10 เหตุผลสุดอะเมซซิ่่งที่เราต้องกินเชอร์รี่กันบ่อยๆ (แม้จะแพงก็เหอะ)




เชอร์รี่เป็นผลไม้ที่หาทานได้ยากหน่อยในเมืองไทยเรา แต่เดี๋ยวนี้หาซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ง่ายขึ้น แค่ว่าราคามันค่อนข้างจะสูงไปนิ๊ดดดดดนึง แต่เพราะว่าเชอร์รี่มีประโยชน์สุดๆจะทานสดหรือนำมาประกอบอาหาร/ขนมก็ได้ เดี๋ยวลองอ่านกันดูว่าทำไมเราถึงควรกินเชอร์รี่กัน

1. เพิ่มระดับพลังงาน

แคลอรี่ส่วนใหญ่ที่ได้จากเชอร์รี่นั้นมาจากน้ำตาลจากธรรมชาติ จึงช่วยปรับอารมณ์และช่วยให้ระดับพลังงานของเราอยู่ในระดับปกติ ฉะนั้นการทานเชอร์รี่เป็นของว่างโดยเฉพาะในช่วงบ่ายๆก็ช่วยให้อารมณ์ขุ่นมัวของเราบรรเจิดขึ้นมาได้ ทานเชอร์รี่สดๆสักกำมือหนึ่งในช่วงเวลาที่รู้สึกแย่จะทำให้เรารุ้สึกดีขึ้นได้แทบจะทันตาเลยนะคะ

2. ช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้น

ถ้าใครมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ นอนยาก ลองทานเชอร์รี่เป็นประจำดูค่ะ เชอร์รี่มีเมลาโทนินที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ ถือว่าเป็นการรักษาแบบธรรมชาติที่แสนเอร็ดอร่อยก็ได้ โดยเฉพาะใครที่มักนอนไม่หลับ อย่าเพิ่งทานยานอนหลับหรือยาอะไรก็ตามที่ทานเพื่อให้นอนได้ ลองทานเชอร์รี่ทุกๆวันดูค่ะว่าจะช่วยได้ขนาดไหน

3. ช่วยให้สุขภาพตาดีขึ้น

หากเราทานเชอร์รี่ทุกวัน นอกจากจะนอนหลับได้ง่ายขึ้น ยังช่วยให้สุขภาพตาเราดีด้วย เพราะในเชอร์รี่เต็มได้ด้วยวิตามินเอ ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเรื่องสายตาของเราและทำให้ดวงตาเราสุขภาพดี เรตินอลในวิตามินเอยังช่วยให้ผิวเราสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ และในเชอร์รี่นี้มีวิตามินเอมากกว่าสตรอเบอร์รี่หรือบลูเบอร์รี่ถึง 20 เท่าเลยนะนะคะ

4. ช่วยป้องกันมะเร็ง

การทานเชอร์รี่เป็นประจำช่วยป้องกันมะเร็งได้ เพราะเชอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งทั้งช่วยต้านมะเร็งและช่วยให้สุขภาพดีไม่มีแก่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราควรเพิ่มเชอร์รี่เข้าไปในตารางอาหารสุขภาพของเราด้วยค่ะ

5. ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

ไฟเบอร์ที่อยู่ในเชอร์รี่ช่วยระบบขับถ่ายเราดีขึ้นและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ด้วย และไม่จำเป็นต้องทานทีละเยอะๆ เพียงแค่ประมาณกำมือหนึ่งก็เพียงพอ ในปริมาณนี้ก็ได้รับไฟเบอร์ที่ควรบภิโภคถึง 1 ใน 4 ส่วนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันแล้วนะคะ



6. ช่วยบรรเทาและลดอาการบวม

เชอร์รี่เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแอนโธไซยานินส์ ที่ช่วยลดอาการปวดและบวมจากโรคเรื้อรังต่างๆ รวมไปถึงเก๊าท์และโรคข้ออักเสบ ฉะนั้นเพื่อช่วยป้องกันและช่วยให้อาการดีขึ้นลองทานเชอร์รี่เป็นประจำดูค่ะ ในระยะยาวอาจจะไม่ต้องใช้ยาเลยก็ได้นะคะ

7. ช่วยป้องกันการปวดกล้ามเนื้อ

แม้ว่ากล้วยจะมีโพแทสเซียมมากกว่าเชอร์รี่ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะชอบทานกล้วยใช่มั้ยล่ะคะ ฉะนั้นใครอยากได้รับโพแทสเซียมแต่ไม่ชอบกล้วยก็ลองเลือกทานเชอร์รี่แทนได้ โพแทสเซียมช่วยป้องกันและลดอาการตะคริวหรือปวดกล้ามเนื้อได้ ทำให้นักกีฬาชอบทานกล้วยก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกายหรือระหว่างออกกำลังกายหรือแข่งขันกีฬายังไงล่ะค่ะ เราอาจจะเปลี่ยนมาดื่มน้ำเชอร์รี่ก็ได้หากต้องการ และที่สำคัญสำหรับผู้หญิงแล้วเชอร์รี่ยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ด้วยนะคะ

8. ช่วยให้ระบบการทำงานของสมองดีขึ้น

หลังๆรู้สึกว่าขี้ลืมหรือเปล่าคะ เชอร์รี่ช่วยได้นะคะ โดยเฉพาะอายุที่มากขึ้นความทรงจำก็จะไม่ค่อยดีตามมา เชอร์รี่ก็เปรียบเสมือนอาหารของสมอง เพราะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโธไซยานินส์เยอะ ซึ่งดีต่อสมอง เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ระหว่างดูหนังเรื่องโปรดหยิบเชอร์รี่มาทานกันดีกว่าค่ะ

9. ดีต่อหัวใจของเรา

อาหารอะไรก็ตามที่ดีต่อหัวใจของเราก็ควรค่าแก่การทานทั้งนั้น และไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นดูแลสุขภาพหัวใจนะคะ การทานเชอร์รี่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และดีต่อสุขภาพโดยรวมของเราด้วย 

10. มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบสูง

อีกหนึ่งประโยชน์ที่ถือว่าสำคัญมากคือ คุณสมบัติต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักกีฬาและนักวิ่งซึ่งมักมีอาการบาดเจ็บหลังจากออกกำลังกาย ฉะนั้นควรลองดื่มน้ำเชอร์รี่ทุกๆวัน วันละ 3 เวลาค่ะ

ถ้าตัดเรื่องราคาของเชอร์รี่ออกไปได้เนี่ย ถือว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพโดยรวมมาก ไม่ว่าจะทานเป็นเชอร์รี่สดๆ น้ำเชอร์รี่หรือแม้กระทั่งเชอร์รี่แห้ง เวลาเราไปซื้อน้ำเชอร์รี่ให้สั่งแบบไม่เติมน้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดีของเรานะคะ ทีนี้เหลือแค่ว่าเราจะหยิบเชอร์รี่ใส่ตะกร้าช้อปปิ้งของเราหรือเปล่า






แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement