นอกจากการเลือกซื้อชุดว่ายน้ำแล้ว การซักก็เป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้ เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของชุดว่ายน้ำสุดโปรดของเราได้ การดูแลชุดว่ายน้ำให้ถูกวิธีนอกจากจะช่วยคงเรื่องคุณภาพ ยังทำให้การยืดหยุดยังคงใช้งานได้ดีรวมไปถึงสีสันที่จะคงอยู่กับเราไปอีกนาน มาดูวิธีกันค่ะ
1. อ่านป้ายกำกับ
เสื้อผ้าทุกชนิดควรอ่านป้ายให้ดี จะมีวิธีการดูแลของชุดแต่ละชนิด ชุดว่ายน้ำก็เช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการซัก บางชุดอาจจะต้องซักต่างจากชุดอื่นๆ เช่นซักมือเท่านั้น หรือห้ามใช้สารใดๆก็ตามในการซัก ฉะนั้นอ่านก่อนนะคะ
2. ซักน้ำเปล่าทันทีหลังใช้เสร็จ
หากเราไปสระว่ายน้ำสาธารณะหรือทะเลและยังไม่สะดวกซัก อย่างน้อยๆต้องซักด้วยน้ำเปล่าเพื่อนำเอาคลอรีน, เกลือ, ทรายหรือเศษสกปรกอื่นๆที่ติดตามชุด วิธีนี้จะช่วยถนอมชุดของเราและไม่ทำให้สีซีดเร็วเกินไปด้วยค่ะ
3. ซักด้วยมือ
ซักชุดว่ายน้ำแนะนำให้ใช้น้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิปกตินะคะ ใช้น้ำยาซักผ้าสำหรับซักชุดว่ายน้ำโดยเฉพาะ หรือสูตรอ่อนโยนต่างๆก็ได้ค่ะ เลี่ยงใช้สารฟอกขาว ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะจะทำลายเนื้อผ้าได้ค่ะ
4. แช่ให้ถูกวิธี
เวลานำชุดลงแช่ ไม่ควรบิดแรงๆ ให้ใช้วิธีขยำๆ เพื่อให้ทรายออกหรือแม้กระทั่งคราบของครีมกันแดดก็ตาม ไม่ควรดึงยืดแรงๆเพราะทำให้เสียทรง และแช่ไว้ 15-30 นาที เพื่อให้คราบต่างๆหลุดออก อย่าลืมว่าน้ำยาที่แช่ต้องเป็นน้ำยาสูตรอ่อนโยนหรือน้ำยาเฉพาะสำหรับซักชุดว่ายน้ำ
5. ล้างน้ำให้สะอาด
หลังจากแช่แล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จนกระทั่งน้ำใส บีบน้ำออกจากชุดว่ายน้ำ ห้ามบิดชุดว่ายน้ำเด็ดขาย ใช้วิธีบีบเท่านั้นค่ะ หรือห่อด้วยผ้าเช็ดตัวแล้วบีบเพื่อให้น้ำส่วนเกินออกให้มากที่สุด
6. การตากที่ถูกวิธี
การตากที่ถูกวิธีคือการตากในแนวราบ โดยอาจพาดที่ราวตากผ้า หากไม่จำเป็นไม่ควรแขวนกับไม้แขวนเพราะจะทำให้ชุดยืดและเสียทรงได้ ควรเลี่ยงแสงแดดแรงๆนะคะ ที่สำคัญไม่ควรเก็บใส่ถุงทั้งๆที่ยังเปียก หรือหากจำเป็นเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ควรรีบนำออกผึ่ง เพื่อเลี่ยงเชื้อราด้วยค่ะ
7. เลี่ยงการซักด้วยเครื่องและเลี่ยงการอบผ้า
เครื่องทั้งสองชนิดต่างทำลายชุดว่ายน้ำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทั้งทำให้ยืดย้วยไวขึ้นอีกด้วย
8. สลับชุดว่ายน้ำ
เพื่อยืดอายุการใช้งานของชุดโปรด เราอาจจะต้องมีชุดสำรองสำหรับการเปลี่ยนสลับกันไป และเพื่อให้ทุกครั้งที่เราซักได้ตากให้แห้งดี