อาหารเสริมสำหรับผู้หญิงวัย 40+: ดูแลสุขภาพในทุกมิติ พร้อมรายชื่ออาหารเสริมแต่ละอย่าง



อาหารเสริมมีบทบาทสำคัญในการช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ร่างกายต้องการในวัย 40+ ซึ่งเป็นช่วงที่สุขภาพร่างกายอาจเปลี่ยนแปลงจากฮอร์โมนและการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แต่ละหมวดอาหารเสริมมีความสำคัญเฉพาะด้าน เช่น การดูแลกระดูก บำรุงหัวใจ เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความงามจากภายใน



1. แคลเซียมและวิตามินดี

แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน และช่วยในกระบวนการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท ส่วนวิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้เสริมสร้างกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ควรกินแคลเซียมและวิตามินดีร่วมกัน หากร่างกายขาดวิตามินดี การดูดซึมแคลเซียมจะลดลง ทำให้แคลเซียมที่รับประทานไม่ถูกนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การกินแคลเซียมควรควบคู่กับวิตามินดีเพื่อเสริมประสิทธิภาพ

แหล่งอาหารเสริมและปริมาณแนะนำ
- แคลเซียม: 1,000–1,200 มก./วัน (สำหรับผู้หญิงวัย 40+)
อาหารเสริมควรเลือกแบบที่มี แคลเซียมคาร์บอเนต หรือ แคลเซียมซิเตรต
- วิตามินดี: 600–800 IU/วัน (หรือมากกว่าในผู้ที่ขาดแคลน)
หากเลือกอาหารเสริมควรใช้วิตามินดีในรูปแบบ D3 (cholecalciferol) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า D2

วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
ควรรับประทานแคลเซียมพร้อมอาหาร เพื่อเพิ่มการดูดซึม
รับประทานวิตามินดีในมื้ออาหารที่มีไขมันเล็กน้อยเพื่อเพิ่มการดูดซึม

หมายเหตุ
การได้รับแคลเซียมมากเกินไปโดยไม่มีการออกกำลังกายอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต
แสงแดดเป็นแหล่งของวิตามินดีตามธรรมชาติ ควรออกไปสัมผัสแสงแดดประมาณ 10-15 นาที/วัน

ยี่ห้อไหนดีนะ?
ประกอบด้วยแคลเซียม 600 มก. และวิตามินดี 400 IU ในเม็ดเดียว
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมกระดูกและลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
- Kirkland Signature Calcium 600 mg + D3>> https://s.shopee.co.th/60BYsK5Mt3
แคลเซียมพร้อมวิตามินดีในปริมาณเหมาะสม สำหรับการดูแลกระดูกและสุขภาพทั่วไป
- Blackmores Calcium + D3>> https://s.shopee.co.th/1B6J7UrM3y
เสริมแคลเซียมและวิตามินดีในสูตรที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี


2. วิตามินบีรวม (B-Complex)
วิตามินบีมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างพลังงาน บำรุงสมอง ระบบประสาท และช่วยลดความเสี่ยงของภาวะโลหิตจาง โดยเฉพาะ B6, B12 และโฟเลต (B9) ที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงวัย 40+
- B6: ช่วยผลิตสารสื่อประสาท ลดความเสี่ยงซึมเศร้า
- B12: สำคัญต่อระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง
- โฟเลต: ลดระดับโฮโมซิสเทอีนที่อาจทำลายหลอดเลือดหัวใจ

แหล่งอาหารและปริมาณที่แนะนำ
-B6: กล้วย, อกไก่, มันฝรั่ง (1.5–2 มก./วัน)
- B12: เนื้อสัตว์, ไข่, ตับ (2.4 ไมโครกรัม/วัน)
- โฟเลต: ผักใบเขียวเข้ม, ส้ม, ธัญพืช (400 ไมโครกรัม/วัน)

วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
ควรรับประทานพร้อมอาหารเพื่อเพิ่มการดูดซึม หากเลือกแบบเสริม รับประทานในตอนเช้าหรือช่วงกลางวันเพื่อสอดคล้องกับการผลิตพลังงานของร่างกาย

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง:ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมวิตามินบีในปริมาณสูง

ยี่ห้อไหนดีนะ?
- Blackmores Multivitamin for Women >> https://s.shopee.co.th/8fCK3PUN1j
วิตามินรวมสำหรับผู้หญิง มีส่วนผสมของวิตามินบีครบถ้วน ช่วยเสริมพลังงานและลดความเหนื่อยล้า
- Nature Made Super B-Complex >> https://s.shopee.co.th/40QUUuAZhT
มีวิตามินบีรวมที่จำเป็น และวิตามินซีเสริมช่วยบำรุงระบบประสาท
- MegaFood Balanced B Complex >> https://s.shopee.co.th/7pdD3zQS98
ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ปลอดสารสังเคราะห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารเสริมแบบออร์แกนิก


3. โอเมก้า-3
กรดไขมันโอเมก้า-3 (EPA และ DHA) ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ บำรุงสมอง ลดการอักเสบในร่างกาย และส่งเสริมสุขภาพดวงตา

แหล่งอาหารและปริมาณที่แนะนำ
ปลาแซลมอน, แมคเคอเรล, ทูน่า (250–500 มก. ของ EPA+DHA/วัน)
เมล็ดแฟลกซ์, เมล็ดเจีย, วอลนัท สำหรับผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์
สำหรับผู้มีปัญหาหัวใจ: 1,000 มก./วัน

วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
ควรรับประทานพร้อมอาหารที่มีไขมันเพื่อเพิ่มการดูดซึม หากเลือกน้ำมันปลาควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการกรองสารปรอท

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานโอเมก้า-3

ยี่ห้อไหนดีนะ?
- Blackmores Fish Oil 1000 mg >> https://s.shopee.co.th/2fv6uahYq2
น้ำมันปลาคุณภาพสูง มีกรดไขมัน EPA และ DHA ช่วยลดการอักเสบ บำรุงหัวใจและสมอง
- Nordic Naturals Ultimate Omega >> https://s.shopee.co.th/BDlw3GOzw
มีปริมาณโอเมก้า-3 สูง บริสุทธิ์และผ่านการตรวจสอบคุณภาพ
- Now Foods Omega-3 >> https://s.shopee.co.th/9zhheAQUIa
น้ำมันปลาจากธรรมชาติ ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพทั่วไป


4. สารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามินซี, วิตามินอี, ซีลีเนียม)
ปกป้องเซลล์จากการเสื่อมสภาพและความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย และเสริมภูมิคุ้มกัน
- วิตามินซี: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บำรุงผิว
วิตามินอี: ปกป้องผิวและเนื้อเยื่อ
ซีลีเนียม: ลดความเสี่ยงมะเร็งบางชนิด

แหล่งอาหารและปริมาณที่แนะนำ
วิตามินซี: ฝรั่ง, ส้ม, มะขามป้อม (75–100 มก./วัน)
วิตามินอี: อัลมอนด์, เมล็ดทานตะวัน, น้ำมันพืช (15 มก./วัน)
ซีลีเนียม: ถั่วบราซิล, ปลา, ไข่ (55 ไมโครกรัม/วัน)

วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
- วิตามินซีควรรับประทานหลังอาหาร หรือเลือกแบบ slow-release เพื่อการดูดซึมต่อเนื่อง
- วิตามินอีควรรับประทานพร้อมอาหารที่มีไขมัน

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
การรับประทานวิตามินอีในปริมาณสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออกในผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวช้า

ยี่ห้อไหนดีนะ?
วิตามินซี
- Blackmores Bio C 1000 mg >> https://s.shopee.co.th/AKKY2x2lQR
วิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน มีส่วนผสมของไบโอฟลาโวนอยด์
- Nature's Bounty Vitamin C >>  https://s.shopee.co.th/9pOHS6cFWU
วิตามินซีชนิดแคปซูล เหมาะสำหรับเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินซีชนิดผง รสชาติดี ชงดื่มง่าย

วิตามินอี
- Nature Made Vitamin E >> https://s.shopee.co.th/3q74JBNcDk
วิตามินอีแบบซอฟต์เจล ช่วยบำรุงผิวและเซลล์ร่างกาย
- Solgar Vitamin E >> https://s.shopee.co.th/3LAniIbuUb
วิตามินอีจากธรรมชาติ ปลอดสารสังเคราะห์

ซีลีเนียม
- Now Foods Selenium 200 mcg >>  https://s.shopee.co.th/8zpASl6KIP
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย


5. คอลลาเจน
ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว บำรุงกระดูกและข้อ

แหล่งอาหารและปริมาณที่แนะนำ
- คอลลาเจนเปปไทด์ในรูปแบบผงหรือแคปซูล (5–10 กรัม/วัน)
- แหล่งธรรมชาติ: น้ำซุปกระดูก, ปลาทะเลน้ำลึก

วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
ผสมในน้ำหรือเครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ กาแฟ ควรรับประทานตอนเช้าหรือก่อนนอนเพื่อช่วยการฟื้นฟูเซลล์

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ เนื่องจากอาจมีสารปนเปื้อน

ยี่ห้อไหนดีนะ?
- Neocell Super Collagen + C  >> https://s.shopee.co.th/5Kvs69hS4Y
คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 พร้อมวิตามินซี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอย
- Vital Proteins Collagen Peptides >> https://s.shopee.co.th/1B6J8Z8thE
คอลลาเจนเปปไทด์ที่ผสมในเครื่องดื่มได้ง่าย ช่วยบำรุงผิว กระดูก และข้อ
คอลลาเจนในรูปแบบแคปซูลจากญี่ปุ่น ใช้ง่าย เหมาะสำหรับการดูแลผิว


6. โปรไบโอติกส์
ช่วยเสริมสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องผูก และเสริมภูมิคุ้มกัน

แหล่งอาหารและปริมาณที่แนะนำ
- โยเกิร์ต, นมเปรี้ยว, กิมจิ, เทมเป้
- อาหารเสริมโปรไบโอติกส์: ควรมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต 1–10 พันล้าน CFU/วัน

วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
บประทานตอนท้องว่าง เช่น ก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอน เพื่อให้จุลินทรีย์เข้าสู่ลำไส้ได้ดีที่สุด

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันหรือภาวะลำไส้รั่วควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานโปรไบโอติกส์

ยี่ห้อไหนดีนะ?
- Vistra Lactic Acid Bacteria  >> https://s.shopee.co.th/6pkft9VTZY
มีจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้และเสริมภูมิคุ้มกัน
- Culturelle Digestive Health Probiotic  >> https://s.shopee.co.th/2qEX7qS1yR
โปรไบโอติกส์ชนิดแคปซูล เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องอืดหรือระบบย่อยอาหารไม่ปกติ
- Garden of Life Dr. Formulated Probiotics  >> https://s.shopee.co.th/7ANWHrABV1
โปรไบโอติกส์ที่มีสายพันธุ์จุลินทรีย์หลากหลาย ปลอดสารสังเคราะห์

หมายเหตุ: ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมใด ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสุขภาพและความต้องการของทุกคนนะคะ

Tag :




แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement