองคนมีโอกาสได้ไปเที่ยวกันกับเขาทั้งทีเอาภาพและเรื่องราวระหว่างทางมาฝากกันค่ะ

 จุดเริ่มต้นเราได้ เริ่มออกเดินทางออกจากกรุงเทพ  10.00 น. มุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง ถึง ร้านอาหารหาดแสงจันทร์  เวลาประมาณ  11.30  น. เป็นร้านอาหารที่เราแวะเป็นร้านแรก

 

  ตอนนี้ท้องเริ่มร้อง(หิวแล้วๆ) พอเข้าไปถึงร้านปรากฎว่ามี "ซีฟู๊ดจานใหญ่" รอเราอยู่ (ฮ่าฮ่า เสร็จละ  แต่พลอยทานไม่ได้ แอบเสียใจเล็กน้อย)  แต่งานนี้พี่บิวได้ทานแทนพลอยเรียบร้อยแล้วจ้า  อิจฉาคนไม่แพ้อาหารทะเล

  แต่เมนูเด็ดของร้านที่พลอยชื่นชอบคือ  ปลากระพงทอดน้ำปลา  รสชาติกลมกล่อม เนื้อปลานั้นเหลืองกรอบยิ่งได้ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดของทานร้านที่มีมะม่วงเปรี้ยวสับใส่ลงไป บอกได้คำเดียวว่า  รสชาติอร่อยมากเลยค่ะ  จานแนะนำต่อมาคือห่อหมกทะเล  อันนี้พลอยได้ชิมแค่ตัวเนื้อเครื่องแกงรสชาติถึงรสถึงเครื่องพริกแกงจริงๆค่ะ และยังมีอีกหลายเมนูที่น่าทานแวะมาทานกันได้น่ะค่ะที่ร้านอาหารหาดแสงจันทร์ค่ะ

 

 หลังจากที่เราอิ่มอร่อยกันไปแล้วก็เริ่มออกเดินทางไปยังท่าเรือเพื่อจะข้ามฝั่งไปเกาะเสม็ดจ้า  (ตื่นเต้นอ่ะการไปเสม็ดครั้งแรก)  มีฝนตกพร่ำๆเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการเดินทางเลยค่ะ

 

   พอถึงท่าเรือแล้วเราก็นั่งspeed boat เพื่อข้ามไปเกาะเสม็ดกัน (อันนี้พลอยชอบมากทั้งสนุกและมันส์มากๆ ในการนั่ง speed boat) คำเตือน: หากใครเมาเรือง่ายแนะนำให้ทานยาแก้เมาก่อนนั่ง speed boat น๊ะจ๊ะ  ไม่งั้นจะเกิดอาการคลื่นไส้อย่างแน่นอนจ้า  (ด้วยความปราถนาดีจากเรา) หลังจากถึงเกาะเสม็ดเราก็ได้นั่งรถต่อเพื่อจะไปยังที่พักค่ะ ระหว่างทางก็จะเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวที่เกาะเสม็ดตลอดทาง (ขนาดต่างชาติเขายังมาเที่ยวบ้านเรา เราคนไทยไม่เที่ยวไม่ได้แล้วน๊ะจ๊ะ)  ที่พักของเราคือ Le Vimarn  Cottage  & Spa  อยู่ที่อ่าวพร้าวค่ะ   

 บรรยากาศที่นั่นดีมากๆ เลย เดินออกจากที่บ้านพักก็จะเห็นน้ำทะเลบรรยากาศแบบธรรมชาติแบบสุดๆ เลย  เหมาะสำหรับมากันแบบครอบครัวและคู่รักเป็นที่สุดเลย   (ขอบอกก่อนเลยว่าหมอนที่นอนนุ่มสบายมากๆ นอนแล้วอยากจะเอากลับบ้าน ฮ่า ฮ่า แต่ทำมิได้TT)  หลังจากที่เราพักผ่อนกันมาพอสมควร  เราก็ได้เดินทางออกเที่ยวกันต่อที่หาดทรายแก้ว แต่ขอจิบชาเขียวและทานเค้กไปพรางๆ ก่อนเพื่อขอซึมซับกับบรรยากาศดีๆ ที่ ร้าน  The  mango  เค้กร้านนี้อร่อยมากยิ่งช็อกโกบานาน่า  ชอบเป็นอย่างมาก 



 หลังจากนั่งจิบชากาแฟกันไปแบบเบาๆ แล้วถึงเวลา เดินเพื่อผ่อนคลายให้สบายอารมณ์กันที่ หาดทรายแก้วต้องบอกก่อนเลยว่าหาดทรายที่นั่นทรายละเอียดมากๆ  สีน้ำทะเลสีใส ออกฟ้าๆ  สวยมากๆ ถึงแม้ท้องฟ้าจะไม่เป็นใจแต่ยังไงก็น่าเที่ยวอยู่ดี(ขอถ่ายรูปเป็นนางเอกมิวสิคกันหน่อยละกันน่ะฮ่ะ 555+)  

 เวลา 17.50 น. ได้เดินทางกลับที่พักเพื่อจะทานอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษกัน ดินเนอร์มื้อนี้ต้องบอกก่อนว่ามีผู้ชายมาทำให้ทานกันด้วย ผู้ชายคนนั้นคือ   เชฟชินวัตร  แย้มเพียร ค่ะ   เมนูพิเศษที่เชฟได้ทำให้เราทานกันนั้นคือ ฉู่ฉี่ปลากระพง  (ตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่นๆ)   กุ้งลายเสือทอดซอสมะขาม (กุ้งตัวใหญ่มว๊าก)  หมึกยัดไส้ผักโขมเบคอนซอสสามรส   (เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเบคอนและผักโขมเป็นอย่างมากเลยค่ะ)  และยังมีอาหารทะเลอีกหลายเมนูให้เราเลือกทานกันอีกด้วยค่ะ   


พอเสร็จจากทานดินเนอร์สุดหรูกันแล้วเราก็แปลงร่ายกลายเป็นชาวประมงออกเดินทางลงเรือเพื่อจะไปไดหมึกกันค่ะ   ต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้หมึกกลับมากันค่ะเพราะบรรยากาศมีฝนตกลงมาพร่ำๆ เราจึงออกเดินเรือกันเพื่อต้องการออกหาประสบการณ์ในการเดินเรือเหมือนชาวประมงกันค่ะ  (เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจอย่างมากๆ เพราะเป็นการลงเรือประมงครั้งแรกเช่นเดิมจ้า)  ขณะนี้เวลา  23.00น. หลังจากกลับมาทุกคนก็แยกย้ายกลับเข้าที่พัก  ราตรีสวัสดิ์พบกันใหม่พรุ่งนี้จ้า

 

ฮัลโหลๆ อรุณสวัสดิ์จ้าทะเล  ณ เวลา  8.30 น.  บรรยากาศวันนี้เป็นใจอย่างมากท้องฟ้าเปิด  แต่ชักเริ่มหิวแล้วละไปหาอาหารทานกันดีกว่าค่ะ  มื้อเช้านี้ทาง  Le Vimarn  Cottage  & Spa  ได้จัดอาหารเช้าแบบ AMERICAN BREAKFAST  ทั้งพลอยกับพี่บิวก็จัดหนักกันแต่เช้าเลยจ้า  มีเชฟบริการเราอยู่ใกล้ๆ กันด้วยค่ะ  (นั่งทานกันไปเม้าส์กันไปได้บรรยากาศแบบสุดเลยอ๊ะ)  


เวลา  9.50 น.  ได้แยกย้ายกันเก็บสัมภาระเพื่อจะเดินทางกลับกันแล้ว  (เวลามันช่างผ่านไปไวเหลือเกิน)  ณ เวลา  10.30น. ได้ทำการเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมนั่งรถไปที่ท่าเรือเพื่อนั่งเรือ speed boat ข้ามฝั่งไปขึ้นรถค่ะ ถนนหนทางที่นี่เหมือนได้การผจญภัย  เหมาะกับการขับ  ATV เป็นอย่างมากๆเลย

 

จากนั้นเราก็ได้นั่งรถตู้ไปที่ตลาดบ้านเพเพื่อแวะซื้อของฝากกลับบ้านกัน


  มองดูนาฬิกานี่ก็เที่ยงกว่าๆ แล้วแวะทานอาหารที่ ร้านอาหารตำนานป่า กันดีกว่าค่ะ  ที่นี่นอกจากบรรยากาศภายในร้านจะร่มรื่นแล้วอาหารก็มีรสชาติดีด้วยค่ะ 


 ระหว่างทางเราก็ได้แวะดูกลุ่มแม่บ้านที่ผลิตสบู่ ลุฟฟาลา แวะอุดหนุนกลุ่มแม่บ้านก่อนกลับบ้านกันค่ะ 15.30 น.  เดินทางกลับกรุงเทพอย่างสวัสดิภาพค่ะ


 





แสดงความคิดเห็น






Insurance


Advertisement