เอดส์ (AIDS ย่อมาจาก Autoimmune Deficiency Syndrome หมายถึง กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่อง)
คือ : ผลจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV ย่อมาจาก Human immunodeficiency Virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ท้ายที่สุดผู้ที่ติดเชื้อจะไม่สามารถต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย แม้แต่ไข้หวัดที่รุนแรงน้อยที่สุดก็ทำให้เจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตในที่สุด ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะเป็นพาหะของโรคและไม่แสดงอาการของโรคเอดส์ในขั้นนี้ แต่จะแสดงอาการขึ้นในภายหลัง
สาเหตุ : ไวรัสเอชไอวีติดต่อผ่านเลือด น้ำอสุจิ น้ำเมือกในช่องคลอดและน้ำนมมารดา
อาการ : ผู้ป่วยอาจติดเชื้อโดยไม่มีอาการของโรคอยู่นานหลายปีหรืออาการอาจแสดงออกมาภายในเวลาไม่นานหลังจากที่ติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แล้วก็หายได้เอง (แต่ยังติดเชื้ออยู่) อาการอื่นๆในระยะแรกก็รวมถึงการมีไข้ อ่อนเพลียมาก น้ำหนักลด ท้องร่วง และเหงื่อออกเวลากลางคืน
การป้องกัน : หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำอสุจิ น้ำเมือกในช่องคลอดของคนที่น่าสงสัยว่าติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่ได้ป้องกัน ออรัลเซ็กซ์มีความเสี่ยงรองลงมามาก (เว้นแต่จะมีแผลในปาก) และการติดเชื้อจากน้ำลายมีความเสี่ยงน้อยที่สุด ทั้งนี้ร่างกายผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชายมาก จึงมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้นด้วย การใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์รวมถึงการใช้ระหว่างทำออรัลเซ็กซ์จะลดความเสี่ยงลงได้มาก
เมื่อไรจึงจะปลอดภัยและหยุดใช้ถุงยางในการมีเพศสัมพันธ์ได้? แพทย์ส่วนมากตอบว่า ถ้าทั้งสองคนไม่มีอะไรกับคนอื่นนอกจากกันและกันมาหกเดือน และทั้งคู่ได้รับการตรวจเชื้อเอชไอวีแล้ว และได้ผลออกมาเป็นลบ จากนั้นค่อยต่ออีกหกเดือน แล้วตรวจเลือดอีกครั้งและได้ผลออกมาเป็นลบเหมือนเดิม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจจะเลิกใช้ถุงยางอนามัยได้ แต่เรื่องที่น่าคิดคือ เราไม่มีวันรู้แน่ว่าแฟนของเราไว้ใจได้หรือไม่
ระยะฟักตัว : เชื้อไวรัสเอชไอวี สามารถใช้เวลาฟักตัวนานตั้งแต่หกเดือนจนถึง 10 ปี ในระยะนี้มีผู้ติดเชื้อตรวจเลือดจะพบเชื้อเอชไอวี แต่อาจไม่แสดงอาการใดๆ
ถ้าไม่ได้รับการรักษา : ตาย
การรักษา : การตรวจเลือดเพื่อบ่งบอกกการติดเชื้อแต่เนิ่นๆและการรับยาต้านไวรัสขนานใหม่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาวขึ้น แต่ยังไม่วิธีรักษาในขณะนี้
จะทะยอยนำโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆมาอัพเดทกันคราวต่อๆไปค่ะ
คือ : ผลจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV ย่อมาจาก Human immunodeficiency Virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ท้ายที่สุดผู้ที่ติดเชื้อจะไม่สามารถต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย แม้แต่ไข้หวัดที่รุนแรงน้อยที่สุดก็ทำให้เจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตในที่สุด ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะเป็นพาหะของโรคและไม่แสดงอาการของโรคเอดส์ในขั้นนี้ แต่จะแสดงอาการขึ้นในภายหลัง
สาเหตุ : ไวรัสเอชไอวีติดต่อผ่านเลือด น้ำอสุจิ น้ำเมือกในช่องคลอดและน้ำนมมารดา
อาการ : ผู้ป่วยอาจติดเชื้อโดยไม่มีอาการของโรคอยู่นานหลายปีหรืออาการอาจแสดงออกมาภายในเวลาไม่นานหลังจากที่ติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แล้วก็หายได้เอง (แต่ยังติดเชื้ออยู่) อาการอื่นๆในระยะแรกก็รวมถึงการมีไข้ อ่อนเพลียมาก น้ำหนักลด ท้องร่วง และเหงื่อออกเวลากลางคืน
การป้องกัน : หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำอสุจิ น้ำเมือกในช่องคลอดของคนที่น่าสงสัยว่าติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่ได้ป้องกัน ออรัลเซ็กซ์มีความเสี่ยงรองลงมามาก (เว้นแต่จะมีแผลในปาก) และการติดเชื้อจากน้ำลายมีความเสี่ยงน้อยที่สุด ทั้งนี้ร่างกายผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชายมาก จึงมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้นด้วย การใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์รวมถึงการใช้ระหว่างทำออรัลเซ็กซ์จะลดความเสี่ยงลงได้มาก
เมื่อไรจึงจะปลอดภัยและหยุดใช้ถุงยางในการมีเพศสัมพันธ์ได้? แพทย์ส่วนมากตอบว่า ถ้าทั้งสองคนไม่มีอะไรกับคนอื่นนอกจากกันและกันมาหกเดือน และทั้งคู่ได้รับการตรวจเชื้อเอชไอวีแล้ว และได้ผลออกมาเป็นลบ จากนั้นค่อยต่ออีกหกเดือน แล้วตรวจเลือดอีกครั้งและได้ผลออกมาเป็นลบเหมือนเดิม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจจะเลิกใช้ถุงยางอนามัยได้ แต่เรื่องที่น่าคิดคือ เราไม่มีวันรู้แน่ว่าแฟนของเราไว้ใจได้หรือไม่
ระยะฟักตัว : เชื้อไวรัสเอชไอวี สามารถใช้เวลาฟักตัวนานตั้งแต่หกเดือนจนถึง 10 ปี ในระยะนี้มีผู้ติดเชื้อตรวจเลือดจะพบเชื้อเอชไอวี แต่อาจไม่แสดงอาการใดๆ
ถ้าไม่ได้รับการรักษา : ตาย
การรักษา : การตรวจเลือดเพื่อบ่งบอกกการติดเชื้อแต่เนิ่นๆและการรับยาต้านไวรัสขนานใหม่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาวขึ้น แต่ยังไม่วิธีรักษาในขณะนี้
จะทะยอยนำโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆมาอัพเดทกันคราวต่อๆไปค่ะ