ปัจจุบันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในสังคม หนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เป็นภัยเงียบใกล้ตัว นั่นคือ หูดหงอนไก่ แม้ว่าโรคนี้จะไม่รุนแรงหรือเป็นอันตรายต่อชีวิต แต่โรคนี้มักสร้างความกังวลและทำลายความมั่นใจ จนส่งผลต่อสุขภาพจิตทั้งต่อตนเองและคู่รัก ดังนั้นเพื่อหยุดพฤติกรรมเสี่ยงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันโรคหูดหงอนไก่อย่างถูกต้อง 

หูดหงอนไก่ คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า Human Papilloma Virus หรือ (HPV) สามารถถ่ายทอดผ่านการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่มีเชื้อ HPV บนผิวหนัง และส่งผ่านจากคนสู่คนในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักได้

การติดเชื้อ HPV ในผู้ชายมักขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก ซึ่งเป็นเนื้องอกเยื่อบุผิวที่ไม่ร้ายแรง ในผู้ชายส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อ HPV มักไม่มีอาการแสดงและหายไปเอง แต่หากเชื้อ HPV ไม่หายไปก็อาจทำให้เกิดหูดที่ปลายองคชาต บนถุงอัณฑะ และรอบทวารหนัก หรือมะเร็งบางชนิดได้ ซึ่งหูดหงอนไก่ที่ขึ้นรอบอวัยวะเพศอาจมีรูปร่างแบนราบและมีผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ โดยทั่วไปหูดหงอนไก่จะมีขนาดโตขึ้นและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว  หากมีประวัติเปลี่ยนคู่นอนหลายคนและเคยติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน ยิ่งทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น

- มีอาการแสบ คัน 

- มีสารคัดหลั่ง

- ติ่งเนื้อที่มีลักษณะขรุขระ สีขาวหรือสีชมพู ขยายตัวเป็นวงกว้างคล้ายดอกกะหล่ำ 

- มีคู่นอนหลายคน

- มีเพศสัมพันธ์เร็วตั้งแต่อายุยังน้อย

- การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อไวรัสโรคหูดหงอนไก่

- ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โรคเบาหวาน ติดสารเสพติด

- ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV

- สวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งขณะมีเพศสัมพันธ์

- ไม่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย

การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหูดหงอนไก่ และที่สำคัญยังเป็นการป้องกันการเป็นพาหะนำเชื้อ HPV ไปสู่ผู้หญิงอีกด้วย  ซึ่งในปัจจุบันมีวัคซีน HPV ที่ป้องกันการเกิดโรคหูดหงอนไก่ได้ นั่นคือ วัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18) ซึ่งสามารถฉีดได้ทั้งผู้ชายละผู้หญิง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันโรคมะเร็งทวารหนักอีกด้วย    

อย่างไรก็ตามการติดเชื้อ HPV ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น แต่คุณผู้ชายก็สามารถติดเละแพร่เชื้อได้เช่นกัน ดังนั้น การฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด หากพบความผิดปกติที่น่าสงสัย ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ก่อนลุกลามเป็นเนื้อร้ายได้