
สมัยก่อน ผู้หญิงควรรอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายออกปากขอเดทกับเราก่อน แต่โลกปัจจุบันนี้ หนุ่มสาวสมัยใหม่ ต่างฝ่ายต่างยอมรับความจริงกันมากขึ้น ดังนั้น หากสบตาแล้วรู้สึกว่าปิ๊งกันก็ไม่ผิดที่ฝ่ายหญิงจะเป็นคนสานต่อให้พองาม เพราะจริงๆเรื่องออกปากนัดนี้ ผู้ชายเขาก็กล้าๆกลัวๆเหมือนที่ผู้หญิงรู้สึกนั่นแหละ ดังนั้นการที่ผู้หญิงจะเริ่มต้นก่อนก็ดีเสียอีก ผู้ชายจะได้มีกำลังใจขึ้น อย่างไรก็ตาม สาวๆฝ่ายเริ่มก็ควรดูให้แน่ใจว่าเขาพร้อมจะมีไมตรีกับคุณ


ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักขี้เกียจหรืออายเกินไปที่จะบอกรสนิยมหรือเป็นคนเสนอเลือกการนัดหมายให้ผู้ชาย ทำให้เขายุ่งยากเกี่ยวกับการเลือกสถานที่ว่าจะนัดกันที่ไหนดี อย่ากลัวที่จะแนะนำเขาเรื่องนี้ เขาจะขอบคุณคุณมาก ควรเลือกที่ราคากลางๆไม่แพงสุดขั้วเกินไป และมีบรรยากาศสบายๆให้คุณกับเขาได้คุยกันบ้างไม่เอะอะมากนัก การนัดไปดูหนังถือว่าแย่มาก เพราะต่างฝ่ายต่างก็จะจดจ่อกับหนังตรงหน้า มากกว่าที่จะทำความรู้จักกันและกัน


ในจินตนาการ สถานที่ดีที่สุดในการเดทกับผู้ชายครั้งแรก จะเป็นบรรยากาศประมาณว่าผู้ชายคนนั้นยืนรอคุณที่โถงชั้นล่างของบันได มีแสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาที่หน้าต่าง คุณในฐานะสาวสวยก็จะปรากฎโฉมที่ชั้นบนสุด ขณะนั้น แสงแดดอ่อนๆส่องต้องตัวคุณในชุดโทนสีพาสเทลดูอ่อนหวานน่าทะนุถนม พบกันคร้งแรกแบบนี้ ทำให้คุณดูสวยขึ้นอีกหลายเท่า แต่ความจริงก็คือ ต่างคนต่างก็วิ่งเข้ามาที่ร้านเพราะมาสาย และหากเขาเป็นฝ่ายต้องมารับคุณก็แปลว่าคืนนี้เขาต้องงดดื่ม และหากต้องนั่งแท๊กซี่กลับด้วยกัน ค่าแท๊กซี่ก็จะแพงกว่าค่าดินเนอร์มื้อเย็นเสียอีก

กฎข้อ 4 พูดถึงรักเก่าได้ไหม
หากคุณเป็นผู้ชายที่นัดครั้งแรก แล้วกำลังคุยสนุกสนาน แล้วจู่ๆเรื่องของแฟนเก่าก็เข้ามาแทรก แบบนี้มันจะหมดอารมณ์แค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องที่ไม่ควรคุยในการเดท เช่นการแต่งงาน เรื่องอนาคตร่วมกัน เรื่องการมีลูก เป็นต้น ก็อะไรจะไปไกลขนาดนั้น เพิ่งเดทกันครั้งแรกแท้ๆอย่าฟุ้งซ่านไปถึงขนาดนั้นเลย พอสาวเริ่มพูดเรื่องแบบนี้ ผู้ชายทั้งร้อยก็เผ่นแทบไม่ทัน ก็เขากลัวคุณจะจับเขาไงล่ะ


ทัศนคติแบบเก่าเชื่อว่า หน้าที่นี้เป็นของผู้ชายในนัดแรก แต่ผู้หญิงก็ไม่ควรทำให้เขารู้สึกว่า เพราะเขาเป็นผู้ชายเขาจึงเป็นหนี้คุณมาแต่ชาติปางก่อนและต้องมาจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ให้คุณ ทั้งๆที่เรื่องนี้น่าจะเป็นความเต็มใจที่เขาทำให้คุณมากกว่า


ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ชายไปส่งคุณที่บ้านเหมือนความเชื่อเก่าๆ เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น ขึ้นกับสถานการณ์และความสะดวกมากกว่า หากเป็นที่ๆสะดวกพอ คุณสามารถบอกลาแล้วแยกกันไปคนละทางก็ได้ หรือถ้าเขาจะไปส่งคุณที่บ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องชวนเขาเข้าบ้าน หากมันดึกแล้ว

กฎข้อ 7 เชิญเข้ามาทานกาแฟ
ประโยค "เข้ามาดื่มกาแฟก่อนไหมคะ" ของผู้หญิงนั้น ตีความหมายได้หลากหลายอย่าง เช่น เพียงแค่อยากบริการเครื่องดื่มอุ่นๆเขาก่อนกลับบ้าน หรืออยากคุยกับเขาต่อนานๆหรือกำลังจับเขาและอยากให้เขาลวนลามบนโซฟาห้องรับแขก หรืออาจถึงขั้นอยากชวนเขาถอดเสื้อผ้าแล้วมีเซ็กซ์กันต่อหลังการเดทก็เป็นได้ ปัญหาก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่านัยที่คุณเอ่ยชวนนี้แปลว่าอะไร


เรื่องนี้พูดกันตรงๆมันก็ขึ้นอยู่กับคุณเองนั่นแหละ ว่าจะยอมและอยากให้เกิดขึ้นแค่ไหนแต่ที่อยากให้ระลึกก็คือ ทำแล้วมีผลอะไรบ้างในระยะยาว หากคุณอยากพบเขาอีกจะปลอดภัยกว่าหากรอสักหน่อย จริงอยู่ แม้จะมีบางคู่ที่แต่งงานกันเมื่อมีเซ็กซ์ในเดทครั้งแรก แต่เรื่องนี้ก็ควรพิจารณาให้ดีๆ

กฎข้อ 9 แลกเบอร์กันได้ไหม
เวลาที่ลุ้นระทึกก็คือช่วงว่า เขาจะขอเบอร์โทรคุณไหม แต่ลองนึกถึงว่าหากเขาโทรไปตอนเช้าที่คุณยังไม่ลุกจากเตียงล่ะ เรื่องแบนี้ผู้ชายมักจะเป็นกังวลมากกว่าผู้หญิง เขาจึงไม่ค่อยให้เบอร์ใครง่ายๆและผู้ชายก็ไม่ชอบใช้โทรศัพท์คุยไร้สาระ สำหรับเขาการให้เบอร์โทรคือเรื่องจริงจัง ที่สำคัญคือเขาควรเป็นฝ่ายขอคุณก่อนไม่ใช่คุณเป็นฝ่ายขอเพราะอาจทำให้เขาลำบากใจ


เวลามาตรฐานในการโทรกลับของผู้ชายคือ ประมาณ 3 วันขึ้นไปก่อนที่จะโทรกลับมาหาคุณ แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่า เขาต้องเป็นฝ่ายขอเบอร์คุณไม่ใช่คุณให้เขาเอง เขารู้สึกว่าการโทรไปทันทีจะเปิดเผยความรู้สึกมากเกินไป ผู้ชายมักจะรอจนกว่าจะมั่นใจในตัวเอง และเชื่อได้ว่า ถ้าเขาโทรมาก็มักจะไม่ใช่การโทรมาคุยเล่นๆ แต่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เช่น อาจเป็นนัดครั้งต่อไป

