“LA VIE EST BELLE” L’EAU DE PARFUM LÉGÈRE

[ลา วี เอ แบลล์ โล เดอ ปาร์ฟูม เลแฌร์]

ความสำเร็จในรูปของความสุขที่แท้จริง…

“ทั้งหมดทั้งมวลเริ่มต้นจากความฝันประการหนึ่ง ซึ่งลังโคมอยากทำให้เป็นจริงมาตลอด 20 ปี หลังจากน้ำหอม Trésor ถือกำเนิดขึ้น ความฝันนั้นคือการสร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่นใหม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสุขในชีวิต น้ำหอมที่มีแนวคิดเข้ากับยุคสมัยและสอดคล้องกับความมุ่งมาดปรารถนาของผู้หญิงทั่วโลก น้ำหอมที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่และเป็นความท้าทายเกินคาดคิด ถึงกระนั้น... นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2012 La vie est belle น้ำหอมสตรีที่เรียกร้องให้ผู้หญิงรักและแสดงออกซึ่งความสุขในการดำเนินชีวิต ก็สามารถกุมหัวใจสาวๆ ได้อย่างไม่ยากนัก พวกเธอมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในน้ำหอมกลิ่นนี้ น้ำหอมซึ่งประสบความสำเร็จในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และครองตำแหน่งน้ำหอมขายดีอันดับต้นๆ ในการจัดอันดับน้ำหอมใหม่มาแรงแห่งปีทั่วโลก(1) ทั้งยังรั้งอันดับ 1 ในฝรั่งเศส ตั้งแต่แรกวางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันอีกด้วย (2)

นับเป็นความสำเร็จที่ต้องยกความดีความชอบให้กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในฐานะนักปรุงน้ำหอมชั้นเอกที่ลังโคมสั่งสมมาตั้งแต่ปี 1935 หาไม่แล้ว น้ำหอมที่เข้มข้นด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งได้ชื่อว่าล้ำค่าที่สุดในโลกนี้ คงเกิดขึ้นไม่ได้ นอกจากนั้น ยังต้องยกความดีความชอบให้กับเรื่องราวของรอยยิ้ม ซึ่งประทับอยู่กลางขวดน้ำหอม ด้วยฝีมือของช่างเจียระไนระดับปรมาจารย์ และที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษ คือ รอยยิ้มกว้างที่ผู้ชมจดจำได้ดี ของจูเลีย โรเบิร์ตส์ นางเอกผู้เปี่ยมไปด้วยความสุข ซึ่งทางลังโคมจับภาพไว้ในแคมเปญโฆษณาที่ผู้หญิงทั่วโลกชื่นชอบ!

เรื่องราวของรอยยิ้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป... เพื่อฉลองวาระครบรอบหนึ่งปีการเปิดตัวน้ำหอม La vie est belle ลังโคมจึงสร้างสรรค์น้ำหอม La vie est belle L’Eau de Parfum Légère ซึ่งมีกลิ่นบางเบากว่าในแบบ L’Eau de Parfum ม่านความหอมที่ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอิสรภาพและกลิ่นหอมหวานชวนหลงใหล และหอมจับใจ ชวนให้รู้สึกแจ่มใส และเข้มข้นเช่นเคย น้ำหอมที่อัดแน่นด้วยกลิ่นอายความสุขกลิ่นนี้ยังเล่าขานเรื่องราวของลังโคมอีกด้วย เพียงพร่างพรม คุณก็จะสัมผัสได้ถึงแก่นแท้แห่งฤดูร้อนในแบบฉบับของลังโคม…”

ยูเซฟ เอส. นาบิ 

ประธานลังโคม

LA VIE EST BELLE L’EAU DE PARFUM LÉGÈRE:

ม่านแห่งความสุข…

ลังโคมสร้างสรรค์น้ำหอมเวอร์ชั่นใหม่ที่บางเบากว่ากลิ่นดั้งเดิม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบน้ำหอม La vie est belle L’Eau de Parfum และผู้ปรารถนาจะเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่ประกาศความสุขในชีวิตอย่างรื่นรมย์ ผลงานสร้างสรรค์ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมอ่อนใส ดุจม่านบางเบาที่คลี่คลุมกลิ่นหอมของ La vie est belle L’Eau de Parfum สูตรดั้งเดิมไว้…

น้ำหอมเวอร์ชั่นนี้มีกลิ่นที่ละเมียดละไม โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมละมุนที่ให้ความรู้สึกหรูหราของไวท์มัสก์ ซึ่งห้อมล้อมกลิ่นหอมจัดของดอกไอริส ส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์ของ La vie est belle กลิ่นมัสก์จึงกลายเป็นหัวใจของน้ำหอมเวอร์ชั่นนี้ เพิ่มสัมผัสที่นุ่มนวล ปลอดโปร่ง และเผยแง่มุมที่อ่อนเบากว่า Eau de Parfum ทว่าสิ่งที่มิได้ลดทอนลงแต่อย่างใดคือ ความหอมหวานเย้ายวนชวนหลงใหล

เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ La vie est belle L’Eau de Parfum Légère ถือกำเนิดจากความเชี่ยวชาญการปรุงน้ำหอมของลังโคม และประกอบด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีความเข้มข้นสูงเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น หัวน้ำหอมเข้มข้นจากดอกมะลิ (Sambac jasmine) ดอกส้ม (orange blossom) และน้ำมันหอมระเหยสกัดบริสุทธิ์จากพิมเสน (patchouli) รวมถึงหัวน้ำหอมจากดอกไอริส แพลลิดา (Iris Pallida) หนึ่งในวัตถุดิบที่ล้ำค่าและหายากที่สุดในโลก ส่วนผสมชั้นสูงซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ทองคำสีคราม” แห่งวงการเครื่องหอมชนิดนี้ เผยความทันสมัยออกมาท่ามกลางการผสานกลิ่นหอมชวนหลงใหลของตองกาบีน (tonka bean) วานิลลา (vanilla) และพราลีน (praline)... 

ไม่เหมือนเวอร์ชั่นเดิมเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ถึงกับแตกต่างมากนัก L’Eau de Parfum Légère ล้อกับการรำลึกถึงอดีต อย่างความทรงจำเกี่ยวกับน้ำหอมที่รัก ซึ่งยังคงตราตรึงในความทรงจำทว่าในรูปแบบที่ละมุนละไมกว่า ตกแต่งด้วยสีสันและความหมายใหม่ ความจัดจ้านและบางเบาหลอมรวมเข้าด้วยกันเพื่อผลลัพธ์ที่เลอเลิศยิ่งกว่า 

มหัศจรรย์ครั้งใหม่ของกลิ่นดอกไอริสหอมยวนใจ 

หัวใจของ La vie est belle L’Eau de Parfum Légère อยู่ที่กลิ่นไอริสหอมยวนใจกลิ่นแรกของลังโคม อันเป็นเอกลักษณ์ บรรจุในขวดดีไซน์ใหม่ที่ยังคงทันสมัยทว่าต่างจากเดิมบ้างในบางรายละเอียด

ดอกไอริส แพลลิดา ราชาแห่งไอริสทั้งมวล อวดกลิ่นหัวน้ำหอมอันเลอค่า และเผยความซับซ้อนออกมาในน้ำหอมเวอร์ชั่นใหม่นี้ เมื่อแรกสัมผัส กลิ่นจะอ่อนเบาราวกับจะจางหายไปโดยง่าย ทว่าเพียงครู่เดียว กลับโชยกลิ่นหอมขจรขจาย อบอวลยิ่งขึ้น ดอกไม้อันเป็นตำนานนี้อัดแน่นด้วยความสุขแท้อันเป็นหัวใจของ La vie est belle L’Eau de Parfum และ L’Eau de Parfum Légère เหง้าของไอริส แพลลิดา มอบกลิ่นหอมชวนอัศจรรย์ เฉกเช่นเทพีไอริสในเทพปกรณัมกรีก ที่นำข่าวดีมาทูลต่อทวยเทพ… 

การเพิ่มแง่มุมที่หอมหวานยวนใจให้กับกลิ่นไอริสนั้นนับเป็นความท้าทายที่ฉีกกฎการปรุงน้ำหอมที่มีมาแต่โบราณ และสร้างนิยามใหม่ให้กับศิลปะการปรุงเครื่องหอม โอลิวิเยร์ โปลจ์ (Olivier Polge) อานน์ ฟลิโป (Anne Flipo) และโดมินีค รอปียง (Dominique Ropion) ต่างนำความสามารถพิเศษที่เติมเต็มซึ่งกันและกันมาใช้ในการปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้ กระบวนการพัฒนากลิ่นใช้เวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอยู่นานหลายปี และทดลองสร้างกลิ่นตัวอย่างมากกว่า 5,000 ตัวอย่าง เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่เหนือความคาดหมาย มีเสน่ห์เกินต้านทานด้วยแง่มุมที่ดูเหมือนขัดแย้งทว่ากลับส่งเสริมกันอยู่ในที ผลงานสร้างสรรค์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างแสงและเงานี้ ประกอบด้วยจุดเด่นของนักปรุงน้ำหอมแต่ละคน ทั้งความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่นของโอลิวิเยร์ โปลจ์ ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของโดมินีค รอปียง และความเป็นผู้หญิงของอานน์ ฟลิโป แล้วน้ำหอมกลิ่นไอริสอันหอมหวนยวนใจกลิ่นแรกของลังโคมก็ถือกำเนิดขึ้นด้วยประการฉะนี้…

ขวดแห่งความสุข: ดุจจับรอยยิ้มมาใส่ไว้ในขวดแก้วเจียระไน หวนย้อนสู่เรื่องราวดีๆ … 

ในปี 1949 อาร์มองด์ เปอติฌอง (Armand Petitjean) ตระหนักว่า แท้จริงแล้ว ความสุขคือเรื่องราวดีๆ เกินกว่าจะสรรหาถ้อยคำใดมาบรรยายได้ ซึ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างต่างไปจากเดิม อารมณ์ความรู้สึกที่มีค่ายิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้หญิงมีเสน่ห์เหนือความงามภายนอก

จอร์จส์ เดล็อมม์ (Georges Delhomme) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลปกรรมของลังโคมในยุคนั้น ทุ่มเทแรงใจแรงกายให้กับการสร้างสรรค์ขวดน้ำหอมที่ถ่ายทอดแก่นแท้แห่งความสุข และในที่สุดก็สามารถนำเสนอขวดน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใครต่ออาร์มองด์ เปอติฌอง ขวดน้ำหอมที่ดูราวกับประทับด้วยรอยยิ้ม: “le sourire de cristal” (“รอยยิ้มคริสตัล”) แม้ว่าผลงานชิ้นเอกซึ่งต้องอาศัยฝีมือเหนือชั้นของช่างแก้วผู้ชำนาญชิ้นนี้ไม่ได้ถูกผลิตออกใช้จริงในสมัยนั้น  ทว่าได้รับการเก็บรักษาแบบร่างไว้ในห้องเก็บเอกสารสำคัญของลังโคมนานถึง 63 ปี ก่อนที่จะถูกค้นพบและนำมาประยุกต์ใช้เป็นขวดน้ำหอม La vie est belle

ช่างแก้วผู้ชำนาญต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งปีจึงสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ต้องทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความอดทนและมุมานะ เพื่อสร้างรอยยิ้มคริสตัลให้สำเร็จ โดยจับรอยยิ้มมาใส่ลงในขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่โค้งมนอย่างลงตัว และมีน้ำหนักพอเหมาะ และแล้ว ขวดน้ำหอมสุดหรู ที่ผสานความเข้มแข็งของมุมเหลี่ยมเข้ากับความโค้งมนซึ่งให้ความรู้สึกเป็นผู้หญิง ใบนี้ ก็กลายเป็นบ้านของ La vie est belle L’Eau de Parfum Légère น้ำหอมซึ่งมีสีอ่อนลงเผยความกระจ่างใสในรูปแบบใหม่ ริบบิ้นผ้าออร์แกนซาสีเทาประกายมุกที่คอขวดก็มีสีอ่อนลงเช่นกัน เพื่อสื่อถึงบางเบาของน้ำหอม

หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความสุข:

จูเลีย โรเบิร์ตส์ ตัวแทนความงามซึ่งบ่งบอกถึงความสุข

“ความงามที่ใจ” เป็นแนวคิดที่ยากอธิบาย ทว่าสำหรับลังโคมแล้ว จูเลีย โรเบิร์ตส์ คือทูตความงามที่สะท้อนแนวคิดนั้นได้ดีที่สุด และแสดงให้เห็นถึงความงามที่ใจได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด 

เธอสามารถเป็นตัวแทนของผู้หญิง ทั้งในแง่ของความจริงใจและความหลากหลาย จูเลีย โรเบิร์ตส์ ทำให้ประจักษ์ด้วยวิธีที่ดูสบายๆ ขี้เล่น และเป็นมิตรในแบบของเธอ เธอเคยสวมบทบาทเป็นผู้หญิงมาแล้วทุกรูปแบบ ความจริงใจและความรับผิดชอบคือคุณสมบัติพื้นฐานในอาชีพของเธอ การมีอิสระที่จะเลือกคือการปฏิเสธที่จะเดินตามรอยที่มีคนอื่นขีดเส้นไว้ให้

 

นอกจากนั้น ยังมีรัศมีที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ เสน่ห์ดึงดูดใจที่มีมาโดยกำเนิด และความเจิดจรัสไม่เสื่อมคลาย ที่ส่งให้จูเลีย โรเบิร์ตส์ กลายเป็นดาวจรัสแสงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการภาพยนตร์ในทันที

สามปีที่ผ่านมา จูเลีย โรเบิร์ตส์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จุดประกายความมีชีวิตชีวาให้กับลังโคมด้วยความงามเจิดจรัสที่ไม่มีใครเหมือนของเธอ “La vie est belle” เป็นประโยคที่สะท้อนภาพอาชีพนักแสดงของเธอได้อย่างชัดเจน และสอดคล้องกับแนวคิดของน้ำหอมใหม่จากลังโคมเป็นที่สุด  

ใครเล่าจะถ่ายทอดอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเองและเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อประกาศความสุข และสะท้อนเรื่องราวที่จบลงด้วยความสุขตลอดกาล ได้ดีไปกว่าดาวจรัสแสงดวงนี้ 

รอยยิ้มที่งดงามที่สุดในโลก

เป็นอีกครั้งที่รัศมีของของจูเลีย โรเบิร์ตส์ ทำให้ปรัชญาความสุขที่ลังโคมยึดมั่นกระจ่างชัดขึ้น เธอคือตัวแทนอันแสนเจิดจรัสของอิสรภาพและความเป็นหญิงแห่งยุค  

ดั่งแถลงการณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความหมายสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ รอยยิ้มที่งดงามที่สุดในโลกบ่งบอกถึงความสุขได้ดีเช่นเคยสำหรับ La vie est belle L’Eau de Parfum Légère น้ำหอมใหม่ที่เป็นอีกวิธีในการเรียกขานลังโคม ประกาศชัยชนะของการอยู่เหนือการครอบงำ ทรัพย์สมบัติ และรูปลักษณ์ภายนอก มอบอิสระให้ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์เลือกมองความสุขในมุมของเธอเอง ผ่านกลิ่นหอมที่บางเบาทว่าสดใสเป็นอย่างยิ่ง 

LA VIE EST BELLE” L’EAU DE PARFUM LÉGÈRE

ขนาด 50 มล. ราคา 3,350 บาท