สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เตือนนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่หลาย ๆ จังหวัดที่เคยถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ให้ระวังพิษภัยจากแมลงก้นกระดกเป็นพิเศษ แนะวิธีการป้องกันง่าย ๆ เมื่อโดนแมลงหรือเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนให้ล้างด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง หรือใช้แอมโมเนียทาบริเวณที่โดนแมลงจะลดอาการแสบร้อนได้
รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝน ต้นฤดูหนาวในแต่ละปี แมลงก้นกระดก หรือที่เรียกว่า “ด้วงก้นกระดก” จะพบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตามพื้นที่ป่าเขา ตามบ้านเรือนทั่วไป โดยเฉพาะในปี 2559 น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ รบกวนพื้นที่อาศัยของแมลงก้นกระดกที่อยู่ตามต้นไม้ ตามป่า ตามรังดิน จนต้องหนีมาอาศัยในบ้านเรือนของคน ดังนั้นพื้นที่ในโซนภาคใต้จึงมีการระบาดของแมลงก้นกระดก ในหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง เป็นต้น
สำหรับผู้ที่โดนพิษแมลงก้นกระดก เมื่อโดนแล้วจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน และมีผื่นแดงตามผิวหนัง ผื่นที่เกิดจากแมลงชนิดนี้ ไม่ได้เกิดจากการที่มันกัดหรือต่อย แต่เกิดจากการที่ไปโดนแล้วบี้ทำให้สารเคมีในตัวแมลงชื่อ paederin ออกมาทำให้ผิวหนังบริเวณที่สัมผัสไหม้ เป็นรอยแปลก ๆ ตามที่มือไปสัมผัส อาจเป็นเส้นเป็นทางทำให้คิดว่าเป็นงูสวัดหรือเริม บางครั้งพบลักษณะเฉพาะของโรคนี้ คือ kissing lesion คือ ถ้าเป็นที่ข้อพับจะเกิดผื่นที่เหมือนกันในด้านตรงข้าม ส่วนใหญ่มักโดนเวลากลางคืน
ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยจึงขอฝากเตือนประชาชนทั่วไปว่าให้ระมัดระวังจากแมลงชนิดนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว อาจจะพบแมลงชนิดนี้อยู่ภายในที่พักตามรีสอร์ท บ้านพักอุทยาน สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่นิยมเที่ยวป่าเขา หรือพักตามรีสอร์ท กางเต๊นท์นอน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โรคผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดกชนิดนี้ไม่ได้เป็นโรคใหม่ มีการพบในประเทศไทยหลายสิบปีแล้ว แต่ก่อนนี้มักพบบ่อยตามชานเมืองที่มีหนองน้ำ แต่ปัจจุบันพบบ่อยขึ้นทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯและในทุกฤดูกาล
มารู้จักแมลงชนิดนี้กันดีกว่า
แมลงก้นกระดก หรือ ด้วงก้นกระดก หรือ แมลงเฟรชชี่ (มักจะเจอช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Paederus fuscipes เป็นแมลงขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 7-8 มม. ส่วนหัวมีสีดำ ปีกสีน้ำเงินเข้ม และส่วนท้องมีสีส้ม ชอบงอส่วนท้ายกระดกขึ้นลง ทำให้ได้ชื่อว่าแมลงก้นกระดก เป็นแมลงที่พบเฉพาะในเขตร้อนชื้น โดยมากอาศัยบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น ใกล้หนองน้ำ ชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน ทำให้พบว่ามันจะลอดมุ้งลวดเข้ามาได้
สำหรับการรักษาเบื้องต้นเมื่อโดนแมลงหรือเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ให้ล้างด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง หรือใช้แอมโมเนียทาบริเวณที่โดนแมลงจะลดอาการแสบร้อนได้ ถ้าเป็นผื่นน้อย ๆ จะหายไปเองได้ แต่ถ้ามีการติดเชื้อแทรกซ้อนต้องให้ยาปฎิชีวนะทาหรือรับประทานด้วย การป้องกันถ้ามีแมลงมาเกาะพยายามอย่าตบ บดขยี้บนลงผิวหนังให้ปัดออกหรือกำจัดโดยวิธีอื่น หรือถ้าจะจับออกให้ใช้เทปกาวติดตัวแมลงออกมา แมลงชนิดนี้ชอบไฟในเวลากลางคืน ดังนั้นไม่ควรเปิดไฟแรงสูงทิ้งไว้เพราะแสงไฟจะล่อแมลงเข้ามา จากการทดลองพบว่าแมลงจะชอบเข้ามาถ้าใช้แสงไฟนีออนหรือหลอดไฟที่มีแรงเทียนสูงกว่า 40 วัตต์ ดังนั้นประตูหน้าต่างควรบุด้วยมุ้งลวดที่มีความถี่มาก ๆ เพื่อให้แมลงเข้ามาไม่ได้ หมั่นทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ก่อนนอนมองหาตามผนังและเพดานใกล้หลอดไฟ ก่อนใส่เสื้อผ้าควรสะบัดให้แน่ใจว่าไม่มีแมลงติดอยู่ และควรปิดประตูหรือหน้าต่างให้ดีก่อนที่จะเข้านอน
จะเห็นว่าแมลงชนิดนี้ไม่ได้อันตราย กัดต่อยแล้วถึงกับชีวิต แต่ สามารทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ ดังนั้นควรป้องกันไว้ก่อนจะดีที่สุด หากต้องการสอบถามหรือสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปได้ที่ http://www.dst.or.th/html/index.php หรือเฟสบุ๊ก ครบเครื่องเรื่องผิวหนัง ซึ่งจะมีคลิปวิดีโอสั้น ให้ชมสำหรับเรื่องแมลงก้นกระดกโดยเฉพาะ
รศ.นพ.นภดล นพคุณ
รศ.นพ.นภดล นพคุณ