1. เป็นครีมนวดผมชนิดเข้มข้น
ถือว่าเป็นครีมบำรุงผมชนิดธรรมชาติที่เข้มข้นมากๆก็ว่าได้ หากใครมีผมที่มักแตกปลาย หรือปลายมักแห้งกรอบ ลองใช้น้ำมันพร้าวเพื่อช่วยบำรุง อย่าลืมหมักเอาไว้สักระยะในแต่ละครั้งนะคะ

2. ป้องกันการสูญเสียโปรตีนในเส้นผม
ด้วยโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำมันพร้าว จึงสามารถช่วยป้องกันการสูญเสียโปรตีนของเส้นผมได้ และยังทำให้เส้นผมแข็งแรง ป้องกันผมเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

3. ช่วยเรื่องการงอกของเส้นผม
หลายๆคนมีความเชื่อว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยเรื่องการงอกเส้นผม เพราะสามารถใช้นวดหนังศรีษะเพื่อให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีโดยรวมต่อเส้นผมรวมไปถึงรากผมด้วย

4. ป้องกันรังแค
ในน้ำมันมะพร้าวมีสารป้องกันเชื้อราและป้องกันแบคทีเรีย ซึ่งช่วยต่อสู้กับปัญหารังแคและช่วยเรื่องหนังศรีษะแห้งได้ดี รวมถึงอาการคันหนังศรีษะและหนังศรีษะที่ลอกเป็นแผ่นเป็นขุย

5. ช่วยลดปัญหาผมแตกปลาย
ประโยชน์โดยทั่วๆไปของน้ำมันมะพร้าวคือการช่วยลดปัญหาผมแตกปลาย และยังเคลือบปลายผมได้ดี

6. เพิ่มความเงางามให้เส้นผม
เพียงหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำจะช่วยให้เส้นผมเงางามขึ้นได้ และยังดูสุขภาพดีอีกด้วย

ใช้น้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยลูบให้ทั่วเส้นผม หากผมมักชี้ฟูสามารถใช้ตอนที่ผมกำลังหมาดๆเพื่อกระจายได้ทั่วถึง 
Applying a small amount of coconut oil to the ends of your hair can help control frizz and flyaways, leaving your hair smoother and more manageable.

น้ำมันมะพร้าวมี SPF8 จากธรรมชาติ แม้แลดูเล็กน้อย แต่ก็ช่วยป้องกันได้บ้าง และบำรุงผมไปในคราวเดียวกัน ที่สำคัญมาจากธรรมชาติ

ใครมีปัญหาเส้นผมพันกันและสางออกยาก หลังจากที่ได้ใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผมจะค่อยๆดีขึ้น ลดลดผมหลุดร่วงจากการสางผมอีกด้วย

หากใช้อุปกรณ์ในการจัดแต่งทรงผม ทั้งที่แบบมีความร้อน หรือใช้สารเคมีต่างๆ ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวป้องกันเป็นเหมือนปราการด่านแรก เพื่อให้ผมเสียน้อยลง

แม้น้ำมันมะพร้าวจะมีประโยชน์มาก แต่หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจพบปัญหาผมเหนียวและหนัก ดังนั้นให้ลองในปริมาณน้อยๆก่อนค่ะ และไม่จำเป็นต้องทำบ่อยมาก อาจจะสัปดาห์ละครั้งสำหรับการหมักผม และหากต้องการใช้เพื่อช่วยลดผมชี้ฟูแนะนำในปริมาณน้อยๆค่ะ รวมทั้งแม้จะมาจากธรรมชาติ แต่สำหรับบางคนอาจจะมีอาการแพ้ก็เป็นได้ ฉะนั้นหากเป็นไปได้ให้ทดสอบกับผิวหนังในปริมาณเล็กน้อยก่อนนะคะ