สูตรลับไดเอต


วันที่ 1
อาหารเช้า........ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า โยเกิร์ต
เครื่องดื่ม.........น้ำมะละกอปั่นผสมกับน้ำส้มคั้นและขิงเล็กน้อยผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารกลางวัน........ข้าวต้มปลากับหน่อไม้ฝรั่งสีเขียว
น้ำผลไม้..........ปั่นมะละกอครึ่งผลกับน้ำส้มคั้น 50 มิลลิกรัมและโยเกิร์ต 100 กรัม
อาหารเย็น..........ก๋วยเตี๋ยวไก่

วันที่ 2
อาหารเช้า..........ไข่เจียวใส่หอมซอย ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้........กล้วยน้ำว้า 1 ผล และสับปะรด 1 ชิ้น
อาหารกลางวัน.........แกงจืดวุ้นเส้น ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
เครื่องดื่ม...........น้ำมะละกอปั่นผสมน้ำส้มและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารเย็น...........แกงเผ็ดเนื้อ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

วันที่ 3
อาหารเช้า.........กล้วย มะละกอ และโยเกิร์ต
ผลไม้......สับปะรด
อาหารกลางวัน........ต้มยำกุ้ง ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้......กล้วย 1 ผล
อาหารเย็น..........ผัดผักรวมมิตร ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

วันที่ 4
อาหารเช้า.....ไข่เจียวกับพริกหวาน (ไข่หนึ่งฟอง) ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้.....ฝรั่งและกล้วยน้ำว้าอย่างละ 1 ผล
อาหารกลางวัน........ข้าวต้มหมู
เครื่องดื่ม.....น้ำมะละกอปั่นผสมน้ำส้มและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารเย็น.........ผัดผักเปรี้ยวหวานกุ้ง ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

วันที่ 5
อาหารเช้า......กล้วยน้ำว้า มะละกอ และโยเกิร์ต
เครื่องดื่ม.......น้ำฝรั่ง 1 แก้ว
อาหารกลางวัน..........แกงจืดวุ้นเส้นใส่ผัก ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้..........มะม่วง 1 ผล
อาหารเย็น..........แกงเผ็ดไก่ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

วันที่ 6
อาหารเช้า........ไข่เจียวกับมะเขือเทศ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้......สับปะรด ฝรั่ง
อาหารกลางวัน............ข้าวต้มกุ้ง
เครื่องดื่ม........น้ำมะม่วงปั่นผสมกับน้ำส้มคั้นและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารเย็น..........ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว

วันที่ 7
อาหารเช้า......สับปะรด กล้วยน้ำว้า และโยเกิร์ต
เครื่องดื่ม...น้ำมะม่วงปั่นผสมกับน้ำส้มคั้นและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารกลางวัน.........แกงป่าไก่ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
เครื่องดื่ม......น้ำสับปะรดปั่น
อาหารเย็น.......ผัดผักใส่เต้าหู้ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

ทำไมอาหารเอเชียจึงไม่ทำให้อ้วน
ชาวเอเชีย เช่น คนไทย เกาหลี หรือญี่ปุ่น ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของน้ำหนักเกิน (ยกเว้นเด็กหรือวัยรุ่นสมัยใหม่ที่นิยมอาหารฟาสฟู้ด) นอกจากนี้การเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจและมะเร็งก็น้อยกว่าชาวยุโรป เนื่องจากอาหารชาวเอเชียมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรอย่างดีนั่นเอง

ทานวิตามินดีกว่าแคลอรี่
อาหารที่มีรสชาติหลากหลายเช่น รสเผ็ด หวาน เค็มและรสกลางๆ จะช่วยหยุดยั้งความหิวได้ดี คนเอเชียวทั่วไปแทบจะไม่ทานผลิตภัณฑ์จากนม ในขณะที่ชาวยุโรปทานเนย แต่ชาวเอเชียใช้น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันงาในการปรุงอาหาร จึงแทบไม่ได้ไขมันจากสัตว์ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวและส่งผลไปถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ด้วย นอกจากนี้เทคนิคในการทำอาหารก็สำคัญ อาหารเอเชียมักใช้นึ่งหรือผัดในกระทะซึ่งใช้น้ำมันไม่มาก ผัดผักก็ใช้ระยะเวลาสั้นๆช่วยให้ผักกรอบและทรงคุณค่าวิตามินต่างๆและนิยมทานปลาซึ่งมีโปรตีนสูงและกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย การทานเป็ดไก่จะได้ไขมันน้อยกว่าทานหมูเนื้อแดง และทานผลไม้ก็ตามฤดูกาลแทนขนมหวานๆ

เครื่องเทศขจัดไขมัน
ขิง กระเทียม พริกและข่า ช่วยกระตุ้นให้ระบบหมุนเวียนโลหิตเป็นไปด้วยดี โดยเฉพาะขิงและพริกจะช่วยย่อยอาหารและช่วยละลายไขมัน และอย่าลืมเติมเครื่องเทศอื่นด้วย เช่น ตะไคร้ (ช่วยให้มีชีวิตชีวา) สะระแหน่ (ช่วยลดความปั่นป่วนในกระเพาะอาหาร) ผักชี (ช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล)

ผักสด
ผักยิ่งสดเท่าไหร่ย่อมดีเท่านั้น หากซื้อผักมาเก็บไว้ภายใน 3 วัน วิตามินซีที่อยู่ในผักจะลดคุณค่าถึง 70% นอกจากผักจะมีวิตามินมากมายแล้ว ยังมีเอนไซม์ด้วย ส่วนผักอื่นๆที่มีสารอาหารที่จำเป็น เช่น มะเขือเทศ ต้นหอม มีแคลอรีน้อยมาก

โปรตีนจากถั่ว
อาหารที่ทำมาจากถั่วเหลืองเช่น เต้าหู้ มิโซะ ฯลฯ เป็นที่นิยมในประเทศแถบเอเชียซึ่งผู้คนนิยมรับประทานแทนเนื้อสัตว์ เพราะถั่วเหลืองช่วยยับยั้งมะเร็ง มีโปรตีน วิตามินบี แมกนีเซียม แคลเซียม และยังมี "isoflavone" ซึ่งให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวและร่างกาย นอกจานี้ยังช่วยให้รูปร่างสะโอดสะองอีกด้วย เพราะมีกากใยที่ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุลและทำให้อิ่มนาน

สาหร่าย
สาหร่ายเป็นอาหารที่มักนำมาขึ้นโต๊ะของชาวญี่ปุ่นทุกวัน เช่น ข้าวห่อสาหร่าย ประโยชน์ของสาหร่ายคือ ช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกาย ทำความสะอาดระบบน้ำเหลือง และมีแคลอรี่ต่ำ (ประมาณ 35 กิโลแคลอรี/ 100 กรัม) ให้กากใยอาหารมากและให้สารอาหาร เช่น ไอโอดีน เหล็ก และแมกนีเซียม

สุขด้วยข้าว
"หากอยากมีความสุขสักหนึ่งชั่วโมงให้คุณดื่ม หากอยากมีความสุข 3 วันให้แต่งงาน อยากมีความสุขตลอดชีพให้ทานข้าว" เป็นสุภาษิตของกุ๊กสาวชาวเกาหลี เพราะข้าวจะช่วยขจัดน้ำออกจากร่างกาย ทำให้รูปร่างงดงาม (หากทานอย่างพอดี) แถมยังย่อยง่ายอีกด้วย

กระชุ่มกระชวยด้วยชาเขียว
ดื่มชาเขียววันละหนึ่งถ้วยดีกว่าดื่มมากว่าสองหรือสามถ้วย เพราะชาเขียวจะป้องกันไม่ให้มีน้ำขังอยู่ในร่างกาย มีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ฟลาโวนอยด์ซึ่งปกป้องหัวใจและผิวหนัง นอกจากนี้นักวิชาการชาวญี่ปุ่นยังบอกว่า ชาเขียวยังทำให้คนขยันขึ้นอีก 25% เชียวล่ะ





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement