โรคริดสีดวงทวาร
มักพบมากในคนวัยทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่มักไม่ไปพบแพทย์ โรคนี้เป็นโรคที่เป็นกันได้ทั่วไป ซึ่งหากหาทางรักษาเอง ไปหาข้อมูลผิด ๆ มาก็อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ ทางที่ดีควรไปพบแพทย์และรับการรักษา
สาเหตุของโรค
พฤติกรรมการกินมีผลอย่างมากกับโรคริดสีดวงทวารหนัก การกินอาหารที่มีแป้งและเนื้อสัตว์สูง ละเลยผักผลไม้ซึ่งเป็นอาหารที่มีกากใยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ ดื่มน้ำน้อยไป นั่งหรือยืนนานเกินไป ไม่ค่อยออกกำลังกาย ชีวิตประจำวันเครียดและเร่งรีบ การใช้ยาสวนหรือยาระบายพร่ำเพรื่อ การใส่กางเกงคับหรือรัดรูปเกินไป ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยการเกินริดสีดวงทวาร เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ท้องผูกเรื้อรัง หรือท้องเสียบ่อยเกินไป
ซึ่งภาวะขับถ่ายไม่ราบรื่นยังมีสาเหตุอื่นได้อีก เช่น การตั้งครรภ์ เป็นโรคตับแข็ง เป็นผู้สูงอายุ เป็นต้น
อาการของโรค
เส้นเลือดรอบ ๆ ปากทวารหนักบวมและพองตัว เกิดเป็นติ่งเนื้อยื่นออกมาจากปากทวารหนัก เกิดการปริแตกมีเลือดปนออกมากับอุจจาระหรือไหลตามอุจจาระออกมา
ติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาอาจออกมาเฉพาะเวลาขับถ่าย หรือยื่นตลอดเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับระยะที่เป็น โดยแบ่งได้ 4 ระยะ
ระยะแรก -ติ่งเนื้ออยู่ปากทวาร มีเลือดออกมากับอุจจาระ
ระยะที่สอง -ติ่งเนื้อโผล่ออกมาเวลาเบ่งถ่าย แต่ยังหดกลับเข้าไปได้เอง
ระยะที่สาม -ติ่งเนื้อโผล่ตลอดเวลา ต้องใช้นิ้วช่วยดันกลับ
ระยะสุดท้าย -ติ่งเนื้อยื่นออกมามาก มีอาการคัน ปวดบวมอักเสบ ใช้นิ้วดันกลับเข้าไปไม่ได้ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง
ริดสีดวงทวารไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง หากรับประทานอาหารเหมาะสมและดูแลสุขอนามัยให้ถูกต้อง รวมถึงการขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอ โดยรวมโรคนี้เกิดจากการขับถ่ายไม่เป็นเวลา การปล่อยให้ท้องผูกบ่อย ๆ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การรับประทานผักผลไม้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับกากใยสารอาหาร ควรดื่มนมหรือน้ำผักผลไม้สด ๆ ทุกเช้าเพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ และควรดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร นอกจากนี้ยังควรออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ปล่อยให้ตัวเองเครียดเกินไป