ข้าวโพด Corn
ข้าวโพดเป็นพืชที่ปลูกง่าย โดยใช้เวลาเพียง 40-50วัน ก็จะได้ลิ้มลองความกรอบหวาน มัน ของฝักข้าวโพดอ่อนแล้ว ฝักข้าวโพดได้รับการห่อหุ้มอย่างดีในเปลือกหนาแน่น หากเราร่อย ๆ ลอกเปลือกนี้ออก ก็จะพบกับเส้น ใหม่สีเขียวอ่อนใส นุ่ม อีกชั้นหนึ่ง ฝักของข้าวโพดอ่อนสีครีมยาว เรียว เราจะเห็นเมล็ดเล็ด ๆ เรียกว่า “ไข่ปลา” เรียงเป็นแถวละเอียด เมล็ดไข่ปลานี้จะดตไปเป็นเมล็ดข้าวโพดอวบอร่อย
ข้าวโพดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Zea mays Linn. เป็นพืชในวงศ์ Granineae ส่วนชื่ออื่น ได้แก่ ข้าวแช่ (แม่ฮ่องสอน)) , ข้าวสาลี (ภาคเหนือ) ,โพด (ภาคใต้)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
จัดเป็นธัญพืช มีลำต้นตั้งตรง อวบ แข็งแรง สูงถึง 4 เมตร มีรากค้ำจุนตรงโคนต้น ใบเป็นเส้นตรง ปลายแหลม ยาว 40-100 ซม. สังเกตเห็นเส้นกลางใบได้ชัดเจน ผลออกเป็นฝักทรงกระบอกยาว หุ่มด้วยกาบบางหลายชั้น ฝักอ่อนสีเขียว พอแก่จะเปลี่ยนเป็นสีนวล เรียกว่า เปลือกข้าวโพด มีเมล็ดเรียงกันเป็นจำนวนมากหลายแถว เมล็ดค่อนข้างกลม ปลายมนเรียบเป็นมัน มีสีเหลืองนวลน่ากิน
แหล่งที่พบ
เป็นพืชพื้นเมืองของอเมริกัน ปัจจุบันปลูกกระจายทั่วไปในเขตร้อนและอบอุ่น
ประโยชน์ทางยาและอาหาร
ฝักข้าวโพดอ่อนมีคุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างน้อยจึงไม่เหมาะที่จะกินดี่ยว แต่เหมาะที่จะกินร่วมกับอาหารอื่น เช่น ปัดปักรวมมิตร ราดหน้า แกงเลียง แกงแค ฯลฯ หรืออยู่ในสำรับผัก เครื่องเคียง สำหรับจิ้ม น้ำพริกต่าง ๆ กินสด ๆ รสหวานเล็กน้อย อร่อยพร้อมได้วามินซีที่ช่วยให้เหงือกแข็งแรง นอกจากนี้ส่วนอื่นๆ ของข้าวโพดก็มีสรรพคุณอีกด้วย
~ราก- ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้อาเจียนเป็นเลือก
~ต้น- แก้นิ่ว แก้ชางขดมยน้ำตาล แก้ไข้ทับระดู บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ เจริญอาหาร
~ดอก- ขับปัสสาวะ ขับร้อน บำรุงตับ ขับน้ำดี แก้ไตอักเสบ ตับอักเสบ ความดันโลหิตสูง แก้ถุงน้ำดีอักเสบ นิ้วในถุงน้ำดี เบาหวาน อาเจียนเป็นเลือด โพรงจมูกอักเสบ เลือดกำเดาออกง่าย
~เมล็ด- ขับปัสสาวะ บำรุงกระเพาะอาหาร บำรุงหัวใจ ปอด ทำให้เจริญอาหาร พอกแผลทำให้เยื่ออ่อนนุ่ม ไม่เกิดความระคายเคือง ระงับอาการคลื่นไส้
~ซัง- ถอนพาสำแดง ถอนพิษร้อนและพิษยา แก้ปัสสาวะขัดหรือเป็นนิ่ว แก้พิษตานซาง ยาห้ามระดูตกมาก เป็นยาผิดโลหิต บำรุงม้าม แก้บวมนั้น แก้บิด ท้องร่วง
~ฝอย- รักษาโรคทางดินปัสสาวะ รักษาโรคไตอักเสบเรื้อรัง โรคนิ่ว ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ขับปัสสาวะ พอกแผลทำให้เนื่ออ่อนนุ่ม ระงับอาการคลื่นไส้ อาเจียนและรักษากามโรค
ส่วนคุณค่าทางอาหารที่โดดเด่น ถ้าเป็นข้าวโพดดิบ คุณค่าอาหารต่อ 100 กรัม ให้พลังงานร่างกาย 108 กิโลแคลอรี,คาร์โบไฮเดรต 20.4 กรัม , ฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม, วิตมินซี 13 มิลลิกรัม
ส่วนข้าวโพดต้ม (เหลือง) คุณค่าอาหารต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 111 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต 16.1 กรัม, ฟอสฟอรัส 47 มิลลิกรัม และที่ค่อนข้างมากเลย คือเบต้าแคโรทีน 494 ไมโครกรัม