ความเชื่อแต่ครั้งโบราณที่คงมีมาตราบทุกวันนี้ ก็คือว่า มือของคนเราคือแหล่งรับพลังอันยิ่งใหญ่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ที่ประทานให้ทั้งความเข้มแข็งแห่งพละกำลังและความอ่อนโยนในยามบำบัดรักษา ขณะเดียวกันมือก็สามารถคร่าชีวิตคน ศาสตร์แห่งการพยากรณ์จึงเชื่อกันว่า ชะตาชีวิตคนเราล้วนถูกกำหนดไว้บนฝ่ามือ
ส่วนเท้านั้น แม้จะเป็นส่วนต่ำที่สุดของร่างกาย และบางวัฒนธรรมถือเป็นของต่ำ แต่ก็มีความสำคัญ เพราะเท้าของเราเป็นส่วนที่ได้สัมผัสพื้นผิวโลกและสามารถดึงดูดพลังจากพื้นโลกเข้ามาเพิ่มพูนสมรรถนะแก่ร่างกาย คนยุคโบราณจึงนิยมเดินเท้าเปล่าเพื่อให้เท้าได้สัมผัสพื้นผิวโลก
มีคนกล่าวไว้ว่า มือคืออวัยวะที่แสดงสัญญาณแห่งความร่วงโรยได้ดีและเร็วกว่าใบหน้าเสียอีก ดังนั้น ใครที่เคยคิดว่ามือสำคัญน้อยกว่าใบหน้าคงต้องกลับมาคิดกันใหม่ การดูแลผิวสัมผัสของมือนั้น ต่างคนอาจมีกันสูตรแตกต่างกันไป แต่วันนี้เราจะนำสูตรตามตำรับอายุรเวทมาเล่าให้ฟัง
บันไดขั้นแรกที่นำไปสู่ มืองาม ก็คือความสะอาด และสิ่งซึ่งคัมภีร์อายุรเวทแนะนำไว้เพื่อใช้ทำความสะอาดมือก็คือ มะนาวสด โดยการนำมะนาวสดมาฝานเป็นชิ้นใส่ลงไปในน้ำอุ่น ทั้งกรดและกลิ่นของมะนาวจะช่วยให้มือสดชื่น ทั้งยังช่วยกำจัดกลิ่นที่ติดมือออกได้อย่างหมดจด
ขณะที่บางตำรับแนะนำให้ผู้หญิงใช้น้ำมันผสมน้ำตาลกรวดบดละเอียด ทาลงบนมือแล้วนวดเบาๆ เพื่อทำความสะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ซับมือด้วยผ้าเนื้อนุ่ม แต่หากฝ่ามือหยาบมากๆ ก็ให้ใช้เกลือป่นแทนน้ำตาลกรวด
นอกจากนี้ ยังมีสูตรการดูแลมือให้สะอาด อ่อนนุ่ม และมีสุขภาพดี อีกด้วย
สูตรทำความสะอาดมืออย่างล้ำลึก : สูตรนี้จะมีส่วนผสมของ น้ำผึ้งใส 1 ช้อนชา, ไข่ขาว 1 ฟอง, กลีเซอรีน 1 ช้อนชา และ ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนชา ให้นำส่วนผสมทั้งหมดมากวนให้เข้ากันแล้วทาลงบนมือ โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวด้าน ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงจึงค่อยล้างออก
สูตรแก้ไขฝ่ามือหยาบกร้าน : ส่วนผสมของสูตรนี้มี น้ำมันละหุ่ง 1 ช้อนโต๊ะ และ กลีเซอรีน 1 ช้อนโต๊ะ นำทั้งสองสิ่งนี้มาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทาลงบนฝ่ามือ ทั้งด้านนอกและด้านใน ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงจึงล้างออก แล้วทาด้วยครีมทามืออีกครั้งหนึ่ง
สูตรสร้างความนุ่มให้แก่ผิวหนัง : สูตรนี้สามารถใช้ได้ทั้งมือและเท้า ซึ่งเป็นสูตรที่ผสมขึ้นจากผลไม้ ทั้งสับปะรด หรือมะละกอ เนื่องเพราะสับปะรดนั้น จะมีทั้งกรดซิททริค และแมลลิค ที่จะช่วยทำความสะอาดหนังกำพร้า แถมยังมีองค์ประกอบของสารโบรมิไลน์ ที่ช่วยให้เกิดความนุ่ม ไข่แดงที่มีโปรตีนเพื่อการปรับสภาพผิว รวมทั้งน้ำไซเดอร์ที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ และช่วยทำความสะอาดหนังกำพร้าอีกชั้นหนึ่งด้วย
ส่วนผสมก็คือ น้ำสับปะรด/น้ำมะละกอครึ่ง 1 ช้อนโต๊ะ, ไข่แดงครึ่งช้อนชา และน้ำส้มไซเดอร์ 1 ช้อนชา ให้นำส่วนผสมทั้งหมดนี้มากวนให้เข้ากันแล้วทาลงบนมือหรือเท้า ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยล้างออก
อีกสูตรหนึ่งที่ช่วยให้มือนุ่มและมีกลิ่นหอม คือ น้ำผึ้งผสมน้ำส้มคั้น โดยใช้สองสิ่งนี้ในปริมาณเท่ากันมาผสม แล้วใช้ทามือ สูตรนี้จะช่วยให้ผิวหนังที่หยาบกระด้างอ่อนนุ่มขึ้น และยังเป็นการปรับสภาพผิว ส่วนผสมของสูตรนี้ยังสามารถใช้ทาหน้าได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวหน้านุ่มเนียนแล้วยังจะดูละเอียดอ่อนขึ้นอีก
ส่วนวิธีแก้ปัญหามือหยาบกร้านที่ได้ผลดีและรวดเร็วอีกวิธีหนึ่งก็คือ แช่มือในอ่างน้ำก้นตื้นที่ใส่น้ำมันมะกอก โดยแช่ไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นให้นวดเบาๆ เพื่อให้น้ำมันซึมลึกเข้าไปในผิวหนัง แล้วจึงเช็ดส่วนเกินออก ทำเช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงแห่งความหยาบกร้านของมืออย่างชัดเจน
สูตรครีมทามือ : ส่วนผสมของสูตรนี้ก็มี ไข่ขาว 1 ฟอง, ไขผึ้งสีขาวครึ่งถ้วยตวง, น้ำมันอัลมอนด์ครึ่งถ้วยตวง แลสารส้มเท่าปลายเล็บ ให้นำส่วนผสมทั้งหมดมากวนให้เข้ากันด้วยช้อนไม้จนเกิดครีมขาวข้น เอาใส่ลงในโถแก้ว ใช้ทามือและเท้าเป็นประจำทุกวัน โดยสารส้มที่ใส่จะไปช่วยป้องกันไม่ให้ไข่ขาวแข็งตัวขณะอยู่ในกระบวนการของการผสม ทั้งยังช่วยให้ครีมที่ผสมมีอายุการใช้งานนานขึ้นด้วย
สูตรครีมทามือผสมน้ำผึ้ง : สูตรนี้จะประกอบไปด้วย น้ำผึ้งใส 1 ช้อนชา, น้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำกุหลาบ 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำส้มไซเดอร์ 1 ช้อนชา ให้เริ่มด้วยการอุ่นน้ำผึ้งก่อนนำไปผสมน้ำมันอัลมอนด์ จากนั้นให้เอาน้ำกุหลาบกับน้ำไซเดอร์ผสมเข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆ รินใส่ลงในส่วนผสมของน้ำผึ้งทีละน้อยๆ คนให้เข้ากันไปเรื่อยๆ เมื่อทุกส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้เทใส่ขวดแก้วเก็บไว้ใช้ทามือและเท้า ใช้เป็นประจำทุกวัน