เพื่อนฉันท้องกับเขาในคืนที่เรามีเซ็กซ์แบบสามคน


ในวัยยี่สิบต้นๆ ฉันก็เหมือนหญิงสาวรักสนุกร่าเริงคนอื่นๆ ฉันแบ่งเวลาในชีวิตให้ทั้งแฟน เพื่อนดีๆ ชีวิตในวงสังคมหวือหวา และงานที่น่าสนใจ รวมทุกอย่างแล้วฉันก็ยังมีเวลาสำหรับตัวเองและตอนที่ฉันพบ "คริส" ทุกอย่างก็ยิ่งดีขึ้น ฉันกับเขาเข้ากันได้ดีมาก เขาชอบเล่นกีฬาและชอบเข้าสังคมเหมือนฉัน และเขาใช้ชีวิตเต็มที่ เรารู้สึกว่าเราเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด

ตั้งแต่แรก เรื่องเซ็กซ์ของคริสกับฉันเข้ากันได้ดีมาก มันเต็มไปด้วยความร้อนแรง ความรัก และการทดลองสิ่งใหม่ๆ ความสัมพันธ์ทางเพศของเรายอดเยี่ยม เราคุยกันได้ทุกเรื่อง บอกเล่าความลับของกันและกันได้ และเปิดเผยจินตนาการส่วนตัวที่สุดของเราได้ ซึ่งจินตนาการของเราก็ไปกันได้ด้วยฉันรู้สึกว่านี่ล่ะใช่เลย!

ตอนที่เราเริ่มคุยเรื่องเซ็กซ์หมู่นั้น เราคบกันมานาน 1 ปีแล้ว เราหัวเราะด้วยกันเสมอเมื่อคิดถึงว่าได้ลองจะตื่นเต้นขนาดไหนนะ แต่ก็เท่านั้น แค่หัวเราะกันและลืมทีหลัง

แต่คืนหนึ่ง เพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉันมากินข้าวด้วยกันที่บ้าน เราสนุกด้วยกัน หมดไวน์ไปหลายขวด ทุกคนผ่อนคลายและมีความสุข เราหัวเราะด้วยกันหลายเรื่อง แฟนของฉันกับ "แคท" เพื่อนสนิทฉันคุยกันถูกคอมาตลอด เราสามคนจึงชอบพบปะกันในวันหยุดสุดสัปดาห์บ่อยครั้ง

ฉันจำได้ว่ายิ่งดึกขึ้น เราสามคนก็ยิ่งเมาขึ้นเรื่อยๆ ฉันเข้าครัวเพื่อหาน้ำดื่มและตอนที่กลับเข้ามาในห้องก็เห็นว่าคริสวางมือของเขาบนต้นขาของแคท ฉันชะงักไปเล็กน้อย แต่คริสกับแคทไม่แสดงว่ารู้สึกผิดทั้งคู่ จริงๆพวกเขาต่างก็ยิ้มเขินๆให้ฉันและชวนฉันนั่งบนโซฟาด้วยกัน ด้วยอาการมึนเมาฉันต้องยอมรับว่าฉันค่อนข้างตื่นเต้น แล้วฉันก็เดินไปนั่งร่วมกับพวกเขา ทุกคนเริ่มจูบกันและหัวเราะ แล้วอย่างอื่นก็ตามมาอย่างรวดเร็ว กว่าฉันจะรู้ตัว เราก็อยู่บนเตียงด้วยกันแล้ว

ฉันเคยรู้มาว่าแคทเคยมีชีวิตเซ็กซ์ที่หวือหวามาก่อน เธอเคยบอกว่าเคยจูบกับผู้หญิงด้วย แต่ฉันไม่เคยคาดคิดว่าเราจะมามีเซ็กซ์หมู่กับแฟนของฉัน

เช้าวันต่อมา ฉันตื่นขึ้นด้วยอาหารปวดหัวสุดๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังรู้สึกละอายใจมากเมื่อจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน คริสยังหลับอยู่ข้างฉันแต่แคทกลับบ้านของเธอไปแล้ว ฉันได้แต่นอนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะคิดอะไร ฉันจะพูดอะไรกับแคท ฉันควรวางตัวอย่างไร?

ฉันเดาว่าเราทุกคนคงต้องรู้สึกแปลกๆไปบ้าง คริสกับฉันหัวเราะให้กันแบบเครียดๆถึงเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็ไม่เคยพูดถึงมันจริงจัง เราแทบไม่เจอแคทเลยช่วงสองสามอาทิตย์ต่อมา บางทีทุกคนอาจต้องการอยู่ลำพัง

แล้วหลังจากนั้น 1 เดือน แคทก็โทร.หาฉัน ประจำเดือนของเธอขาดหายไป เธอไปตรวจแล้วพบว่าเธอท้องกับแฟนฉัน ฉันช็อคมาก ในทางหนึ่งนี่เป็นสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน ซึ่งเราทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ แต่เท่าที่ฉันคิดคือเรื่องของตัวเอง ฉันจะทำอย่างไร? สมองของฉันปั่นป่วน ตอนที่โทร.บอกข่าวกับคริส พอฉันพูดออกไปได้ ก็มีแต่ความเงียบที่ปลายสาย ฉันหวังว่าเขาจะมีวิธีแก้ไข และสามารถแนะนำว่าเราควรทำอะไรต่อไป แต่เท่าที่เขาพูดคือ "พระเจ้าช่วย!"

สองสามวันหลังจากนั้นทุกอย่างอยู่ในความมึนงง เราทุกคนต่างเจ็บปวดแต่ก็พยายามจะรับมือกับสถานการณ์นี้ในแบบของตัวเองและเป็นแรงใจให้แคท ที่แย่ไปกว่านั้นคือเธอตัดสินใจเอาเด็กไว้
คริสกับฉันไม่รู้จะพูดอย่างไร เราคิดว่าเธออาจทำท้งหรือยกลูกให้คนอื่น แต่มันคือร่างกายของเธอไม่ใช่ของเรา

สองอาทิตย์ต่อ ฉันใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ รู้สึกสิ้นหวัง และอยากให้เราทำอะไรรอบคอบมากกว่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคริสตึงเครียดไปด้วย ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหึงหวงว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคน เราเริ่มห่างเหินกัน

แล้วบ่ายวันหนึ่ง แคทก็โทร.หาฉัน ร้องห่มร้องไห้ เธอแท้งลูก เธอคลุ้มคลั่งไปเลย ฉันรู้สึกแย่มากและพยายามปลอบเธอ สัญญาว่าจะไปหาเธอโดยเร็วเท่าที่ทำได้ พอฉันวางหูโทรศัพท์ ความรู้สึกหลายอย่างก็โถมใส่ฉัน ฉันโล่งอกที่ปัญหานี้ "จบลง" เด็ดขาด ฉันรังเกียจตัวเองที่รู้สึกพอใจเมื่อมีชีวิตหนึ่งดับไป และรู้สึกเห็นใจแคท ความรู้สึกตอนนั้นแปรปรวนมาก

ฉันกับคริสเลิกกันหลังจากนั้นสองเดือน เราพบว่าระหว่างเรามีความเปลี่ยนแปลงมากเกินไป เราต่างต้องการลืมสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งการอยู่ด้วยกันกลับยิ่งย้ำเตือนให้เรานึกถึงมัน ส่วนแคท ฉันพบเธอบ้างเป็นครั้งคราว แต่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ผลของความสนุกคืนเดียว ฉันต้องเสียทั้งเพื่อนและแฟน ถ้าเพียงแต่เราคิดถึงผลที่จะตามมาคงไม่เป็นอย่างนี้ เราได้ยินเสมอว่าต้องระมัดระวัง แต่ไม่เคยเอามาคิดจริงจัง มันเป็นบทเรียนหนักหนาที่สุดที่ฉันต้องเรียนรู้ แต่เป็นความผิดพลาดที่ฉันจะไม่มีวันทำอีก

บทความ จาก CLEO






Insurance