สำหรับคนที่แต่งหน้าและไม่แต่งหน้ายังไงการทำความสะอาดผิวหน้าก็สำคัญมากจริงๆ มันเป็นขั้นตอนแรกในการดูแลผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยและทำให้ผิวเรารับสารบำรุงจากสกินแคร์ต่างๆได้ดี ใครไม่แต่งหน้าแต่ทากันแดดก็ควรจะเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก่อนล้างหน้าด้วยเช่นกันค่ะ วันนี้นกหยิบเอา Botanics Micellar Cleansing Solution 3 in 1 All Bright มารีวิวให้เป็นข้อมูลกันคร่าวๆ อย่างที่หลายๆคนทราบว่านกมักจะใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดหรือล้างเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าอยู่แล้ว และปกติก็จะเป็นประเภทน้ำๆค่ะ ของ Botanics ตัวนี้ก็เป็นน้ำเหมือนกัน ** ได้จากถุงในงานอีเว้นท์แต่ไม่ใช่ของแบรนด์โดยตรงค่ะ
แพคเกจของเค้าเป็นขวดพลาสติกกลมใส ลวดลายสวยงามมากค่ะ เป็นฝาเปิดไม่ใช่ฝาปั๊มค่ะ
คำเคลมจากแบรนด์
ให้คุณรู้สึกชุ่มฉ่ำโยนอ่อนเหมือนเติมน้ำให้ผิว แต่ให้ผลลัพธ์ในการทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด พร้อมลดปัญหาสิวอุดตัน
ลดเลือนผิวหมองคล้ำ คืนสัมผัสผิวสวยเนียนนุ่มในขั้นตอนเดียว
ราคา 325 บาท
ตัวหนังสือด้านหลังเล็กมากๆ แต่พยายามอ่านว่าเช็ดรอบดวงตาได้หรือไม่ค่ะ ปรากฎว่าเช็ดได้ รู้สึกสบายขึ้นเยอะไม่ต้องหลายชิ้น
ใครที่อยากรู้ส่วนผสมนกก็ถ่ายรูปซูมมาให้เห็นชัดๆ
ภาพส่วนแรกที่เช็ดใบหน้าและดวงตาอาจจะไม่ชัดเท่าไรนะคะ เพราะถ่ายตอนกลางคืนค่ะ (ขออภัยด้วยค่า)
ในวันนั้นนกแต่งหน้าเต็มไปงาน แต่โดนลบออกเหลือแค่ตา เพราะไปนวดหน้า ฮ่าๆแล้วแต่งหน้าไปทำไม
หลังจากนวดหน้าเสร็จเค้าก็ลง CC Cream กับแป้งฝุ่นให้ แล้วนกก็เติมส่วนอื่นๆทีหลังค่ะ เพราะแบกเครื่องสำอางไปแต่งหน้าในรถ
ส่วนปากแทบไม่เหลือ แต่ตอนเช็ดกลับมีติดออกมาหน่อยๆตามร่องปากค่ะ
สำหรับดวงตา นกปัดมาสคาร่าสีน้ำเงินค่ะ ส่วนไลเนอร์ไม่แน่ใจว่าหายไปหมดแล้วหรือยัง แต่นกเติมอายแชโดว์ไปด้วยค่ะ
น้ำใสๆ มีกลิ่นอยู่ค่ะ แต่ไม่ใช่กลิ่นเหม็น แต่ก็ไม่ได้หอม
นกชอบขวดปั๊มๆมากกว่ามันสะดวกกว่า ไม่ต้องคอยเท
เช็ดรอบดวงตาก่อน ใช้ทีละนิด กลัวแสบตา แต่ไม่แสบค่ะ ตรงนี้โอเคเลย แปะๆไว้สักพักระหว่างนี้ใช้นิ้วกดเบาๆให้ทั่วเปลือกตา
ลองเอาออกมาดูโดยยังไม่เช็ดค่ะ แค่ที่แปะๆแล้วกดเบาๆ ก็ติดออกมาดีนะคะ
ก็ออกประมาณนึงแล้วค่ะ ขนาดยังไม่ได้เช็ด
จากนั้นเช็ดเบาๆก็ออกหมดเกลี้ยงค่ะ ไม่แสบตา ไม่ระคายเคือง
จากนั้นก็เช็ดหน้าโดยใช้อีกแผ่นค่ะ นกไม่ได้ใช้รองพื้นอะไรมากมายแผ่นเดียวสำหรับครึ่งหน้าก็เกลี้ยงแล้ว
ก็จากการที่เช็ดทั้งรอบดวงตาและใบหน้า ก็สะอาดเอี่ยมค่ะ แต่สำหรับผิวหน้านกรู้สึกแสบนิดๆนะคะ ไม่ได้ถึงขั้นระคายเคืองอะไรแค่รู้สึกค่ะ
ใช้ไปแค่นี้จริงๆ ถ้าเป็นสำลีทีหนาหน่อยและแยกชั้นได้คงใช้แค่แผ่นเดียวพอ
แล้วก็จัดการกับอีกข้างเหมือนกันเลยค่ะ
หมดสำลีไปแค่ 4 แผ่นค่ะ
ลองป้ายหลายๆสิ่งบนแขนดู เพื่อทดสอบค่ะ
ส่วนใหญ่เป็นแบบกันน้ำหมดนะคะ ส่วน tint ปกติจะติดทนสุดๆ รอแห้งแล้วจะแมตต์มาก
สำลีแผ่นแรก
จะลองเช็ดแบบรวดเดียวว่าจะเห็นผลยังไง
ปื้ดแรก บางอย่างออกไปเลยค่ะ แต่ที่ติดทนก็ไลเนอร์ ทิ้นท์ อายแชโดว์สติ๊ก และมาสคาร่าคิ้ว
ก็เช็ดอีกรอบโดยไม่เติมเคลนซิ่งค่ะ เง้อออออ อายแชโดว์สติ๊ก ติดชนิดที่....อยากขูด
นกเลยแปะเอาไว้ก่อนค่ะ ปกติถ้ารอบดวงตาเราก็จะแปะไว้ก่อนอยู่แล้ว
คือ....จะติดทนอะไรขนาดนั้นเนี่ย จริงๆนกไม่ค่อยได้ใช้แท่งนี้เท่าไรนะคะ ถ้าใช้ก็แต้มบางๆค่ะ นี่เลยติดแน่นเลย แต่สุดท้ายก็ออก
ไม่ถึงกับใช้แรงหรือต้องถูแค่ต้องแปะให้นานขึ้นหน่อยค่ะ
เค้าบอกว่าหลังจากเช็ดแล้วไม่ต้องล้างหน้าตามก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่ล้างต่อด้วยโฟมหรืออะไรก็ตาม ควรเช็ดจนกว่าจะไม่มีอะไรติดจริงๆนะคะ
ส่วนนกขอเช็ดและไปล้างหน้าต่อค่ะ ไม่ว่ากับแบรนด์ไหนก็ทำแบบนี้นะคะ
หลังจากเช็ดผิวหน้าไม่แห้งค่ะ ไม่ทิ้งความมันเอาไว้ด้วย ดีตรงนี้ด้วยค่ะ
ราคา 325 บาท ถือว่าราคาสมเหตุสมผลค่ะ
แต่เราอาจจะต้องมี Eye makeup Remover ติดบ้านเอาไว้เผื่อกรณีที่มีอะไรที่ติดทนจริงๆ ผิวเราจะได้ไม่แย่ค่ะ
หาซื้อได้ที่ Boots นะคะ
