ฟิตบิท เปิดตัว Versa 2 สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม สั่งงานได้จากเสียงสำหรับทุกไลฟ์สไตล์




ฟิตบิท เปิดตัว Versa 2 สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม สั่งงานได้จากเสียงสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
พร้อมด้วยฟีเจอร์สำหรับสุขภาพและการออกกำลังกายล้ำสมัย สะดวกด้วยการใช้งานได้นานกว่า   5 วัน  เพื่อติดตามการแสดงผลที่แม่นยำตลอดวันและคืน
 
นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมในการติดตามผลด้านการนอน อาทิ Sleep Score และ Smart Wake เพื่อช่วยพัฒนาพฤติกรรมการนอนซึ่งเป็นรากฐานของสุขภาพที่ดี และยังเป็น Fitbit รุ่นแรกที่สามารถใช้งานได้กับ Amazon Alexa Built-in และ Fitbit Pay ในทุกเครื่อง
มีตัวเลือกในการใช้งาน Spotify เพื่อสร้างแรงจูงใจในการขยับตัว

ฟิตบิท (NYSE: FIT) ผู้นำอุปกรณ์แวร์เอเบิลระดับโลก ประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ Fitbit Versa 2™ รุ่นใหม่ล่าสุดของสมาร์ทวอทช์ยอดนิยมในตระกูล Fitbit Versa™ โดย Versa 2 นำเสนอดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถกันน้ำได้อย่างแม่นยำ และยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sleep Score และ Smart Wake ซึ่งเป็นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับการมีสุขภาพดี การออกกำลังกาย รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่ง่ายดายยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ Versa 2 ยังเปิดตัวด้วยไมโครโฟนในตัวเครื่อง เพื่อให้สามารถใช้งานผ่านเสียงกับ Amazon Alexa ได้เป็นครั้งแรก รวมไปถึงแอปพลิเคชันแห่งเสียงเพลงอย่าง Spotify เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเล่นดนตรีผ่านแอปได้จากเครื่อง และยังมาพร้อมกับ Fitbit PayTM ในทุกเครื่อง  นอกจากนวัตกรรมล้ำสมัยภายในเครื่อง Versa 2 ยังมีประสิทธิภาพการใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีแอปพลิเคชันและรูปแบบหน้าปัดที่ใช้งานได้กว่าพันกว่ารายการ นอกจากนี้ยังมีดิสเพลย์ที่สว่างและสวยงามยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถเลือกใช้งานโหมด always-on สู่การเป็นเพื่อนคู่แท้ด้านการมีสุขภาพดีและการออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถใช้งานได้นานกว่า 5 วัน ทั้งหมดนี้อยู่ในราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนอย่าง Versa 

“ฟิตบิทเชื่อว่าการมีสุขภาพที่ดีควรเป็นของทุกๆ คน และผู้บริโภคไม่ควรต้องถูกกีดกันด้านการเข้าถึงการใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ที่ช่วยพัฒนาด้านสุขภาพของพวกเขาด้วยปัจจัยเรื่องราคา และนั่นคือสาเหตุที่เราออกแบบ Versa 2 ให้เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียมที่มีฟีเจอร์ครบครัน แต่คงความใช้งานง่ายในราคาที่จับต้องได้” นายเจมส์ ปาร์ค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟิตบิท กล่าว “เราได้มีการต่อยอดความสำเร็จของอุปกรณ์ที่ขายดีที่สุดของเราอย่าง Versa  โดย Versa 2 เป็นการเพิ่มฟีเจอร์และนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ Alexa แอปพลิเคชันส่วนขยายของ Spotify และฟีเจอร์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพการนอนที่มีความทันสมัย โดยเรามุ่งหวังให้ผู้ใช้สนใจการใช้งานสมาร์ทวอทช์กันมากขึ้น และเพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ในที่สุด”

การนอนหลับที่ดีกว่าสู่วันที่แอคทีฟกว่าเดิม
การนอนหลับเป็นรากฐานที่สำคัญของการมีสุขภาพกายและใจที่ดี และจากผลสำรวจล่าสุดของ Fitbit เราพบว่า สองในสาม หรือราว 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับการนอนเป็นอันดับแรก ทว่าหนึ่งในสาม ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันกลับรู้สึกว่าตนเองพักผ่อนไม่เพียงพออยู่เป็นประจำ  Fitbit ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรมแวร์เอเบิลด้านการนอนมากว่า 10 ปี สามารถนำข้อมูลที่เคยเข้าถึงได้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์มาไว้บนข้อมือของผู้ใช้งาน ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการติดตามพฤติกรรมการนอน เราจึงพัฒนาสิ่งที่ได้เรียนรู้มากว่า 1.5 แสนล้านคืนเพื่อพัฒนาการดูแลสุขภาพด้านการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจพฤติกรรมการนอนของตนเอง แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือพัฒนาการนอนให้ดียิ่งขึ้น:
● Sleep Score: ผู้ใช้สามารถดูคะแนนด้านการนอนหลับได้ในแอปพลิเคชัน Fitbit® เพื่อดูข้อมูลด้านคุณภาพการนอนของตนเอง โดยคะแนนเหล่านี้จะมาจากการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ (ระดับการพักผ่อนและนอนหลับ) ความกระสับกระส่ายในช่วงเวลานอน เวลาที่ตื่นและระดับการนอนหลับ หรือ Sleep Stage และหากต้องการดูรายละเอียดเรื่อง Sleep Score ที่มากขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถดูได้จากการอัปเกรดสมาชิกเป็น Fitbit Premium.  
● Smart wake: จะสามารถใช้งานได้บนสมาร์ทวอทช์ทุกรุ่นเร็วๆ นี้ โดยฟีเจอร์ Smart Wake นี้ จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการปลุกคุณให้ตื่นเมื่อถึงเวลาตื่นที่เหมาะสม เมื่ออยู่ในช่วง Light หรือ REM ของการนอนหลับ โดยจะปลุกจากการตั้งค่าและจะเว้นช่วงครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นได้
● Sleep Mode: เมื่อตั้งการใช้งานในโหมดนี้ เครื่องจะหยุดการทำงานของการแสดงค่าบนหน้าจอและปรับการตั้งค่าเตือนให้อยู่ในโหมดเงียบ เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ถูกรบกวนตลอดคืน Sleep Mode ยังสามารถใช้งานได้ ทุกๆ ครั้งที่ผู้ใช้ไม่ต้องการการรบกวน เช่นเมื่อกำลังประชุมหรือออกกำลังกาย
● Estimated Oxygen Variation Graph: อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะสามารถให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ เป็นกราฟแสดงผลที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นระดับอ็อกซิเจนในเลือดของตนเอง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกวัดด้วยเซ็นเซอร์เรดและอินฟราเรดที่อยู่ด้านหลังของเครื่อง การรู้ค่าอ็อกซิเจนในเลือดในระยะสั้นจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเรื่องการหายใจขณะนอนหลับได้มากขึ้น

นอกจากนวัตกรรมด้านสุขภาพที่เสริมเข้ามาแล้ว Versa 2 ยังมีฟีเจอร์การใช้งานอื่นๆ ที่มีอยู่ใน Fitbit รุ่นก่อนที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ อาทิ การแทร็กกิจกรรมระหว่างวัน PurePulse® 24/7 การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตั้งค่าการทำกิจกรรมตามเป้าหมายทั้ง 15+ โหมด การเชื่อมต่อกับ GPS และระบบกันน้ำได้ถึง 50 เมตร เป็นต้น

อเล็กซ่า ช่วยทำให้ฉันมีสุขภาพดีได้ไหม
ใช่แล้ว คุณสามารถใช้งาน Alexa ได้บน Versa 2 ด้วยไมโครโฟนที่ถูกฝังในเครื่อง ทำให้ Versa 2 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของ Fitbit ที่สามารถใช้งานและควบคุม Alexa ผ่านเสียงได้จากเครื่อง ทำให้ผู้ใช้สามารถนำผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Alexa ออกนอกบ้านมาอยู่บนข้อมือได้เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของการมีสุขภาพดี เช่นการสั่งให้ใช้งาน Fitbit Exercise จากข้อมือ การค้นหาสถานที่ออกกำลังกายที่ใกล้ที่สุด หรือแม้แต่การค้นข้อมูลของอาหารที่ทาน เป็นต้น  

นอกจากนี้ Alexa ยังโต้ตอบการสั่งงานผ่าน Versa 2 ด้วยการโต้ตอบผ่านข้อความบนหน้าจอ เพื่อความเป็นส่วนตัว เพียงกดปุ่มและพูดผ่านไมโครโฟนก็สามารถใช้งาน Alexa บน Versa 2 ได้แล้ว Alexa ยังสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ใช้งานในด้านอื่นๆ ในแต่ละวันได้อีกด้วย เช่นการตั้งนาฬิกาปลุกหรือการตั้งเวลา การเช็คสภาพอากาศและข่าวสารต่างๆ หรือแม้แต่การควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ภายในบ้าน และอื่นๆ อีกมากมายผ่านการสั่งงานด้วยเสียง 

เพิ่มสมาร์ทฟีเจอร์เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่า
นอกจาก Alexa ที่พร้อมใช้งานในเครื่องแล้ว Versa 2 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็น Fitbit Pay ในทุกๆ รุ่น เพื่อช่วยให้การชำระเงินโดยไม่ใช้กระเป๋าเงินหรือโทรศัพท์เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะใช้งานที่ร้านสะดวกซื้อหรือระบบการคมนาคมต่าง เช่น New York MTA OMNY, TransLink in Vancouver, Transport for London (TfL) และ Taiwan iPASS.

นอกจากนี้ Fitbit ยังนำแอปพลิเคชัน Spotify มาใส่ไว้ใน Versa 2 เพื่อให้ผู้ใช้งาน Spotify Premium สามารถฟังเพลงหรือพอร์ดแคสท์เพื่อสร้างแรงจูงใจผ่านข้อมือได้ตลอดวัน  แอป Spotify ยังทำให้คุณสามารถควบคุมการเล่นซ้ำ เปลี่ยนเพลย์ลิสท์ หรือเปลี่ยนเพลง ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้คุณสามารถสร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกายผ่านเสียงเพลงอย่างไม่มีสะดุดได้เพียงปลายนิ้ว  นอกจากนี้ Versa 2 ยังมีความสามารถในการเก็บเพลงได้มากกว่า 300 เพลงจากไลบรารี่ส่วนตัว รวมถึงการใช้งานสถานีเพลง Pandora และการใช้งานเพลย์ลิสท์บน Deezer อีกด้วย 

และเพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น Versa 2 ยังอัดแน่นด้วยสมาร์ทฟีเจอร์ต่างๆ อย่างการตั้งเตือนจากสมาร์ทโฟน เพื่อให้คุณสามารถเห็นแอปพลิเคชัน ข้อมูลโทรศัพท์ ปฏิทิน หรือข้อความต่างๆ ได้จากข้อมือของคุณ  สำหรับผู้ใช้งานผ่านระบบแอนดรอยยังสามารถใช้ไมโครโฟน ฟังก์ชันในการพิมพ์ข้อความต่างๆ ผ่านข้อมือของคุณอีกด้วย  นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกใช้งานแอปพลิเคชันและหน้าปัดนาฬิกากว่า 3,000 รายการ เพื่อสร้างข้อมูลและสถิติต่างๆ ไว้ในที่เดียว



การทำงานที่ดีขึ้น มาพร้อมกับการออกแบบที่สวยงาม
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้น Versa 2 จึงมาพร้อมกับระบบโปรเซสเซอร์ที่เร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ Versa 2 ยังมีจอ AMOLED ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อประสบการณ์และการแสดงสีที่ดีกว่า รวมไปภึงความสามารถในการเลือกใช้งานระบบ always-on ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยาวนานในการใช้งานผ่านแบตเตอรี่ได้อีกสองวัน ทำให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและสถิติต่างๆ จากข้อมือได้อย่างไม่มีสะดุด 

Versa 2 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่สุดและมีความพรีเมียมที่สุดของ Fitbit โดยได้รับการออกแบบอย่างประณีตและแม่นยำยิ่งขึ้นเพื่อให้มีดีไซน์ที่สวยงามและเหมาะสมกับผู้ใช้งานทั่วโลก Versa 2 มีความทนทานและสามารถกันน้ำได้ในความลึกถึง 50 เมตร มีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกสบายต่อผู้สวมใส่ตลอดทั้งวันและคืน นอกจากนี้ยังมีดีไซน์โค้งมนสวยงาม ตัวเรือนใช้อลูมิเนียมแบบชุบผิวด้วยเฉดสีธรรมชาติ เพื่อให้มีความสวยงามและทันสมัย และง่ายต่อการใช้งานด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว Versa 2 ยังมาพร้อมกับหน้าปัดมันเงาให้กลิ่นอายของนาฬิกาแนวคลาสสิคอีกด้วย

ขณะที่ Versa 2 Special Edition  มาพร้อมกับสายถักสี navy และ pink และตัวเรือนอลูมิเนียมสีค็อปเปอร์โรสหรือสีเทาควันบุหรี่ที่ตัดกับสายซิลิโคนสีสันสวยงาม เช่นสี navy และ olive สมาร์ทวอทช์รุ่นพิเศษทุกรุ่น จะได้รับสิทธิทดลองใช้ Fitbit Premium เป็นเวลาสามเดือนเพื่อประสบการณ์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เหนือกว่า



อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในทุกโอกาส
ฟิตบิท Versa 2 กับการออกแบบที่พัฒนายิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การประกอบกิจกรรมต่างๆ หรือการออกกำลังกายที่ล้วนเป็นคุณสมบัติร่วมของ Versa family ทั้งหมด Versa 2 มาพร้อมกับรูปแบบใหม่ทั้งสีสัน วัสดุ รวมไปถึงสไตล์ การเปิดตัวครั้งใหม่นี้ให้ทางเลือกที่หลากหลายทั้งในแง่ของไลฟ์สไตล์หรือกิจกรรมต่างๆ ดังนี้:

สายแบบคลาสสิค: ป้องกันการเกิดรอย สะดวกสบาย มีความนิ่มและกันน้ำ สายซิลิโคนแบบคลาสสิคมีสีสันใหม่ให้เลือกสรรมากมาย อาทิ black, petal, stone, midnight blue และ olive

สายที่ถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย: Versa 2 ออกแบบมาเพื่อสอดรับกับการออกกำลังกายทุกรูปแบบรวมไปถึงลุคสปอร์ต สายลักษณะที่เป็นรูของ Versa Family นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้อากาศถ่ายเท สายรูปแบบใหม่นี้ประกอบด้วยสี navy, black, glacier, frost white และ coral อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดรอยต่างๆ และการเลือกใช้วัสดุซิลิโคนที่ให้ความสะดวกสบายเช่นเดียวกับสายแบบคลาสสิค

สายที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล: ให้ความแวววาวกับตัวสายคาดและมาพร้อมกับสีสันที่สอดรับกับเทรนด์ใหม่ เช่น สี charcoal คาดสายสีส้ม สีชมพูคาดชมพู และ สีน้ำเงินคาดน้ำเงิน


ตัวสายใช้วัสดุพรีเมียมคือ หนัง Horween และประดับตกแต่งเพิ่มด้วยหนังกลับที่ออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูซึ่งสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับทุกลุคไม่ว่าเป็นงานกลางวันหรืองานกลางคืน

เทคโนโลยีการกู้ภัยอันโด่งดังของ RECCO : เทคโนโลยีการกู้ภัยอันโด่งดังของ RECCO ที่ถูกนำมาปรับใช้กับการผลิตสายที่ยังคงไว้ซึ่งความสปอร์ต ตัวสายออกแบบเป็นลักษณะสายถักซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกยิ่งขึ้นในการค้นหาสำหรับนักกู้ภัยมืออาชีพ นอกจากนี้ตัวสายยังถูกออกแบบให้มีการรัดอย่างปลอดภัยด้วยสายเวลโครซึ่งมีความทนทานสูงไม่ว่าจะอยู่ในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่เอ็กซ์ตรีมขนาดไหน นอกจากนี้การออกแบบที่ใช้ตัวสะท้อนแสงของ RECCO ยังช่วยรักษาพลังงานของอุปกรณ์ไว้ได้นานโดยไม่ต้องชาร์จ

ราคาและการวางจำหน่าย
Versa 2 มาใน สี Black กรอบคาร์บอน สี petalพร้อมกรอบอลูมิเนียมสี copper rose และ สี stone พร้อมกรอบสี mist grey โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,990 บาท ตัวอุปกรณ์มีราคาตั้งแต่ 960 บาท ถึง 3,200 บาท และ Versa 2 Special Edition สี Navy และ Pink พร้อม กรอบอลูมิเนียมสี copper rose และ สี Smoke พร้อมกรอบสี mist grey ราคา 8,990 บาท 

Versa 2 รุ่น Exclusive edition สี emerald และ plum พร้อมกรอบสี copper rose วางจำหน่าย ช่วงปลายเดือนกันยายน 2562 ในตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าชั้นนำ อาทิ B2S, Dotlife, King Power, Power Buy, Jaymart, Lazada ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศูนย์การค้าโรบินสัน และ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา






แสดงความคิดเห็น






Insurance


Advertisement