ตำนานตุ๊กตา


ผมเขียนเรื่องนี้เพราะ มีท่านผู้อ่านขอมา ซันเดย์สเปเชียลฯ จึงขอนำเรื่องราว ของตุ๊กตาที่น่าสนใจ มาเสนอให้ท่านผู้อ่าน ตามคำเรียกร้องครับผม อันว่าตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อย ผมทองมั่ง ผมน้ำตาลมั่งที่หลับตาลืมตาได้ บางตัวร้องอุแว้ ๆ ก็ได้เนี่ย ท่านผู้อ่านอย่าได้นึกว่าฝรั่งมังค่า เป็นต้นคิดประดิษฐ์ขึ้นมา ล่อใจกุมารีเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้นะขอรับ ความจริงแล้ว อายุอานาม ของตุ๊กตาย้อนหลังไปจนโน่น ยุคไอยคุปต์สมัยปี 1900 ก่อน ค.ศ. คิดสะระตะออกมา ก็กว่าสามพันแปดร้อยปี เศษแล้วนั่นแน่ะ

ชาวไอยคุปต์โบราณ เขานิยมปั้นตุ๊กตาเพื่องานพิธีกรรมสำคัญ ๆ ด้วย พิธีกรรมอันสำมะคัญยิ่งยวดของชาวไอยคุปต์ เห็น จะไม่ต้องเซดท่านก็ทราบอยู่แล้วว่าได้แก่พิธีศพนั่นแล ในงานฝังศพบรรจุศพของคนใหญ่ คนโตที่มีกะตังค์จึงมักนิยมบรรจุตุ๊กตาพิธี หรือ ritual doll เข้าไว้ในห้องบรรจุศพด้วย ตุ๊กตาเหล่านี้เรียกว่า “ชวาบติ” (shwabti) บ้าง “เซอร์ดับ” (Serdub) บ้าง มีความหมายต่างกันคนละจุดประสงค์เลยเชียว คือ ชวาบตินั่นเป็นตุ๊กตาคนรับใช้ที่ให้ไปรับใช้คนตายในโลกหน้า แต่เซอร์ดับเป็นตุ๊กตากลประกอบด้วยเดือยกลไกกระเดื่องต่าง ๆ ให้สามารถทิ่มแทงคนที่บุกรุกสุสานจนเท่งทึงได้น่ะครับ

นอกจากไอยคุปต์ซึ่งมีอารยธรรมความเจริญก่อนหน้าใครแล้ว จีนก็เป็นชาติเก่าแก่อีกชาติหนึ่งที่ทำตุ๊กตาให้ลูกหลานเล่น ตุ๊กตาสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งทำด้วยดินเผาที่น่าจะแตกหักทำลายได้ง่ายกลับอยู่ยงคงกระพันมาจนถึงยุคนี้เชียวครับ แสดงว่าสมัยนั้นนิยมทำตุ๊กตาดินเผากันมากมายเหลือเกิน บรรจุลงไปในฮวงซุ้ยก็มาก เป็นส่วนหนึ่งของพิธีศพเช่นกัน อินเดีย, ญี่ปุ่น, อินเดียนแดงตลอดจน ถึงคนไทยโบราณ ล้วน ทำตุ๊กตาขึ้นเป็นของสำหรับผู้ใหญ่พอ ๆ กับเป็นของเด็กกันละครับ สำหรับเด็กน่ะตุ๊กตาเป็นของเล่น แต่ว่าสำหรับผู้ใหญ่ตุ๊กตาเป็น “ของจริง” ครับ เพราะเอาไปใช้ในพิธีการอันเอาจริงเอาจังหลายอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่หนักไปในทางพิธีไสยเวท เช่น ตุ๊กตาเสียกบาลของไทยสมัยสุโขทัย เป็นต้น

คนโบราณน่ะไม่จำกัดหรอกครับว่าตุ๊กตาต้องเล่นเพราะเด็กผู้หญิงเท่านั้น เขาให้ตุ๊กตาแก่ เด็กชายพอ ๆ กับให้แก่เด็กผู้หญิงด้วย ชาติโบราณอย่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ตลอดจนอินเดียนแดงหลายเผ่าล้วนให้ตุ๊กตาแก่เด็กผู้ชาย แต่รูปร่างของตุ๊กตาจะทะมัดทะแมงกว่าตุ๊กตาสำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งก็แหงละครับ เด็กผู้ชายจะได้รับตุ๊กตาทหารบ้าง นักรบบ้าง ในขณะที่เด็กหญิงได้ตุ๊กตาเพศเดียวกันที่สะสวยอ่อนหวาน ว่ากันว่าตุ๊กตาเป็นศูนย์รวมแห่งจินตนาการของเด็กชายเด็กหญิงพอ ๆ กัน นอกจากนี้ยังเป็นเพื่อนเล่น, เป็นที่ระบายอารมณ์เวลาโกรธ, เป็นที่เกิดของความคิดสร้างสรรค์ แก่เด็ก และที่สำคัญก็คือสำหรับเด็กผู้หญิงน่ะ ตุ๊กตาช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแม่ให้เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อเติบโตขึ้นจนถึงวัยมีเหย้ามีเรือน สัญชาตญาณนั้นก็ทำให้ เธอรักและผูกพันต่อลูก

ท่านที่สนใจศิลปกรรมกรีกโรมันคงนึกถามผมในใจ แล้วละซีท่า ว่าตุ๊กตาสำหรับเด็กกรีกและโรมันไม่มีกะเขาบ้างเหรอ? อ๋อ มีครับ มากเสียด้วยซี ตุ๊กตากรีกเก่าที่สุดมีอายุประมาณ 3,200 ปี พบที่เกาะครีต ทำด้วยดินเผา อย่างประณีตเชียวครับ ส่วนตุ๊กตาโรมันในยุคแรก ๆ นั้นเป็นดินเผาเหมือนกัน พบในหีบศพของเด็กหญิงจากตระกูลขุนนางผู้มั่งคั่งของโรม มีอายุราวๆศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลหรือราว 2,100 ปีมาแล้ว เป็นตุ๊กตาดินเผาที่มีเครื่องประดับเป็นทองคำแท้สวมอยู่ด้วย นับว่าเป็นตุ๊กตาที่มีค่าที่สุดตัวหนึ่งเท่าที่พบมาครับผม

เมื่อเวลาผ่านไปตุ๊กตาก็พัฒนาตัวเอง ไปด้วย ในฐานะของเล่นเด็ก ตุ๊กตาจะมีรูปร่างและแต่งกายตามสมัยนิยม ในยุคกลางตุ๊กตามักทำด้วยไม้แกะ ตกแต่งด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ ตามแฟชั่นของสาวน้อยยุคนั้น สมัยเรอเนสซองส์ ตุ๊กตาก้าวหน้าไปอีกนิดหนึ่งครับสำหรับเด็กหญิงในตระกูลสูง หรือร่ำรวยจะ สั่งทำตุ๊กตาที่มีหน้าตาเหมือนเจ้าของ ซึ่งไอเดียนี้ย้อนกลับมาฮิตอีก มีคุณแม่รายหนึ่งซึ่งมีลูกสาวน่ารักมากหลายคน เธอจึงทำตุ๊กตาหน้าเหมือนลูกสาวเปี๊ยบออกขาย เรียกว่า “ตุ๊กตาฝาแฝด” ปรากฏว่าขายดิบขายดีทีเดียว นอกจากนี้ ตุ๊กตายังพัฒนาไปมีบ้านของตนเอง เรียกว่าบ้านตุ๊กตา ซึ่งเหมือนบ้านจริง ๆ ย่อส่วนลงมาเหลือขนาดกระจิ๋ว พร้อมด้วยตุ๊กตาตัวกระจิ๋วอยู่ในบ้านด้วย

ตุ๊กตาผู้ใหญ่ที่ทำด้วยเครื่องเคลือบ พอสเลนอันมีชื่อเสียงน่ะ ตัวนึงราคาเป็น แสนก็มีนะครับ อย่างตุ๊กตากระเบื้อง เมืองเมส ฝรั่งโดยเฉพาะชาวยุโรป มีความเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า ตุ๊กตาชายหญิงอาจเป็นสัญลักษณ์ แห่งความอุดมสมบูรณ์ และการมีครรภ์ได้ ดังนั้น ท่านผู้อ่านจึงอย่าแปลกใจ ที่เห็นเค้กแต่งงานของคู่สมรสฝรั่ง เขาทำตุ๊กตาบ่าวสาว ไว้ตรงยอดขนมเค้กด้วย ที่ทำยังงั้นไม่ใช่ให้เป็นของประดับสวย ๆ เท่านั้น แต่มีความหมายว่า ขอให้คู่สมรสจงสมบูรณ์ พูนสุขและตั้งครรภ์เร็ว ๆ ไงล่ะครับ

ตุ๊กตาเพื่อความอุดมสมบูรณ์อย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับการมีครรภ์ ของคนก็มีอีกประการหนึ่งครับ นิยมใช้ในประเทศที่มีการเพาะปลูกเป็นหลัก ในอังกฤษและบางส่วนของยุโรปเขามีตุ๊กตาข้าวโพด (corn dollies) ซึ่งทำจากต้นข้าวชนิดต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวโพดเสมอไป เมื่อประดิษฐ์ ต้นข้าวมัดเป็นรูปตุ๊กตาแล้วก็ทำพิธีเชิญเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ มาอยู่ในตุ๊กตาตัวนี้เพื่อจะอำนวยความอุดมแก่การเพาะปลูกไปตลอดทั้งปี พิธีใช้ข้าวและธัญพืชมาทำเป็นตุ๊กตานี่ทางเอเชียก็มีแยะครับ เช่น ตุ๊กตา “ชายา” ของชวา รวมไปทั้งตุ๊กตาขอฝนของอิ๊กคิวซังด้วย

ในญี่ปุ่น มีเทศกาลตุ๊กตา สำหรับเด็กหญิงโดยเฉพาะ เรียกว่า “ฮีนะ มัตชูริ” บ้านที่มีลูกสาวทุกบ้าน จะจัดมุมหนึ่งเป็นสถานที่ทำพิธี เรียกว่า มุม “โตโกะนามะ” ซึ่งนำเอาตุ๊กตามาตั้งเรียงไว้ มีสองตัวที่สวยที่สุด จะแต่งเป็นรูปจักรพรรดิ และพระราชินี แล้วแม่จะพาลูกสาวมาในห้องนี้ สอนสั่งวิธีการเป็นกุลสตรีที่ดี ให้ต่อหน้าตุ๊กตาทั้ง หลายในห้องครับ เรื่องราวของตุ๊กตามีอีกมาก แต่ ผมขอสรุปมาเล่าความกันแค่นี้ก็พอ ใช้ได้แล้วนะครับท่านที่ขอมาคงพอใจ ส่วนท่านที่ไม่ได้ ขอก็นึกว่าอ่านสนุก ๆ นะครับ ในยุคปัจจุบันเด็กมีของเล่นมากมายหลายอย่างนอกเหนือไปจากตุ๊กตา แต่ถึงอย่างไรตุ๊กตาก็ยังเป็นขวัญใจของเด็กผู้หญิงอยู่น่านเองครับ ม่ายงั้นตุ๊กตาบาร์บี้จะขายดีเป็นเทน้ำ เทท่าเรอะ



Thairath





แสดงความคิดเห็น






Insurance


Advertisement