อยากรู้ไหมว่าทำไมผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงมักเลือกคู่ผิดๆอยู่ร่ำไป ก่อนอื่นมาลองสำรวจตัวเองสักนิดว่าทำไมความสัมพันธ์ครั้งก่อนจึงจบลงไปอย่างง่ายด่าย คุณมีความคิดตรงกับข้อไหนข้างล่างนี้หรือไม่
คุณมักจะคิดอยู่เสมอว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
และคุณสามารถช่วยเหลือเขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของการครองคู่ เพราะการที่จะอยู่ร่วมกับใครสักคน การให้อย่างเดียวไม่ช่วยให้หัวใจของคุณอิ่มสุขได้ คู่รักควรมีการให้และการรับ อย่าได้คิดว่ายิ่งให้เขามากเท่าไหร่แล้วเขาจะยิ่งมองเห็นคุณค่า เพราะคุณค่าของตัวคุณไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาด้วยวิธีนี้
คุณคิดว่าควรจะอยู่กับคนนี้
เนื่องจากมีสาเหตุให้รีบเลือกเช่น อายุเยอะแล้วไม่ควรเลือกมาก เพราะไม่อย่างนั้นจะพลาดรถด่วนขบวนสุดท้ายที่กำลังจะผ่านไป เหตุผลนี้จะยิ่งคอยบั่นทอนคุณค่าในตัวคุณลงไปเรื่อยๆ ทำไมไม่ลองเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ว่ากับเขาคู่ควรกับคุณเพราะ.. และถ้าคำนวณดูแล้วเห็นว่าเขาไม่คู่ควรกับคุณ การเป็นเพื่อนกันก็น่าจะเหมาะกว่า รออีกสักนิดให้คนที่คลิกกับคุณจริงๆเข้ามาในชีวิตดีไหม
หากคบกับเขาแล้วคุณรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ
ถ้าคุณทำให้เขาเสียใจหรือโกรธ เช่นรู้ทั้งรู้ว่าเวลาออกไปกินข้าวด้วยกันควรช่วยกันออกเงิน แต่เขากลับให้คุณเป็นฝ่ายออกเงินเลี้ยงเขาหลายๆครั้งโดยอ้างว่าไม่ค่อยมีเงิน (แต่เขากลับมีเงินซื้อมือถือใหม่) แต่คุณก็ไม่กล้าพูดไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่าเขาจะเสียใจ หรือกลัวว่าเขาจะไม่รัก แค่นี้ก็พอจะมองเห็นเงารางๆของความทุกข์แล้วล่ะถ้าคุณตัดสินใจอยู่กับผู้ชายคนนี้
คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนสวย
และคงไม่มีผู้ชายคนไหนย่างกรายเข้ามาในชีวิตคุณอีกแล้วเป็นแน่ แต่คนนี้ให้โอกาสกับคุณ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้หลุดลอยจงรีบคว้ามันไว้ ความคิดแบบนี้ผิดมหันต์ เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง นอกจากคุณไม่เห็นคุณค่าของตัวเองแล้ว คุณยังรีบร้อนไปคว้าเอาใครก็ไม่รู้ที่ยังไม่ได้รู้จักมักจี่กันเลยเข้ามาในชีวิต ระวังจะต้องรีบร้อนผลักไสเขาออกไปจากชีวิตก็แล้วกัน
ตัดสินใจในระยะเริ่มต้นความสัมพันธ์
ระยะแรกที่เพิ่งคบกันเป็นช่วงเวลาแสนหวานของคนสองคน ต่างก็อยากแสดงสิ่งดีๆออกมาให้อีกฝ่ายพึงพอใจ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งใช้ช่วงเวลานี้รีบร้อนตัดสินใจ เนื่องจากความหวานของความรักมักมาบดบังความเป็นจริง จนทำให้คุณมองข้ามอะไรหลายๆอย่าง
ทีนี้มาลองดูวิธีเลือกคู่ใหม่กันบ้าง
1. เลือกคนที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
มีบางคนที่สามารถดึงสิ่งดีๆในตัวเราออกมาได้อย่างเต็มที่ นั่นคือคนที่ยินดีรับฟังปัญหาเวลาที่เราทุกข์ ยินดีเมื่อเรามีความสุข สนับสนุนและให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของเราในทุกๆทาง คนที่คุณพูดคุยด้วยได้ทุกเรื่องและสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายที่เอาแต่ติ มองโลกในแง่ร้าย ไม่เคยเข้าข้างและเป็นฝ่ายเดียวกับคุณ คนเหล่านี้มีแต่จะคอยดึงเอาพลังดีงานของชีวิตออกไปจากตัวคุณ
2. อย่าเลือก "วัตถุ" มากกว่า "จิตใจ"
ก่อนอื่นถ้าคุณมีโอกาสรู้จักหนุ่มน่ารักสักคน ขอให้ทำความรู้จักและมองลึกเข้าไปในหัวใจเขา อย่ายอมให้หน้าตาหล่อเหลาและรูปร่างแมนกำยำ รถเบนซ์สปอร์ตที่เขาขับหรือเงินเดือนเหยียบแสนที่เขาได้รับมาบดบังตัวตนจริงๆของเขา ลองนั่งคิดแล้วเขียนออกมาเป็นข้อๆเลยว่า อะไรที่จำเป็นจริงๆที่คู่รักของคุณควรมี เรียงตามลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย เช่น ไม่เจ้าชู้ ใจเย็น เป็นที่พึ่งและเป็นที่ปรึกษาของเราได้ เป็นคนมีศีลธรรม ซื่อสัตย์ รักครอบครัว มีอารมณ์ขัน ฯลฯ แล้วลองพิจารณาหนุ่มคนใหม่ที่กำลังดูใจกันอยู่นั้นมีคุณสมบัติตามที่เราต้องการจริงๆหรือเปล่า หลังจากคบกันไปสักพักแล้วเขาเป็นคนที่คุณเปิดใจคุยได้ในเรื่องที่คุณไม่กล้าคุยกับใครมาก่อนหรือเปล่า อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่คุณต้องการทุกข้อหรอก เพราะฉะนั้นดูเขาในหัวข้อหลักๆ ที่คุณคิดว่าจำเป็นกับชีวิตคู่ก็น่าจะพอ
3. คุณเป็นคนอย่างไร จงเลือกคนที่เข้ากับคุณได้
ผู้ชายหลายคนเลือกผู้หญิงที่เข้ากับนิสัยของเขาได้ โดยไม่ยึดติดว่าจะคบกันมานานแค่ไหน แต่ผู้หญิงกลับมีนิสัยตรงกันข้าม เมื่อเธอคบกับใครสักคนก็ยังติดนิสัยเดิมๆว่าคนคนนี้เป็นคนที่เธอจะแต่งงานด้วย โดยที่ไม่ได้ดูปัจจัยอื่นๆประกอบเลย ผู้หญิงที่รู้จักตัวเองและรู้จักเลือกคนที่เข้ากับตัวเองได้คือผู้หญิงฉลาดเลือก
4. รักแบบเพื่อน ปลอดภัยและมั่นคง
ภาษากรีกโบราณได้แบ่งความหมายได้ชัดเจนระหว่างคำว่า eros (รักใคร่)กับ agape (ความรักแบบเพื่อน) การตกหลุมรักใครสักคนเพราะเขามีอะไรดึงดูดใจและต้องการอยู่กับเขา นั่นเป็นสิ่งที่ชักนำเราให้เข้าไปหาใครคนหนึ่ง แต่การจะอยู่กับใครสักคนให้ยืนยาวนานนั้น ต้องการความสัมพันธ์แบบเพื่อน ดังนั้นคุณลักษณะหลายๆประการที่คุณคาดหวังว่าเพื่อนที่ดีของคุณต้องมีก็คือคุณลักษณะที่ดีของคู่ชีวิตนั่นเอง
5. ชัดเจนกับตัวเองและเขาว่าคุณคาดหวังอะไรจากความสัมพันธ์ครั้งนี้
คุณคาดหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยาวนาน หรือว่าอยากเป็นแค่เพื่อนกับเขาก็ขอให้บอกกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหนีเตลิดไปเสียก่อนเพราะกลัวการผูกมัก แต่ถ้าเขาจะไปก็ปล่อยเขาไป เพราะนั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนที่คุณมองหา
6. อดีตและปัจจุบันเป็นตัวบอกอนาคต
คอยสังเกรคนที่จะมาเป็นว่าที่แฟนคนใหม่ของคุณว่าเขาปฎิบัติอย่างไรกับอดีตแฟน ครอบครัว หรือเพื่อน เช่น ถ้าเคยได้ยินเขาคุยกับผู้หญิงที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงไม่สุภาพ หรือพูดจาไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนนั้นก็รำลึกไว้เลยว่านั่นคือคุณในอนาคต และคุณจะไปเปลี่ยนแปลงนิสัยของเขาไม่ได้หรอก นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือตอนที่เขาอยู่กับครอบครัวคุณลองไปเที่ยวบ้านเขาแล้วลอบสังเกตดูสิว่าเขาปฎิบัติอย่างไรกับครอบครัว เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจ บางครั้งถ้าคุณไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้ชายของเขา เพื่อนบางคนอาจจะหลุดปากพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเขาที่คุณไม่เคยรู้ก็ได้
7. วิธีตัดสินปัญหาของเขา
หนึ่งในคำทำนายอนาคตว่าที่แฟนที่ดีข้อหนึ่งคือ ดูว่าผู้ชายคนนี้แก้ปัญหาอย่างไรเวลามีเรื่องทะเลาะกัน ถ้าเขาใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอันตรายถ้าเลือกจะครองคู่กับเขา ข้อแนะนำคือ ถ้าเราสังเกตเห็นว่าเขาชอบใช้กำลังตัดสินปัญหาและทำให้เรากลัว ก็ควรรีบถอยห่างจากผู้ชายประเภทนี้ทันที หรือสอบถามเพื่อนและคนใกล้ตัวเขาจะได้ข้อมูลมากกว่าที่เรามองเอง
8. สำหรับผู้หญิงที่มีลูกติดจากความรักครั้งเก่า
อันดับแรกที่คุณต้องสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือความรู้สึกของลูกคุณ จับเข่าคุยกับลูกอย่างตรงไปตรงมา แลกเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกซึ่งกันและกัน ฟังลูกให้มาก และอย่าเพิ่งรีบร้อนออกรับแทนผู้ชายคนใหม่
จากที่ได้รับอีเมล์หลายๆฉบับ ถามเรื่องความรัก การเลือกแฟนและอีกสารพัด บังเอิ๊ญ บังเอิญ เจ๊ไปอ่าน
แมรีแคลร์ พอเจ๊อ่านบทความนี้จบปุ๊บ คิดได้ทันใดว่าจะต้องแบ่งปันเสียแล้วล่ะ คุณผู้หญิงทั้งหลายอ่านแล้วก็อย่ามัวเฉยนะคะ การเลือกแฟนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงยุคใหม่จะทำได้ แต่ไม่ใช่การคบเผื่อเลือกนะจ๊ะ บอกแล้วเปิดอ่านผู้หญิงนะคะ ก็เหมือนได้อ่านแมกกาซีนหลายฉบับเลยนะ