หากคุณเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ยินคำพูดประมาณว่า ฉันไม่มีอารมณ์ บ่อยครั้งจนนึกไม่ออกว่าทำไมภรรยาพูดได้ถี่กระชั้นขนาดนั้น คุณไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้
ผู้ชายส่วนใหญ่มักร้องทุกข์คล้ายๆ กัน ว่าภรรยาของพวกเขาไม่พร้อมที่จะมีเซ็กซ์บ่อยครั้งเท่าที่พวกเขาต้องการ คำว่า "ฉันไม่มีอารมณ์" สร้างความงุนงงให้สามีมานักต่อนัก ภรรยาเป็นอะไรกันนักกันหนา เขาทำอะไรผิดหรือ ทำไมเขาจึงได้ยินคำว่า "ฉันไม่มีอารมณ์" บ่อยเหลือเกิน แล้วเวลาไหนล่ะที่แม่เจ้าประคุณทูนหัวจะมีอารมณ์ นักจิตวิทยามี ความลับ 10 ข้อ เกี่ยวกับสิบสถานการณ์น่าทึ่งที่ทำให้ผู้หญิงเกิดความตื่นตัวทางอารมณ์มากเป็นพิเศษ
ลองอ่านแล้วไตร่ตรองดูว่าความลับข้อไหนพอจะตรงกับภรรยาของคุณหรือไม่ แล้วหาจังหวะสร้างสัมพันธ์ดีๆ ด้วยความลับในข้อนั้น
1. หลังจากการโต้คารม
การโต้คารมกันอย่างมีเหตุผล หรือ การขึ้นเสียงใส่กันด้วยเหตุผล จะมีปฏิกิริยาภายในร่างกายหลายอย่างเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือโลหิตในร่างกายจะสูบฉีดแรงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น นั่นคือการทำประสาทสัมผัสทั่วร่างตื่นตัวพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น จะหาเหตุผลใดมาโต้แย้ง สมองต้องเรียกพลังงานทุกอย่างมาใช้ การขึ้นเสียงจะรุนแรงไปถึงขั้นไหน มันจะลงมือกับฉันไหม ฯลฯ
เมื่อรวมกับการที่คุณได้มีโอกาสพูดความในใจออกไปตรงๆ ได้ระบายความรู้สึก จิตใจก็จะรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น ไม่รู้สึกว่าต้องเก็บกดอะไรไว้ในใจอีก และหากการปะทะคารมนี้ นำไปสู่ความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น คุณสองคนก็จะยิ่งมีความรู้สึกดีๆ ให้กันมากขึ้น
จึงเป็นโอกาสเหมาะ ที่ผู้ชายควรจะเป็นฝ่ายดึงตัวภรรยาเข้ามาสวมกอดด้วยความรัก จูบปลอบใจ จากนั้นอารมณ์จะนำไปทิศทางใดก็คงราบรื่นขึ้น แม้แต่การโต้คารมนั้นอาจทำให้ภรรยาเสียน้ำตาบ้าง แต่ถ้าจบลงด้วยความเข้าใจ ก็เป็นเรื่องที่พออนุโลมกันได้ ปล่อยให้เธอสงบลงสักเล็กน้อย เช็ดน้ำตาให้ และร่วมรัก
2. โอกาสความสุข
เช่นเดียวกับ "ความโกรธ" และ "ความเศร้า" ผู้หญิงมักต้องมีอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแน่นอนเมื่อในใจเกิดความรู้สึกว่าตัวเองมี"ความสุข"
ดังนั้น เมื่อถึงโอกาสที่ภรรยาได้รับปริญญาอีกใบ หรือได้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิม หรือพบว่าตนเองตั้งครรภ์หลังจากรอมานาน หรือเหตุอื่นๆ ที่นำมาซึ่งความสุขใจ จึงเป็นเวลาที่เอื้ออีกเช่นกัน ที่จะลองแปรความสุขใจนั้นไปสู่ความสัมพันธ์ทางร่างกาย
3. คลายความตึงเครียด
ผู้หญิงที่กำลังมีความตึงเครียด หรือตกอยู่ในความกดดันบางอย่าง ไม่ใช่อารมณ์เหมาะที่จะขอมีความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ "การบีบคั้น" หรือ "แรงกดดัน" ช่วยทำให้อารมณ์ก่อตัวขึ้น
หากภรรยาเครียดหัวแตกจากงานมาทั้งวัน แล้วสามีสามารถหาวิธีช่วยให้เธอได้ปลดปล่อยความรู้สึกแย่ๆ ออกไปจากตัวได้ เช่น คำพูดปลอบใจ ดอกไม้ช่อโต ของขวัญชิ้นโปรด ฯลฯ โอกาสที่ภรรยาจะประทับใจในตัวสามีเป็นพิเศษก็ยิ่งมีมากขึ้น โอกาสที่จะโน้มน้าวใจให้มีความสัมพันธ์กันทางร่างกายก็อาจเปิดทางสะดวกขึ้น และความรู้สึกหลังเสร็จสิ้นการจบลงบนเตียง ก็ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
4. ความหึงหวง
ความหึงหวงในที่นี้ ไม่ได้ หมายถึงความหึงหวงชนิดเป็นบ้าเป็นหลัง หึงได้ทุกเรื่อง หึงไม่มีเหตุผล แต่หมายถึงความรู้สึกของภรรยาที่เหมือน ไม่มั่นใจ ขึ้นมานิดหน่อย เวลาเห็นผู้หญิงคนอื่นสวยหรือมีบุคลิกดึงดูดความสนใจจากผู้ชายได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา การแต่งตัว หรืออากัปกิริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นมีเหตุให้ต้องพบปะกับสามีตัวเอง
สถานการณ์เช่นนี้ ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของ มักเกิดอาการขึ้นมาทันที อาการที่อยากจะเตือนสามี ว่าเขาก็มี ของมีค่า อยู่ที่บ้านเหมือนกัน
ภรรยาที่เกิดความรู้สึกเช่นนี้มักยินดี "ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง" เพื่อผูกมัดใจสามี รวมทั้งความสัมพันธ์ทางร่างกาย
หากต้องการให้ภรรยาเกิดความรู้สึกเช่นนี้ อาจต้องจัดฉากบ้าง แต่ห้ามจัดฉากบ่อย หรือจัดฉากแนบเนียนจนภรรยาแยกแทบไม่ออกว่าคุณกับผู้หญิงคนนั้นมีอะไรกันไปหรือยัง ไม่เช่นนั้นอาจต้องอธิบายกันยาวและอาจทำให้บ้านแตกได้ในที่สุด
5. นับเวลาสิบสี่วัน
เพราะอิทธิพลของฮอร์โมนเพศ ผู้หญิงจึงมัก "อยู่ในอารมณ์" ขณะที่ร่างกายกำลังผลิตเซลล์สืบพันธุ์ ดังนั้น จึงเป็นระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์ หรือ 14 วัน หลังจากวันตกไข่ครั้งสุดท้าย ที่บางทีอาจเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่เหมาะสมจะสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภรรยาได้ราบรื่นกว่าช่วงเวลาอื่นของเดือน
หากคุณเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ยินคำพูดประมาณว่า ฉันไม่มีอารมณ์ บ่อยครั้งจนนึกไม่ออกว่า ทำไมภรรยาพูดได้ถี่กระชั้นขนาดนั้น คุณไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวในโลกที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้
6. หลังงานเลี้ยงรื่นเริง
นักจิตวิทยาไม่ได้หมายความว่า ให้มอมเหล้าภรรยา แล้วหาประโยชน์จากอาการเมามายตอนเธอไม่ได้สติ แต่โดยธรรมชาติของผู้หญิง การเต้นรำ และ การดื่มเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้ผู้หญิงมักเกิดอารมณ์บางอย่างในใจ อย่างน้อยก็เริ่มมีความสุขที่ได้ทำอะไรสนุกๆ
ดังนั้น ถ้าภรรยาเลือกไปงานเลี้ยงสังสรรค์ใดงานครั้งต่อไป ยิ่งเป็นงานเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูงของเธอ ยิ่งดี เพราะเป็นงานที่เธอมีความสุขเป็นทุนเดิม ระหว่างงานก็หมั่นรินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เธอโปรด พาเธอออกไปเต้นรำขยับแข้งขยับขา ส่ายเอวส่ายสะโพกนิดๆ หน่อยๆ ก่อนก็ได้ถ้าเธอยังเขินอยู่ในระยะแรก แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นดึงเธอเข้ามาเต้นในอ้อมกอด ให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของคุณ
จากนั้นค่อยๆ จับตาดูอากัปกิริยาภรรยาว่า เธอขัดขืนหรือโอนอ่อนผ่อนตามมากน้อยแค่ไหนในงาน แล้วพอกลับถึงบ้าน คุณค่อยตัดสินใจว่าจะทำประการใด ส่วนใหญ่จะ "โอนอ่อนผ่อนตามมากขึ้น" เมื่อกลับถึงบ้าน
7. ภาพยนตร์อีโรติก
ผู้หญิงส่วนมากไม่ชอบภาพยนตร์ลามกอนาจาร หรือภาพยนตร์ที่แสดงออกทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง
ยกเว้นภาพยนตร์อีโรติกที่มี เลิฟซีนวาบหวาม ของแบรด พิตต์ หรือ แอนโตนิโอ แบนเดอราส หนังเกรดนี้ร้อนแรงเพียงพอแล้วที่จะก่อกวนความรู้สึกเซ็กซี่ในตัวผู้หญิงขึ้นมาได้
ลองเปลี่ยนค่ำคืนที่จืดชืดด้วยการเช่าหรือซื้อหนังแนวอีโรติก ที่มีพระเอกคนที่ภรรยาชื่นชอบ มานั่งชมด้วยกันแล้วค่ำคืนนั้นอาจเป็นค่ำคืนที่ปราศจากเสียง "ฉันไม่มีอารมณ์"
8. รักแท้ไม่แพ้ระยะทาง
คนรักกันชอบกันในยามที่ต้องอยู่ไกลกัน มักเกิดความรู้สึกห่วงหาซึ่งกันและกัน ความรู้สึกเช่นนี้เป็นประโยชน์กับความสัมพันธ์ทางร่างกาย
เมื่อไม่เห็นหน้ากันนานๆ ไม่ได้ใกล้ชิดกันเหมือนเคยเป็นเวลาหลายวันหรือนานเป็นสัปดาห์ สามีภรรยา(คนรักกัน)มักใช้วิธีโทรศัพท์คุยกัน เพื่อให้คลายความคิดถึง เรียกว่าไม่เห็นหน้าก็ขอให้ได้ยินเสียงก็ยังดี
สถานการณ์แบบนี้ ช่วยให้ความรู้สึกในยามที่ได้กลับมาพบหน้ากัน เต็มไปด้วยความทราบซึ้ง อยากสัมผัส อยากแตะต้องกันและกัน ถ้ารวมไปถึงสิ่งที่ "อยากทำ" ก็มักจะทำออกมาด้วยความรู้สึกที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ด้วยร้างราไปนาน
9. งดเว้นสัมพันธ์ทางร่างกายเป็นเวลานาน
นักจิตวิทยาเชื่อว่า ภรรยา(ที่เป็นปกติ)ยิ่งงดเว้นความสัมพันธ์ทางร่างกายเป็นระยะเวลานานมากเท่าใด ความต้องการทางเพศภายในร่างกาย ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ต้องสังเกตด้วยตัวเอง ช่วงไหนที่ห่างเหินความสัมพันธ์ทางร่างกายกันไปนานๆ เมื่อแน่ใจว่าเวลาสุกงอม ลองขยับเข้าประชิด มักได้รับความร่วมมือง่ายขึ้นจริงหรือเปล่า
10. ช่างจินตนาการ
หากภรรยาเป็นผู้หญิงที่ชื่นชอบและมีความสุขกับการใช้ "ความคิดสร้างสรรค์" ช่างคิดช่างฝัน หรือมีแนวคิดที่เปิดใจกว้างในการรับสิ่งใหม่ๆ รับความรู้สึกใหม่ๆ นี่คือ "สถานการณ์ทอง" อีกรูปแบบหนึ่ง
ผู้หญิงที่มีอารมณ์ลักษณะนี้ มักมีจินตนาการสูง ดังนั้น ไม่ว่าภรรยากำลังทำภารกิจอยู่ในห้องครัว หรือกำลังแต่งหน้า หรือกำลังฟังเพลง โอกาสต่างๆ เหล่านี้(หรือโอกาสอื่นๆ) ล้วนมีความเป็นไปได้ที่ภรรยาจะเปิดรับการสร้างสัมพันธ์ทางร่างกาย หากสามีอ้อนวอนอย่างรู้จังหวะ
สมมติว่าภรรยากำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว แม้เป็นสถานที่ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อการร่วมรัก แต่ถ้าสามีเป็นฝ่ายเริ่มโน้มน้าวใจ ถึงจะแปลกที่ แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ ก่อนรับประทานอาหาร ก็เป็นไปได้สูง ความต่างของสถานที่ก็เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง สำหรับภรรยาที่ชอบมีจินตนาการ
ผู้ชายส่วนใหญ่มักร้องทุกข์คล้ายๆ กัน ว่าภรรยาของพวกเขาไม่พร้อมที่จะมีเซ็กซ์บ่อยครั้งเท่าที่พวกเขาต้องการ คำว่า "ฉันไม่มีอารมณ์" สร้างความงุนงงให้สามีมานักต่อนัก ภรรยาเป็นอะไรกันนักกันหนา เขาทำอะไรผิดหรือ ทำไมเขาจึงได้ยินคำว่า "ฉันไม่มีอารมณ์" บ่อยเหลือเกิน แล้วเวลาไหนล่ะที่แม่เจ้าประคุณทูนหัวจะมีอารมณ์ นักจิตวิทยามี ความลับ 10 ข้อ เกี่ยวกับสิบสถานการณ์น่าทึ่งที่ทำให้ผู้หญิงเกิดความตื่นตัวทางอารมณ์มากเป็นพิเศษ
ลองอ่านแล้วไตร่ตรองดูว่าความลับข้อไหนพอจะตรงกับภรรยาของคุณหรือไม่ แล้วหาจังหวะสร้างสัมพันธ์ดีๆ ด้วยความลับในข้อนั้น
1. หลังจากการโต้คารม
การโต้คารมกันอย่างมีเหตุผล หรือ การขึ้นเสียงใส่กันด้วยเหตุผล จะมีปฏิกิริยาภายในร่างกายหลายอย่างเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือโลหิตในร่างกายจะสูบฉีดแรงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น นั่นคือการทำประสาทสัมผัสทั่วร่างตื่นตัวพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น จะหาเหตุผลใดมาโต้แย้ง สมองต้องเรียกพลังงานทุกอย่างมาใช้ การขึ้นเสียงจะรุนแรงไปถึงขั้นไหน มันจะลงมือกับฉันไหม ฯลฯ
เมื่อรวมกับการที่คุณได้มีโอกาสพูดความในใจออกไปตรงๆ ได้ระบายความรู้สึก จิตใจก็จะรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น ไม่รู้สึกว่าต้องเก็บกดอะไรไว้ในใจอีก และหากการปะทะคารมนี้ นำไปสู่ความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น คุณสองคนก็จะยิ่งมีความรู้สึกดีๆ ให้กันมากขึ้น
จึงเป็นโอกาสเหมาะ ที่ผู้ชายควรจะเป็นฝ่ายดึงตัวภรรยาเข้ามาสวมกอดด้วยความรัก จูบปลอบใจ จากนั้นอารมณ์จะนำไปทิศทางใดก็คงราบรื่นขึ้น แม้แต่การโต้คารมนั้นอาจทำให้ภรรยาเสียน้ำตาบ้าง แต่ถ้าจบลงด้วยความเข้าใจ ก็เป็นเรื่องที่พออนุโลมกันได้ ปล่อยให้เธอสงบลงสักเล็กน้อย เช็ดน้ำตาให้ และร่วมรัก
2. โอกาสความสุข
เช่นเดียวกับ "ความโกรธ" และ "ความเศร้า" ผู้หญิงมักต้องมีอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแน่นอนเมื่อในใจเกิดความรู้สึกว่าตัวเองมี"ความสุข"
ดังนั้น เมื่อถึงโอกาสที่ภรรยาได้รับปริญญาอีกใบ หรือได้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิม หรือพบว่าตนเองตั้งครรภ์หลังจากรอมานาน หรือเหตุอื่นๆ ที่นำมาซึ่งความสุขใจ จึงเป็นเวลาที่เอื้ออีกเช่นกัน ที่จะลองแปรความสุขใจนั้นไปสู่ความสัมพันธ์ทางร่างกาย
3. คลายความตึงเครียด
ผู้หญิงที่กำลังมีความตึงเครียด หรือตกอยู่ในความกดดันบางอย่าง ไม่ใช่อารมณ์เหมาะที่จะขอมีความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ "การบีบคั้น" หรือ "แรงกดดัน" ช่วยทำให้อารมณ์ก่อตัวขึ้น
หากภรรยาเครียดหัวแตกจากงานมาทั้งวัน แล้วสามีสามารถหาวิธีช่วยให้เธอได้ปลดปล่อยความรู้สึกแย่ๆ ออกไปจากตัวได้ เช่น คำพูดปลอบใจ ดอกไม้ช่อโต ของขวัญชิ้นโปรด ฯลฯ โอกาสที่ภรรยาจะประทับใจในตัวสามีเป็นพิเศษก็ยิ่งมีมากขึ้น โอกาสที่จะโน้มน้าวใจให้มีความสัมพันธ์กันทางร่างกายก็อาจเปิดทางสะดวกขึ้น และความรู้สึกหลังเสร็จสิ้นการจบลงบนเตียง ก็ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
4. ความหึงหวง
ความหึงหวงในที่นี้ ไม่ได้ หมายถึงความหึงหวงชนิดเป็นบ้าเป็นหลัง หึงได้ทุกเรื่อง หึงไม่มีเหตุผล แต่หมายถึงความรู้สึกของภรรยาที่เหมือน ไม่มั่นใจ ขึ้นมานิดหน่อย เวลาเห็นผู้หญิงคนอื่นสวยหรือมีบุคลิกดึงดูดความสนใจจากผู้ชายได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา การแต่งตัว หรืออากัปกิริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นมีเหตุให้ต้องพบปะกับสามีตัวเอง
สถานการณ์เช่นนี้ ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของ มักเกิดอาการขึ้นมาทันที อาการที่อยากจะเตือนสามี ว่าเขาก็มี ของมีค่า อยู่ที่บ้านเหมือนกัน
ภรรยาที่เกิดความรู้สึกเช่นนี้มักยินดี "ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง" เพื่อผูกมัดใจสามี รวมทั้งความสัมพันธ์ทางร่างกาย
หากต้องการให้ภรรยาเกิดความรู้สึกเช่นนี้ อาจต้องจัดฉากบ้าง แต่ห้ามจัดฉากบ่อย หรือจัดฉากแนบเนียนจนภรรยาแยกแทบไม่ออกว่าคุณกับผู้หญิงคนนั้นมีอะไรกันไปหรือยัง ไม่เช่นนั้นอาจต้องอธิบายกันยาวและอาจทำให้บ้านแตกได้ในที่สุด
5. นับเวลาสิบสี่วัน
เพราะอิทธิพลของฮอร์โมนเพศ ผู้หญิงจึงมัก "อยู่ในอารมณ์" ขณะที่ร่างกายกำลังผลิตเซลล์สืบพันธุ์ ดังนั้น จึงเป็นระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์ หรือ 14 วัน หลังจากวันตกไข่ครั้งสุดท้าย ที่บางทีอาจเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่เหมาะสมจะสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภรรยาได้ราบรื่นกว่าช่วงเวลาอื่นของเดือน
หากคุณเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ยินคำพูดประมาณว่า ฉันไม่มีอารมณ์ บ่อยครั้งจนนึกไม่ออกว่า ทำไมภรรยาพูดได้ถี่กระชั้นขนาดนั้น คุณไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวในโลกที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้
6. หลังงานเลี้ยงรื่นเริง
นักจิตวิทยาไม่ได้หมายความว่า ให้มอมเหล้าภรรยา แล้วหาประโยชน์จากอาการเมามายตอนเธอไม่ได้สติ แต่โดยธรรมชาติของผู้หญิง การเต้นรำ และ การดื่มเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้ผู้หญิงมักเกิดอารมณ์บางอย่างในใจ อย่างน้อยก็เริ่มมีความสุขที่ได้ทำอะไรสนุกๆ
ดังนั้น ถ้าภรรยาเลือกไปงานเลี้ยงสังสรรค์ใดงานครั้งต่อไป ยิ่งเป็นงานเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูงของเธอ ยิ่งดี เพราะเป็นงานที่เธอมีความสุขเป็นทุนเดิม ระหว่างงานก็หมั่นรินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เธอโปรด พาเธอออกไปเต้นรำขยับแข้งขยับขา ส่ายเอวส่ายสะโพกนิดๆ หน่อยๆ ก่อนก็ได้ถ้าเธอยังเขินอยู่ในระยะแรก แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นดึงเธอเข้ามาเต้นในอ้อมกอด ให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของคุณ
จากนั้นค่อยๆ จับตาดูอากัปกิริยาภรรยาว่า เธอขัดขืนหรือโอนอ่อนผ่อนตามมากน้อยแค่ไหนในงาน แล้วพอกลับถึงบ้าน คุณค่อยตัดสินใจว่าจะทำประการใด ส่วนใหญ่จะ "โอนอ่อนผ่อนตามมากขึ้น" เมื่อกลับถึงบ้าน
7. ภาพยนตร์อีโรติก
ผู้หญิงส่วนมากไม่ชอบภาพยนตร์ลามกอนาจาร หรือภาพยนตร์ที่แสดงออกทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง
ยกเว้นภาพยนตร์อีโรติกที่มี เลิฟซีนวาบหวาม ของแบรด พิตต์ หรือ แอนโตนิโอ แบนเดอราส หนังเกรดนี้ร้อนแรงเพียงพอแล้วที่จะก่อกวนความรู้สึกเซ็กซี่ในตัวผู้หญิงขึ้นมาได้
ลองเปลี่ยนค่ำคืนที่จืดชืดด้วยการเช่าหรือซื้อหนังแนวอีโรติก ที่มีพระเอกคนที่ภรรยาชื่นชอบ มานั่งชมด้วยกันแล้วค่ำคืนนั้นอาจเป็นค่ำคืนที่ปราศจากเสียง "ฉันไม่มีอารมณ์"
8. รักแท้ไม่แพ้ระยะทาง
คนรักกันชอบกันในยามที่ต้องอยู่ไกลกัน มักเกิดความรู้สึกห่วงหาซึ่งกันและกัน ความรู้สึกเช่นนี้เป็นประโยชน์กับความสัมพันธ์ทางร่างกาย
เมื่อไม่เห็นหน้ากันนานๆ ไม่ได้ใกล้ชิดกันเหมือนเคยเป็นเวลาหลายวันหรือนานเป็นสัปดาห์ สามีภรรยา(คนรักกัน)มักใช้วิธีโทรศัพท์คุยกัน เพื่อให้คลายความคิดถึง เรียกว่าไม่เห็นหน้าก็ขอให้ได้ยินเสียงก็ยังดี
สถานการณ์แบบนี้ ช่วยให้ความรู้สึกในยามที่ได้กลับมาพบหน้ากัน เต็มไปด้วยความทราบซึ้ง อยากสัมผัส อยากแตะต้องกันและกัน ถ้ารวมไปถึงสิ่งที่ "อยากทำ" ก็มักจะทำออกมาด้วยความรู้สึกที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ด้วยร้างราไปนาน
9. งดเว้นสัมพันธ์ทางร่างกายเป็นเวลานาน
นักจิตวิทยาเชื่อว่า ภรรยา(ที่เป็นปกติ)ยิ่งงดเว้นความสัมพันธ์ทางร่างกายเป็นระยะเวลานานมากเท่าใด ความต้องการทางเพศภายในร่างกาย ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ต้องสังเกตด้วยตัวเอง ช่วงไหนที่ห่างเหินความสัมพันธ์ทางร่างกายกันไปนานๆ เมื่อแน่ใจว่าเวลาสุกงอม ลองขยับเข้าประชิด มักได้รับความร่วมมือง่ายขึ้นจริงหรือเปล่า
10. ช่างจินตนาการ
หากภรรยาเป็นผู้หญิงที่ชื่นชอบและมีความสุขกับการใช้ "ความคิดสร้างสรรค์" ช่างคิดช่างฝัน หรือมีแนวคิดที่เปิดใจกว้างในการรับสิ่งใหม่ๆ รับความรู้สึกใหม่ๆ นี่คือ "สถานการณ์ทอง" อีกรูปแบบหนึ่ง
ผู้หญิงที่มีอารมณ์ลักษณะนี้ มักมีจินตนาการสูง ดังนั้น ไม่ว่าภรรยากำลังทำภารกิจอยู่ในห้องครัว หรือกำลังแต่งหน้า หรือกำลังฟังเพลง โอกาสต่างๆ เหล่านี้(หรือโอกาสอื่นๆ) ล้วนมีความเป็นไปได้ที่ภรรยาจะเปิดรับการสร้างสัมพันธ์ทางร่างกาย หากสามีอ้อนวอนอย่างรู้จังหวะ
สมมติว่าภรรยากำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว แม้เป็นสถานที่ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อการร่วมรัก แต่ถ้าสามีเป็นฝ่ายเริ่มโน้มน้าวใจ ถึงจะแปลกที่ แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ ก่อนรับประทานอาหาร ก็เป็นไปได้สูง ความต่างของสถานที่ก็เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง สำหรับภรรยาที่ชอบมีจินตนาการ
