ในยุคที่ทุกอย่างเหมือนอยู่ในกำมือเรา ทำให้ทุกวันนี้การอัพเดทวิถีชีวิต ของผู้คนรอบตัวเกิดขึ้นง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว บางคนศึกษา หรืออ่านเรื่องราวการดำเนินชีวิตของบุคคลอื่นๆ เพื่อเป็นตัวอย่างและนำมาปรับใช้กับชีวิตของตนจนประสบความสำเร็จ
วันนี้ เราขอเปิดมุมมองของผู้หญิง Smart หลายๆ คนที่คุณอาจรู้จัก และอยากดำเนินชีวิตตามแบบพวกเธอ เพราะผู้หญิงเหล่านี้ ไม่ได้ดูดีเพียงบุคลิกภาพภายนอกเท่านั้น แต่แฝงแนวคิดที่หลากหลายและแตกต่าง เรามาเปิดมุมมองของพวกเธอไปด้วยกัน คุณมณฑล กสานติกุล หรือน้องมินท์ นักท่องโลกกว้าง ผู้เดินทางคนเดียวมาแล้วกว่า 50 ประเทศ เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงพอรู้จักกับเธอบ้างผ่าน บล๊อคและเฟสบุ๊คที่มีแฟนเพจติดตามการเดินทางสไตล์ I Roam alone เด็กสาวผู้ออกเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ การเดินทางในทุก ๆ ทริปของเธอแฝงไว้ด้วยมุมมองและแนวคิดใหม่ๆ ที่คุณเองอาจเคยรู้สึกแต่กลับมองข้ามมันไป
คุณมินท์ เล่าให้ฟังว่า การเดินทางของเธอได้เปิดมุมมองชีวิตด้านใหม่ๆ เหมือนเป็นกระจกที่สะท้อนให้รู้จักการเอาชนะความกลัว ผู้คนและสังคมที่แตกต่าง สอนให้เรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงและลองทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าเราจะทำได้ นอกจากนี้การเดินทาง ยังทำให้ค้นพบว่ามนุษย์เรามักชอบเป็นผู้ควบคุมและเป็นผู้กำหนดทุกอย่าง ซึ่งจริง ๆ แล้ว สิ่งเดียวที่เราควบคุมได้ คือทัศนคติของเราเอง การเดินทางยังสอนให้เรามองเห็นสิ่งเล็กๆ ที่อยู่รอบตัวที่มักจะมองข้ามเสมอ รวมถึงการเดินทางในแต่ละครั้งทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดี เพราะ ก่อนการเดินทาง ตนเองมักคิดเสมอว่า ทำไมฉันจึงมีความทุกข์มากมายเช่นนี้ แต่ทุกๆ การเดินทางของฉันกลับได้พบเจอคนที่ยากลำบากกว่า จึงทำให้ได้ข้อคิดว่า ทุกข์ของเราที่ดูยิ่งใหญ่เป็นเพราะโลกของเราแคบเกินไปนั่นเอง
คุณมินท์ได้ฝากข้อคิดให้เราเพิ่มเติมไว้ว่า จงเรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเอง ให้เวลากับตัวเอง และจงมีความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำและเป็น ในยุค Social Media นี้ทำให้เรารับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป และพร้อมที่จะโน้มเอียงไปตามคำพูดหรือข้อมูลที่ได้รับ ทำให้หาตัวตนไม่เจอ จึงอยากให้ ผู้หญิงทุกคนลองออกเดินทางในโลกกว้างใบนี้เพียงคนเดียวสักครั้ง เพราะการเดินทางไม่ใช่แค่ความสนุก แต่จะสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น
นอกจากมุมมองของคุณมินท์ ผู้หญิง Smart ที่เรียนรู้ตัวตนจากการเดินทาง ยังมีผู้หญิง Smart อีกกลุ่มหนึ่งที่ร่วมเปิดมุมมอง และแนวคิดที่สร้างสรรค์บนเวทีนานาชาติ TED องค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อโครงการ Ideas Worth Spreading ซึ่งแนวคิดอันชาญฉลาดของพวกเธอจะได้รับทุนสนับสนุน เพื่อสานต่อแนวคิดให้เป็นจริง และคลีนิกข์ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแนวคิดดี ๆ ของผู้หญิง Smart เหล่านี้ ซึ่งสองแนวคิดที่ทำเพื่อสังคมและได้ถูกนำเสนอบนเวที TED ได้แก่ MS Jane Chen ผู้ร่วมก่อตั้ง Embrace กิจกรรมเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายช่วยเหลือทารกแรกเกิดที่อ่อนแอในประเทศกำลังพัฒนา ผ่านถุงนอนราคาย่อมเยาว์ที่มอบความอบอุ่นได้ดีให้กับทารกแรกเกิด ด้วยแนวคิดที่ว่าตู้อบสำหรับทารกแรกเกิดมีราคาสูง แต่ถุงนอนนี้ ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า สะดวกในการเคลื่อนย้าย ปลอดภัย และสามารถสร้างความอบอุ่นให้กับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนับล้านคนในประเทศกำลังพัฒนา MS Erin Bagwell เจ้าของภาพยนตร์สารคดี Dream, Girl ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของนักธุรกิจผู้หญิงรุ่นใหม่ๆ ผู้มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงมุมมองของสังคมต่อบทบาทต่างๆ ที่ผู้หญิงสามารถทำได้ โดยเจ้าของผลงานเชื่อว่า ถึงเวลาที่จะต้องหยุดบอกเด็กสาวทั้งหลายว่าพวกเธอสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่ต้องการ แล้วแสดงให้เห็นว่าการเป็นผู้นำคืออะไร ซึ่งผลงานชิ้นนี้ของเธอได้รับการต่อยอดมาจากบล็อกที่เธอเขียนที่ใช้ชื่อว่า "Feminist Wednesday"
คุณเบญจมาส กลิ่นส่ง ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์เครื่องสำอาง คลีนิกข์ กล่าวว่า เนื่องจากแบรนด์ Clinique ต้องการเปิดแนวคิด และมุมมองการใช้ชีวิตให้กับผู้หญิง เพราะเราเชื่อว่าOne Smart Idea Can Change Everything และในตัวตนของผู้หญิงทุกคน มีความคิดดี ๆ ที่น่าสนใจ และพร้อมจะบอกเล่าไอเดียดี ๆ ผ่านทางมุมมองและการดำเนินชีวิตของพวกเธอเสมอ นี่เป็นเพียงความคิดส่วนหนึ่งของผู้หญิงSmart ที่ไอเดียของพวกเธอไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเองเท่านั้น แนวคิด ความกล้า ความสร้างสรรค์ของพวกเธอยังสะท้อนประโยชน์ไปยังผู้คนรอบข้างอีกด้วย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.clinique.co.th/smartideas