ลูกเริ่มบ่นเจ็บบริเวณหัวนมในช่วงอายุประมาณ 9 ขวบ แต่ในช่วงแรกๆคุณหมอยังไม่ฟันธงว่ากำลังจะมีหน้าอก แต่เกิดจากการที่ผิวหนังแห้งและอาจจะเสียดสีกับเสื้อผ้า (ลูกสาวผิวแห้งมากค่ะในตอนนั้น) เราจึงเริ่มดูแลเรื่องเสื้อซับในและเสื้อชั้นใน โดยการพาลูกไปเลือก และให้ลูกทาโลชั่นไว้ค่ะ

ช่วง 2 ปีตั้งแต่เริ่มมีหน้าอก ความสูงพรวดพราดมากค่ะ (ไม่ทราบว่าบ้านอื่นๆเป็นเหมือนกันหรือเปล่า) บ้านนี้ปีละ 10 ซม.เลยค่ะ ถือว่าตุนความสูงไว้ก่อนค่ะ

กลิ่นตัวเริ่มมา...เป็นอีกเรื่องที่น่าปวดหัวมากๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากสอนให้ดูแลตัวเอง ยิ่งลูกออกกำลังกายตลอดด้วย ตอนนี้ให้ใช้ครีมอาบน้ำของเดทตอลก็พอช่วยได้ระดับหนึ่งนะคะ แต่เรื่องกลิ่นตัวต้องขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน บางคนอาจจะไม่ได้มีกลิ่นมากมายค่ะ

สิวเริ่มมา... สิวฮอร์โมนของเด็กแต่ละคนก็จะแตกต่างกัน ในช่วงแรกๆของความเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมีเพียงเล็กน้อยค่ะ แต่พอใกล้มีประจำเดือนครั้งแรกแล้วจริงๆเรียกว่าสิวบุกเลยทีเดียว ในช่วงที่สิวขึ้นครั้งแรกๆเราหาซื้อครีมล้างหน้าให้ลูก แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากค่ะ แต่ถือว่าให้เค้าได้เริ่มหัดดูแลตัวเอง และเมื่อเริ่มมีประจำเดือนแล้วสิวบุกจริงจัง ทั้งสิวอักเสบ สิวแบบอุดตัน สารพัดจะมา จึงต้องหาผลิตภัณฑ์ที่มาช่วยเค้าจริงจังแล้ว คิดอยู่ 2 วันไปจบอยู่กับ La Roche Posay และได้ผลดีเกินคาด สิวยุบตั้งแต่คืนแรกที่ใช้ ไว้จะเขียนรีวิวเป็นลำดับต่อไปนะคะ

เรื่องของขน....อันนี้ขอไม่คอนเฟิร์มว่าจะเกี่ยวกับการที่จะมีประจำเดือนมาเร็วหรือช้า แต่เรื่องของขนก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องสอนลูกไปพร้อมๆกันค่ะ

เมื่อพร้อมแล้วมาดูว่าเราต้องเตรียมอะไรกันบ้างค่ะ

  1. สอนเรื่องผ้าอนามัย และซื้อผ้าอนามัยหลายชนิดหรือแบบที่คิดว่าจำเป็นจริงๆ เช่นผ้าอนามัยสำหรับกลางคืน และสำหรับกลางวัน(อย่าลืมเรื่องความยาวของผ้าอนามัยให้สอดคล้องกับลูกของเราค่ะ) ในช่วงแรกๆของการสอนเรื่องการใช้ผ้าอนามัย เราต้องคอยดูแทบจะทุกครั้ง เพราะผ้าอนามัยแต่ละยี่ห้อมีแถบกาวที่ต่างกัน วิธีใช้กับกางเกงชั้นในก็ต่างกันไป หากเป็นเด็กที่โตแล้วจะเข้าใจได้ง่ายและเร็วค่ะ ในช่วงแรกอาจให้ใส่แบบกางเกงก็ได้นะคะ เพื่อให้นอนได้สบายมากขึ้นและไม่เลอะค่ะ

2. หากเป็นไปได้อยากให้เตรียมกางเกงชั้นในสำหรับใส่นอน ซึ่งจะเป็นกางเกงชั้นในชนิดที่กันเปื้อนซึม จะช่วยให้คุณแม่ไม่เหนื่อยกับการจัดการกับผ้าปูที่นอนที่เลอะ และตอนนี้มีสำหรับกลางวันด้วยนะคะ แต่ก็ต้องดูตามความจำเป็นค่ะ เพราะค่อนข้างมีราคาพอสมควรค่ะ เราซื้อของ Wacoal เพราะเราใช้มาตั้งแต่สาวๆ พอลูกมีประจำเดือนทำให้นึกถึงเป็นที่แรกเลยค่ะ มันทำให้เราสบายขึ้นเยอะจริงๆค่ะ เพราะแม้ว่าจะใส่ผ้าอนามัยสำหรับกลางคืน ก็จะยังมีหลุดซึมออกมาเลอะที่นอน เพราะการนอนดิ้นของเด็กนั่นเองค่ะ

3. ถุงผ้าสำหรับใส่ผ้าอนามัยเตรียมใส่กระเป๋าไว้ เอาไว้ใช้เวลาฉุกเฉิน โดยเฉพาะเมื่อเปิดเทอมแล้ว จะได้ไม่ตกใจวิ่งหาผ้าอนามัย โดยในถุงผ้าหรืออาจจะเป็นกระเป๋าเล็กๆก็ได้ค่ะ ควรมีกางเกงชั้นในไว้สำหรับเปลี่ยนเผื่อกรณีที่เลอะด้วยค่ะ

4. ถุงสำหรับทิ้งผ้าอนามัยใช้แล้ว (สามารถหาซื้อได้ตาม Shopee, แมคโคร) จำเป็นมากที่ควรให้ลูกมีติดกระเป๋าเก็บผ้าอนามัยไว้ สำหรับไว้ใส่กางเกงชั้นในที่เลอะและเพื่อนำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วทิ้ง แต่อย่างไรคุณแม่ควรสอนเรื่องการห่อผ้าอนามัยก่อนทิ้งด้วยนะคะ ที่จำเป็นเพราะในบางครั้งเด็กๆมักห่อไม่แน่นแล้วผ้าอนามัยที่ใช้แล้วกางออกหลังจากลูกออกจากห้องน้ำไปแล้ว ก็ไม่น่าดูสำหรับคนเข้าห้องน้ำเป็นคนต่อไปค่ะ เป็นวิธีสอนให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องนี้ด้วยนะคะ หลังห่อเสร็จเอาใส่ถุงแล้วมัดให้แน่นค่ะ ป้องกันกลิ่นออกมาด้วยค่ะ


เมื่อมีประจำเดือนครั้งแรกแล้ว เชื่อว่าเด็กทุกคนจะบ่นเพราะไม่สบายตัว และต้องมีอะไรติดตัวตลอดเวลา แต่หากเป็นไปได้ต้องคอยเตือนให้ลูกเปลี่ยนผ้าอนามัย เป็นช่วงเวลาก็ได้ค่ะ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ในช่วงแรกจะเปลืองผ้าอนามัยมาก เพราะเค้าจะไม่รู้เลยว่าที่เห็นนั่นคือมาเยอะ มาน้อย ต้องใช้ผ้าอนามัยแบบไหน หากคุณแม่มีเวลาจึงจำเป็นต้องคอยดูเรื่องนี้เพื่อให้เค้าเข้าใจมากขึ้นด้วยค่ะ จะเป็นในช่วงเดือนแรกๆเท่านั้นแล้วเค้าจะจัดการตัวเองได้ดีขึ้นเองค่ะ

ประจำเดือนครั้งแรก....สีจะไม่แดงสด ไม่ต้องตกใจค่ะ เป็นเรื่องปกตินะคะ ในบางคนอาจจะมีประจำเดือนมากกว่า 1 สัปดาห์ และบางคนอาจจะเป็นประจำเดือน 2 ครั้งต่อเดือน เพราะฮอร์โมนยังไม่เข้าที่ สอบถามจากเด็กๆที่มีประจำเดือนมาแล้ว 2-3 ปี ได้ทราบว่ากว่าจะเข้าที่ใช้เวลาอาจจะถึง 2 ปีเลยค่ะ เรื่องเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เราสามารถบอกต่อกับลูกได้ว่าต้องเจอแบบนี้กันทุกคน ในจดทุกครั้งที่มาและที่หยุด เพื่อจะช่วยคำนวนวันที่ประจำเดือนจะมาในครั้งหน้า แต่อย่างไรก็ดี ควรมีผ้าอนามัยติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลาค่ะ

การเป็นประจำเดือนครั้งแรกของเด็กผู้หญิงทุกคนมักจะมีความสับสนอยู่มาก เด็กๆอาจเริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไป การเตรียมความพร้อมเรื่องจิตใจจึงสำคัญไม่แพ้เรื่องร่างกายเลยค่ะ เนื่องจากเด็กๆในวัยนี้เป็นวัยที่เริ่มโต มักมีความคิดเป็นของตัวเอง อารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิด จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่คุณแม่จะต้องดูแล เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า อาการก่อนประจำเดือนของเราๆนั้นก็จะมีเรื่องอารมณ์เหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นต้องให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตนเอง เพื่อให้เข้าใจและรับฟังให้มากขึ้นเมื่อมีผู้ใหญ่ตักเตือน

อาการ PMS หรืออาการก่อนมีประจำเดือนนั้น อาจจะมีหรือไม่มีแต่ก็ควรต้องพูดคุยกับลูกว่าหากมีประจำเดือนแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง ตัวบวม คัดหน้าอก อยากอาหารมากขึ้น